กรุงเทพฯ--8 มิ.ย.--Vero
- ยอดขาย: +12.7 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 4,430 ล้านยูโร (ยอดขาย +3.6 เปอร์เซ็นต์)
- กำไรจากการดำเนินงาน* +14.1 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 707 ล้านยูโร
- กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี* +0.2 เปอร์เซ็นต์เป็น16.0 เปอร์เซ็นต์
- กำไรสุทธิต่อหุ้นบุริมสิทธิ์ (EPS) +13.5 เปอร์เซ็นต์เป็น1.18 ยูโร
- ยอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่งในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ รายได้ยอดขาย +7.7 เปอร์เซ็นต์
“ท่ามกลางสภาพตลาดที่ท้าทาย เฮงเค็ลยังมีผลประกอบการที่แข็งแกร่งในไตรมาสแรกของปีนี้และเริ่มต้นปี พ.ศ. 2558 ได้อย่างดีเยี่ยม เป็นอีกครั้งที่เราสามารถเพิ่มทั้งยอดขายและรายได้ เราสามารถทำยอดขายประจำไตรมาสได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ซึ่งได้แรงขับเคลื่อนจากการเติบโตที่ดีของยอดขาย ผลกระทบจากการเข้าครอบครองกิจการเมื่อปีที่แล้วและการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ทุกกลุ่มธุรกิจมีส่วนสำคัญในการสร้างความสำเร็จประจำไตรมาสนี้ เรายังสามารถสร้างผลประกอบการที่แข็งแกร่งมากในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ของเราได้อีกครั้ง” มร. คาสเปอร์ รอร์สเต็ด ประธานกรรมการบริหารของเฮงเค็ลกล่าว
มร. รอร์สเต็ด ยังกล่าวถึงการดำเนินงานในปี พ.ศ. 2558 นี้ว่า “เฮงเค็ลคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยังคงอยู่ในสภาวะยากลำบาก เนื่องจากความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน เราคาดว่าเศรษฐกิจของยุโรปตะวันออกจะชะลอตัวในปีนี้ ความคล่องตัวและความยืดหยุ่นจะยังคงเป็นปัจจัยสำคัญสู่ความสำเร็จ เราจะเดินหน้าสร้างความเรียบง่ายและเร่งกระบวนการด้านโครงสร้างของเราต่อไป”
*ปรับปรุงสำหรับรายได้ที่เกิดขึ้นแบบครั้งเดียว ค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียว และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้าง
ยืนยันการประเมินธุรกิจในปี 2558
มร. รอร์สเต็ดยืนยันการประเมินธุรกิจในปีนี้ “เราคาดว่าการเติบโตของยอดขายจะอยู่ที่ 3 – 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 เราคาดการณ์ว่าอัตราผลตอบแทนต่อยอดขายจะเพิ่มขึ้นราว 16 เปอร์เซ็นต์ และเรายังหวังด้วยว่าจะได้เห็นอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้นบุริมสิทธิ์หลังการปรับปรุงเพิ่มขึ้นประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์”
ผลประกอบการและรายได้ในไตรมาสแรกปี 2558
ยอดขายของเฮงเค็ลในไตรมาสแรกของปี 2558 เพิ่มขึ้นอย่างมากที่ 12.7 เปอร์เซ็นต์ซึ่งเป็นยอดขายประจำไตรมาสที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วยมูลค่า 4,430 ล้านยูโร หลังการปรับปรุงผลกระทบของอัตราแลกเปลี่ยน 5.8 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 6.9 เปอร์เซ็นต์ อัตราการเติบโตยอดขายหลังปรับปรุงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศและการเข้าซื้อกิจการ ถอนการลงทุน เพิ่มขึ้น 3.6 เปอร์เซ็นต์
กลุ่มผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน มีการเติบโตของยอดขายที่แข็งแกร่ง 5.2 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายของกลุ่มธุรกิจเพื่อความงามเติบโต 2.1 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาวมียอดขายเติบโตสูงถึง3.3 เปอร์เซ็นต์
