กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้ และหมดหวังในชีวิตได้ลุกขึ้นมาต่อสู้อีกครั้งสำหรับ “ตู่” สมศักดิ์ ค้าขึ้น หนุ่มขาพิการอายุ 35 ปีที่รอดพ้นจากความตายมาแล้ว 4 ครั้ง และลุกขึ้นมาฮึดสู้กับโชคชะตาจนชีวิตเปลี่ยนสามารถคว้าแชมป์โลกจอมพลังเพาะกายปี 2009 ที่ประเทศอินเดียมาครอง และยังก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาพาราลิมปิกติดทีมชาติไทยคว้า 3 เหรียญทอง 2 เหรียญเงิน ล่าสุดเมื่อ 10.00 น.วันที่ 8 มิ.ย.58 “ตู่” สมศักดิ์ ค้าขึ้น หนุ่มหัวใจนักสู้ได้มาพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตในมุมต่างๆในรายการ ปากโป้ง ทางช่อง 8 ที่มี หนุ่ม- กรรชัย กำเนิดพลอย และ หนิง -ปณิตา ธรรมวัฒนะ รับหน้าที่พิธีกร
“ก่อนหน้าที่จะประสบอุบัติต้องตัดขาทิ้งนั้นผมก็ทำงานวงการบันเทิงด้วยก็เป็นสตั้นแมนเล่นละครแนวบู๊ทั่วไป จนกระทั่งเมื่อปี 44 ผมได้กับก๊วนเพื่อนนัดขี่มอไซด์ไปเที่ยวกันที่สังขละบุรีไปกันประมาณเกือบ 20 คันตอนนั้นก็ขึ้นไปพิชิตที่สังขละได้แล้วก็กำลังขับลงมาจากสังขละเพื่อที่จะไปเที่ยวต่อกันน้ำตกเอราวัณตอนที่ลงมานั้นฝนเพิ่งหยุดตกด้วย ตอนนั้นเพื่อนก็ขับอยู่ข้างหน้าผมขับเป็นคันสุดท้ายก็พยายามจะเร่งเพื่อที่จะให้ทันเพื่อนตอนนั้นขับมาประมาณ 200 ได้จนมาเจอโค้งหักศอกแล้วผมมองไม่เห็น พอเห็นผมก็แตะเบรคก็เลยทำให้รถเสียหลักสบัด แล้วตัวผมก็หลุดออกจากรถแล้วลอยอยู่บนอากาศตกลงมากระแทกกับพื้น ตอนนั้นยังไม่รู้สึกเจ็บอะไรแต่รู้ตัวว่าขาลงมาผิดรูปบิดไปหมด ผมก็เลยจับขามาไว้ข้างหน้าเหมือนเดิมแล้วก็นอนรอจนมีนักท่องเที่ยวฝรั่งเข้ามาช่วยเค้าบอกว่าเค้าเป็นหมอ ตอนเข้ามาช่วยเขาก็ตัดกางเกงยีนผมแล้วก็เอาไปอุดตรงเส้นเหลือใหญ่ที่ตอนนั้นเลือดไหลออกมาเยอะมาก จนกระทั่งรถมูลนิธิมาช่วยพาส่งต่อไปที่โรงพยาบาล”
“หลังจากที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลแล้วเพิ่งรู้ว่าตอนนั้นในตัวผมเหลือเลือดประมาณ 9% จาก 100% เพราะหลังจากประสบอุบัติทำให้เสียเลือดเยอะมาก ตอนนั้นทางโรงพยาบาลก็บอกกับทางบ้านว่าให้ทำใจนะเพราะว่าเสียเลือดมากโอกาสรอดน้อยมาก แต่สุดท้ายก็รอดมาได้พร้อมทางโรงพยาบาลก็ได้ต่อเส้นเลือดที่ขาซ้ายให้ด้วยที่ประสบอุบัติเหตุจนผ่านไป 5 วันแผลก็เริ่มเน่าหมอกลัวว่าจะติดเชื้อจึงตัดสินใจตัดขาเพื่อรักษาชีวิต ตอนแรกก็ตัดที่บริเวณหัวเข่าแต่แผลมันไม่ดีขึ้นก็ต้องไปให้ผมอตัดวันละนิดวันละหน่อยทุกวันจนเหลือต้นขานิดเดียว”
