กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) (“โกลว์”) เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทโกลว์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้า ไอน้ำและน้ำเพื่อการอุตสาหกรรมรายใหญ่แห่งหนึ่งของประเทศไทย ได้สั่งซื้ออุปกรณ์ควบคุมกระแสไฟฟ้าลัดวงจรโดยใช้ตัวนำยิ่งยวด (SCFCL- Superconducting Fault Current Limiter) สองชุด จากบริษัท แอพพลายด์ แมททีเรียลส์ จำกัด (Applied Materials, Inc.) โดยโกลว์จะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวกับโครงข่ายไฟฟ้าในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เสริมการผลิตพลังงานที่มีเสถียรภาพมากขึ้น และจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่มีคุณภาพให้กับลูกค้า ซึ่งการใช้อุปกรณ์ควบคุมกระแสไฟฟ้าลัดวงจรโดยใช้ตัวนำยิ่งยวด หรือSCFCL ครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้น โดยลดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรและการเกิดการแรงดันไฟฟ้าตก ซึ่งมักเกิดขึ้นกับโครงข่ายไฟฟ้าขณะทำการจ่ายและส่งผ่านกระแสไฟฟ้า
กระแสไฟฟ้าลัดวงจร (fault current) ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากความผิดพลาด ซึ่งจะทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเกินในระบบ ก่อให้เกิดความเสียหายกับอุปกรณ์ และเป็นอุปสรรคกับระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้า กระแสไฟฟ้าลัดวงจรจะสูงขึ้น เมื่อมีหน่วยผลิตกระแสไฟฟ้าเพิ่มขึ้น และมีจำนวนจุดเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีของอุปกรณ์ SCFCL ถูกออกแบบมาเพื่อลดขนาดของกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่เกิดขึ้นในสายส่งตั้งแต่คลื่นแรก ทำให้สามารถลดความเสียหาย และยังช่วยเพิ่มเสถียรภาพให้กับอุปกรณ์ ในระบบไฟฟ้า โดยครั้งนี้ โกลว์ ได้สั่งซื้อ SCFCL ขนาด 115 kV จำนวน 2 ชุดเพื่อใช้ในระบบไฟฟ้าแรงสูง
นายเฮกกิ พูดาส รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายการผลิตของ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การลดของกระแสไฟฟ้าลัดวงจรเป็นสิ่งที่เราให้ความสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องการเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น ในฐานะบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ในประเทศไทย เราเข้าใจดีว่า การลดกระแสไฟฟ้าลัดวงจรนี้ จะทำให้โกลว์สามารถผลิตและจ่ายกระแสไฟฟ้าที่มีเสถียรภาพและความมั่นคงมากขึ้นเข้าสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้า การตัดสินใจใช้อุปกรณ์ SCFCL เพื่อทดแทนการใช้งบประมาณจำนวนมากกับการปรับปรุงระบบโครงข่ายไฟฟ้าทั้งระบบ จะทำให้เรามีผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีกว่า ซึ่งเป็นการขยายกำลังการผลิตโดยใช้ต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และยังเพิ่มความมั่นคงให้กับโครงข่ายไฟฟ้าทั้งระบบอีกด้วย”
“เรายินดีเป็นอย่างยิ่งที่ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) เลือกระบบ SCFCL ของเราเพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้า” นายออม นาลามาสุ ผู้อำนวยการอาวุโส และกรรมการอํานวยการฝ่ายเทคโนโลยีของบริษัท แอพพลายด์ แมททีเรียลส์ จำกัด กล่าว “ระบบโครงข่ายไฟฟ้าจำเป็นต้องมีความมั่นคงและมีเสถียรภาพอย่างมาก เพื่อที่จะสามารถจ่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง เราหวังว่าการติดตั้งระบบ SCFCL นี้ จะส่งผลดีด้านธุรกิจแก่โกลว์ในการลดต้นทุนการลงทุน จำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับโครงข่ายไฟฟ้า และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นจากความสามารถในการผลิตไฟฟ้าที่มากขึ้น”
ด้านการพัฒนาเทคโลโลยี SCFCL นั้น แอพพลายด์ฯ ใช้ประสบการณ์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าแรงสูง ที่ใช้ในอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ และได้จากความเชี่ยวชาญในด้านวิศวกรรมระบบอุปกรณ์ขนาดใหญ่ ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถอ่านได้จาก www.appliedmaterials.com/technologies/fault-current-limiters.
ความร่วมมือ ที่จะนำระบบ SCFCL ของแอพพลายด์มาใช้ครั้งนี้ ได้สร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันCentral Hudson Gas and Electric ในนิวยอร์คก็ได้ติดตั้ง SCFCL แล้วเช่นกัน โดยผลของการติดตั้งนั้น เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ โดยสามารถรักษาระบบสายส่งไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหาย หรือไฟตกเนื่องจากกระแสไฟฟ้าลัดวงจรที่สูงเกินขนาด
บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) มีบทบาทสำคัญในธุรกิจด้านพลังงานในประเทศไทย โดยมีกำลังผลิตไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 3,188เมกะวัตต์ และมีกำลังผลิตไอน้ำ 1,206 ตันต่อชั่วโมง ทั้งยังเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ภายใต้โครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP- Small Power Producer) และ ผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ (IPP- Independent Power Producer) ของไทย รวมถึงบริการผลิตไฟฟ้า ไอน้ำ และน้ำเพื่อการอุตสาหกรรม ให้แก่ลูกค้าอุตสาหกรรมรายใหญ่ ที่ตั้งอยู่บริเวณนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด และบริเวณใกล้เคียง ข้อมูลเพิ่มเติมของโกลว์ www.glow.co.th
บริษัท แอพพลายด์ แมททีเรียลส์ (Applied Materials, Inc.) อยู่ในตลาดหุ้น Nasdaq ภายใต้ชื่อย่อ AMAT เป็นผู้นำของโลกด้านการจัดการเชิงวิศวกรรมความเที่ยงตรงทางวัสดุ สำหรับอุตสาหกรรมสารกึ่งตัวนำ จอภาพแสดงผล และพลังงานจากแสงอาทิตย์ เทคโนโลยีของเราช่วยสร้างนวัตกรรมเช่น สมาร์ทโฟน ทีวีจอแบน และแผงโซลาร์ ให้ราคาถูกลงและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นสำหรับผู้บริโภค และธุรกิจทั่วโลก อ่านเพิ่มเติมได้จาก www.appliedmaterials.com