หลังพิจารณารายได้ที่เกิดขึ้นแบบครั้งเดียว ค่าใช้จ่ายแบบครั้งเดียว และค่าใช้จ่ายในการปรับโครงสร้างพบว่ากำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงเพิ่มขึ้น 14.1 เปอร์เซ็นต์ จาก 619 ล้านยูโรเป็น 707 ล้านยูโร ผลกำไรจากการดำเนินงาน (EBIT) ขยายตัว 6.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 608 ล้านยูโรเป็น 648 ล้านยูโร
ผลตอบแทนต่อยอดขายหลังปรับปรุง (กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี) เพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์เป็น 16.0 เปอร์เซ็นต์ ส่วนผลตอบแทนต่อยอดขายอยู่ที่ 14.6 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 15.5 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
ผลประกอบการของเฮงเค็ลปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 ล้านยูโรเป็น -9 ล้านยูโร อันเนื่องมาจากสถานะของดอกเบี้ยสุทธิที่ดีขึ้นและผลของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ โดยดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับปรุงดีขึ้นส่วนหนึ่งมาจากการชำระตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิ และอายุคงเหลือของดอกเบี้ยคงที่ในเดือนมีนาคม 2557 อัตราภาษีอยู่ที่ 24.6 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับเมื่อปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 23.1 เปอร์เซ็นต์
รายได้สุทธิหลังการปรับปรุงสำหรับไตรมาสแรกที่ผ่านมา หลังการหักดอกเบี้ยที่ควบคุมไม่ได้เพิ่มขึ้น 12.8 เปอร์เซ็นต์ จาก 452 ล้านยูโรเป็น 510 ล้านยูโร รายได้สุทธิของไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 5.7 เปอร์เซ็นต์ จาก 456 ล้านยูโรเป็น 482 ล้านยูโร เมื่อหักดอกเบี้ยที่ควบคุมไม่ได้ 12 ล้านยูโรแล้ว รายได้สุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 470 (ปีก่อนหน้า 449 ล้านยูโร)
ส่วนกำไรสุทธิต่อหุ้นบุริมสิทธิ์ (EPS) หลังการปรับปรุงเพิ่มขึ้น 13.5 เปอร์เซ็นต์ จาก 1.04 ยูโร เป็น 1.18 ยูโร ขณะที่การรายงานกำไรสุทธิต่อหุ้นบุริมสิทธิ์เพิ่มขึ้นจาก 1.04 ยูโรเป็น 1.09 ยูโร
อัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนสุทธิต่อยอดขายเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว 1.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 6.2 เปอร์เซ็นต์ การเพิ่มขึ้นดังกล่าวเกิดจากการครอบครองกิจการในปี 2557 และผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
สถานะทางการเงินสุทธิของเฮงเค็ลในวันที่ 31 เดือนมีนาคม 2558 อยู่ที่ 10 ล้านยูโร ขณะที่สถานะการเงินสุทธิเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2557 อยู่ที่ -153 ล้านยูโร
ผลประกอบการของกลุ่มธุรกิจในไตรมาสแรกของปี 2558
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือน เติบโตอย่างมีผลกำไรในไตรมาสแรกของปี 2558 ยอดขายมีการเติบโต 5.2 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งดีกว่าการเติบโตของหลายตลาดที่ เกี่ยวข้อง ทำให้เฮงเค็ลมีส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ยอดขายเพิ่มขึ้นในระดับเลขสองหลักอยู่ที่ 13.2 เปอร์เซ็นต์เป็น 1,298 ล้านยูโร (ไตรมาสแรกของปีที่แล้วอยู่ที่ 1,147 ล้านยูโร)
การเติบโตอันแข็งแกร่งของยอดขายส่วนใหญ่มาจากตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ ภูมิภาคแอฟริกา/ตะวันออกกลางมีการเติบโตด้วยเลขสองหลัก ยุโรปตะวันออกมีการขยายตัวที่มั่นคง ขณะที่ลาตินอเมริกามีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ยอดขายในตลาดเศรษฐกิจอิ่มตัวเติบโตในแดนบวกซึ่งมาจากผลประกอบการที่ดีในยุโรปตะวันตก โดยเฉพาะในเยอรมนี ยอดขายในอเมริกาเหนือยังคงเทียบเท่ากับไตรมาสแรกของปี 2557
กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วของกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าราว 16.7 เปอร์เซ็นต์เป็น 222 ล้านยูโร ขณะที่ผลตอบแทนต่อยอดขายที่ปรับปรุงแล้วอยู่ที่ 17.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับ 16.6 เปอร์เซ็นต์ในไตรมาสแรกของปี 2557 กำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 192 ล้านยูโร เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ 196 ล้านยูโร
กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม มีการเติบโตอย่างมีผลกำไรเช่นกันในไตรมาสแรกของปี 2558 ยอดขายเพิ่มขึ้น 2.1 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเติบโตมากกว่าหลายตลาดที่เกี่ยวข้อง จึงทำให้ได้ส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น ยอดขายมีการเติบโต 9.9 เปอร์เซ็นต์เป็น 940 ล้าน ยูโร (ไตรมาสแรกของปีก่อนหน้าอยู่ที่ 856 ล้านยูโร)
กลุ่มผลิตภัณฑ์เพื่อความงามยังคงประสบความสำเร็จในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่อย่างต่อเนื่องโดยมียอดขายที่เติบโตแข็งแกร่ง ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) แอฟริกา/ตะวันออกกลางและลาตินเมริกามีการเติบโตด้วยเลขสองหลัก ขณะที่ยุโรปตะวันออกยังคงมีพัฒนาการที่มั่นคง สถานการณ์ในตลาดเศรษฐกิจอิ่มตัวยังคงเผชิญกับความยากลำบาก ทำให้ยอดขายต่ำกว่า ไตรมาสแรกของปี 2557 ขณะที่การเติบโตในอเมริกาเหนือยังแข็งแกร่ง ยอดขายในตลาดเศรษฐกิจอิ่มตัวในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกต่ำกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า
กำไรจากการดำเนินงานที่ปรับปรุงแล้วของธุรกิจเพื่อความงามเพิ่มขึ้น 11.4 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้วแตะระดับ 150 ล้านยูโรเป็นครั้งแรก ผลตอบแทนต่อยอดขายหลังปรับปรุงแล้วเพิ่มขึ้น 0.2 เปอร์เซ็นต์เป็น 15.9 เปอร์เซ็นต์ กำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 17.0 เปอร์เซ็นต์เป็น 133 ล้านยูโร
กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาว มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง 3.3 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสแรก ยอดขายเพิ่มขึ้น 14.1 เปอร์เซ็นต์ มูลค่า 2,160 ล้านยูโร (เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว 1,893 ล้านยูโร)
ตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่มียอดขายเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยแอฟริกา/ตะวันออกกลางมีอัตราขยายตัวถึงสองหลัก ภูมิภาคเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) มีการเติบโตที่มั่นคง ธุรกิจในยุโรปตะวันออกมีผลประกอบการที่ดีเยี่ยมเช่นกัน ถึงแม้จะมีสถานการณ์การเมืองในบางส่วนของภูมิภาค ด้านลาตินอเมริกาเติบโตอย่างแข็งแกร่งเช่นกัน ยอดขายรวมในตลาดเศรษฐกิจอิ่มตัวอยู่ในแดนบวก อเมริกาเหนือมีอัตราการเติบโตที่มั่นคง ขณะที่ธุรกิจในตลาดเศรษฐกิจอิ่มตัวของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกถือว่าน่าพอใจเมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ยอดขายในยุโรปตะวันตกยังคงที่