สมศักดิ์ กล่าวต่อว่า “หลังออกจากโรงพยาบาลก็กลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้านตอนนั้นไปไหนมาไหนก็ลำบากมากชีวิตเปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะ จากคนที่ทำงานได้ก็ทำไม่ได้ แฟนเมื่อก่อนมีตอนนี้ก็เลิกกัน เริ่มจากแฟนมาเยี่ยมบ้างจากนั้นก็หายไปเลย มารู้ตอนหลังว่าเค้าไปมีแฟนใหม่ ตอนนั้นยอมรับว่าชีวิตเครียดมากไม่รู้จะทำไงเพราะกลายเป็นคนพิการเพราะรู้สึกว่าเป็นภาระคนอื่น ก็เลยตัดสินใจกินยานอนหลับฆ่าตัวตาย ก็กินไปเยอะเหมือนกันกินเสร็จก็นอนหลับยาวไปเลย จนแม่รู้สึกแปลกใจว่าทำมัยนอนไม่ยอมตื่นมาเห็นอีกทีน้ำลายฟูมปากแล้วก็รีบพาส่งโรงพยาบาลตอนนั้นไปส่งที่โรงพยาบาลในอำเภอเขาก็ไม่รับแล้วเพราะอาการแย่มาก จนต้องไปส่งที่โรงพยาบาลในเมืองแล้วก็ล้างท้องช่วยชีวิตไว้ได้ ผมตื่นขึ้นมาเห็นแม่แล้วแม่ผมก็พูดว่า “ทำอะไรแบบนี้ไม่คิดถึงแม่หรือ จะทำอะไรขอให้แม่ตายก่อน”ตอนนั้นผมร้องไห้เลยและก็คิดว่าจากนี้ไปจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว”
“รักษาตัวจนดีขึ้นผมก็กลับมาฟิตร่างกายตัวเองและก็มุ่งมั่นว่าจะทำให้ตัวเองมีคุณค่าไม่ต้องเป็นภาระของใคร ส่วนขาก็ใส่ขาเทียมช่วงแรกก็ลำบากเหมือนกันในเรื่องของการจะเดินหรือว่าทำกิจกรรมต่างๆ จนมีพี่ที่รู้จักกันที่เขาคอยให้ความช่วยเหลือผมมาตลอดแนะนำให้มาเล่นกีฬาเพาะกายก็เลยสนใจลองมาฟิตร่างกายจนสามารถติดทีมชาติไทยไปแข่งขันกีฬาอาเชียนพาราเกมแล้วสามารถคว้าเหรียญทองได้ 3 เหรียญและเหรียญเงิน 2 เหรียญ พร้อมกับได้แชมป์โลกที่ประเทศอินเดียในปี 2009 อีกด้วย”
สมศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “ชีวิตผมเคยล้มลุกคลุกคลานมาแล้ว ชีวิตเกือบตายถึง 4 ครั้งด้วยคือกินเห็ดพิษ,ตกน้ำตก,อุบัติเหตุมอไซด์,และกินยาฆ่าตัวตาย แต่ก็รอดมาได้ก็เลยมีความคิดและความมุ่งมั่นที่จะทำตัวเองให้มีคุณค่าจนชีวิตก้าวมาสู่ความสำเร็จอีกครั้งจนตอนนี้ผมสามารถยึดกีฬาเป็นอาชีพได้ และตอนนี้เป็นเทรนเนอร์รับสอนคนที่จะมาเล่นกีฬาเพาะกายด้วย และอยากที่จะเป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังท้อแท้ชีวิตอยากให้ดูผมเป็นตัวอย่างว่าความพิการไม่ใช่ปัญหาหรือว่าอุปสรรคในการที่จะสู้ชีวิต อยากให้ทุกคนที่ท้อแท้กลับมาสู้ชีวิตอีกครั้ง”