กำไรจากการดำเนินงานหลังการปรับปรุงของธุรกิจเทคโนโลยีกาวเพิ่มขึ้นเป็นตัวเลขสองหลัก 10.6 เปอร์เซ็นต์ มีมูลค่า 353 ล้านยูโร ส่วนผลตอบแทนต่อยอดขายหลังการปรับปรุงอยู่ที่ 16.4 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต่ำกว่ายอดขายของไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วเนื่องจากได้รับผลกระทบจากการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนที่มีความสำคัญและการลงทุนในแบรนด์และนวัตกรรม ส่วนกำไรจากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 4.2 เปอร์เซ็นต์เป็น 345 ล้านยูโร
ผลประกอบการระดับภูมิภาคในไตรมาสแรกของปี 2558
ยอดขายของเฮงเค็ลในยุโรปตะวันตกเพิ่มขึ้น 5.6 เปอร์เซ็นต์เป็น 1,531 ล้านยูโร การเติบโตของยอดขายพุ่งสูงในระดับเดียวกับไตรมาสแรกของปีที่แล้ว ยอดขายในยุโรปตะวันออกอยู่ที่ 625 ล้านยูโรเทียบกับ 670 ล้านยูโรในไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า การเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง 6.7 เปอร์เซ็นต์ รัสเซียเป็นพลังขับเคลื่อนหลักด้วยการเติบโตของยอดขายถึงสองหลัก ยอดขายในแอฟริกา/ตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นจาก 277 ล้านยูโรเป็น 350 ล้านยูโร ถึงแม้สถานการณ์การเมืองจะส่งผลต่อการพัฒนาธุรกิจ แต่ยอดขายยังคงเติบโตด้วยเลขสองหลักที่ 12.3 เปอร์เซ็นต์ ในไตรมาสแรกของปี 2558 ทุกหน่วยธุรกิจเติบโตถึงสองหลักในภูมิภาคนี้
ยอดขายในอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นจาก 670 ล้านยูโรเป็น 885 ล้านยูโร ยอดขายเติบโตอย่างมั่นคงถึง 2.4 เปอร์เซ็นต์ ลาตินอเมริกามียอดขายโต 13.7 เปอร์เซ็นต์เป็น 274 ล้านยูโร ยอดขายเพิ่มขึ้น 5.3 เปอร์เซ็นต์ การขยายตัวที่แข็งแกร่งส่วนใหญ่มาจากผลประกอบการในเม็กซิโก ยอดขายในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกเพิ่มขึ้นจาก 588 ล้านยูโรเป็น 732 ล้านยูโร ยอดขายเพิ่มขึ้น 5.9 เปอร์เซ็นต์ ผลประกอบการที่มั่นคงมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งอย่างมากในจีน ส่วนในอินเดียและอินโดนีเซียมียอดขายเติบโตด้วยตัวเลขสองหลักเช่นกัน
ในตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ของยุโรปตะวันออก แอฟริกา/ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกาและเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) ยอดขายเพิ่มขึ้น 12.0 เปอร์เซ็นต์เป็น 1,870 ล้านยูโร ยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างมากอีกครั้งที่ 7.7 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสามกลุ่มธุรกิจช่วยขับเคลื่อนการเติบโตดังกล่าว โดยเมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ส่วนแบ่งยอดขายจากตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ยังคงที่ 42 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในตลาดอิ่มตัว ยอดขายเพิ่มขึ้น 0.6 เปอร์เซ็นต์และมีมูลค่าถึง 2,528 ล้าน ยูโร
การประเมินภาพรวมธุรกิจของกลุ่มเฮงเค็ลในปี 2558
เฮงเค็ลยังคงคาดการณ์การเติบโตของยอดขายที่ 3 – 5 เปอร์เซ็นต์ในปี 2558 เฮงเค็ลคาดว่ากลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีกาว และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ซักล้างและผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนจะเติบโตอยู่ในระดับดังกล่าว ขณะที่กลุ่มธุรกิจเพื่อความงามจะมีการเติบโตประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ เฮงเค็ลคาดหมายถึงการพัฒนาอย่างมั่นคงของสัดส่วนยอดขายจากตลาดเศรษฐกิจเกิดใหม่ โดยเมื่อเทียบกับปี 2557 แล้ว เฮงเค็ลประเมินผลตอบแทนต่อยอดขายหลังปรับปรุง (EBIT) จะเพิ่มขึ้นราว 16 เปอร์เซ็นต์ และกำไรสุทธิต่อหุ้นบุริมสิทธิ์หลังการปรับปรุงจะเพิ่มขึ้นราว 10 เปอร์เซ็นต์