กรุงเทพ--15 ก.ย.--ซึทาญ่า (ประเทศไทย)
ซึทาญ่าชี้วิกฤติเศรษฐกิจปัจจุบันส่งผลพฤติกรรมดูหนังคนไทยเปลี่ยน นิยมเช่าวิดีโอมากขึ้นและดูหนังที่โรงภาพยนตร์น้อยลง บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นเห็นโอกาสเร่งขยายสาขาในไทย ตั้งเป้าครบ 20 แห่งในสิ้นปีนี้ และจะขยายสาขาให้ครบ 150 แห่งในปี 2543 เพื่อก้าวสู่ผู้นำตลาดร้านวิดิโอในประเทศไทย
มร.โมโตญาซึ สุไก กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นเครือข่ายร้านวิดิโอซึทาญ่าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยแก่ผู่สื่อข่าวว่า ขณะนี้บริษัท คัลเจอร์ คอนวีเนียน คลับ ประเทศญี่ปุ่นได้ตัดสินใจรุกการลงทุนในธุรกิจวิดีโอในประเทศไทยอย่างเต็มรูปแบบ เนื่องจากเรามีความเชื่อมั่นว่าการลงทุนในธุรกิจนี้ในประเทศไทยมีลู่ทางที่สดใส แม้ประเทศไทยจะพบกับวิกฤติการเงินและเศรษฐกิจก็ตาม เพราะหลังจากที่ซึทาญ่าได้ทำการตลาดในประเทศไทยมาระยะหนึ่ง และจากสถิติการใช้บริการของลูกค้าในช่วงหลังปี 2540 รวมทั้งในช่วงครึ่งปีแรกปี 2541 ของสาขาทั้ง 9 แห่งที่เปิดดำเนินการไปแล้ว มีปริมาณลูกค้ามาเช่าวิดีโอมากขึ้น เราพบว่าเศรษฐกิจที่ถดถอยทำให้คนไทยนิยมเช่าวิดีโอมาดูที่บ้านกันเพิ่มขึ้น มีการไปดูภาพยนต์ที่โรงภาพยนตร์น้อยลงเนื่องจากการไปดูภาพยนตร์ที่โรงฯทำให้เกิดค่าใช้จ่ายที่สูงมาก”
มร.สุไก กล่าวต่อไป หลังจากสิ้นปีนี้เมื่อขยายสาขาครบตามเป้าแล้วบริษัทฯจะได้นำระบบการบริหารเครือข่าย (Logistics System) ของบริษัท คัลเจอร์ คอนวีเนียน คลับ ประเทศญี่ปุ่นเข้ามาใช้บริหารการสั่งซื้อ การจัดสต็อกสินค้า และวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแยกตามสาขา โดยได้เตรียมงบลงทุนเฉพาะระบบเครือข่ายนี้ไว้ถึง 100 ล้านบาท ระบบนี้เป็นระบบที่ซึทาญ่ามั่นใจมากว่าจะช่วยให้ผู้ร่วมลงทุนเป็นเฟรนไชส์ซี่ของเราสามารถบริหารงานในร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบสนองความต้องการของลูกค้า และประหยัดค่าใช้จ่ายสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ
ด้านนายวันดี พละพงค์พานิช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงแผนการขยายสาขาในประเทศไทยว่า ตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงสิ้นปี 2541 บริษัทฯได้ตั้งเป้าขยายสาขาเดือนละ 2-3 แห่ง ในเดือนกันยายนนี้จะเปิดสาขาเพิ่มที่เวลสุขสวัสดิ์ และโรบินสันดอนเมือง
นายวันดี กล่าวต่อไปว่า สำหรับกลยุทธ์การตลาดที่ใช้นั้นในช่วงแรกของการรุกตลาด ได้วางแนวคิดการเปิดร้านในลักษณะ Economy Shop ที่ใช้พื้นที่ไม่มาก ขนาดประมาณ 100 ตารางเมตร แล้วค่อยขยายพื้นที่เป็นร้านขนาดใหญ่ต่อไป เพื่อไม่ให้เฟรนไชส์ซี่ต้องใช้เงินลงทุนสูงเกินไป ซึ่งจะทำให้บริษัทฯสามารถเพิ่มปริมาณสาขาได้มากขึ้นในระยะเวลาที่รวดเร็ว ส่วนการส่งเสริมการขายในช่วงนี้ มุ่งการจัดรายการพิเศษเพื่อเพิ่มยอดลูกค้าใหม่ เช่น การสมัครสมาชิกฟรี คูปองส่วนลดต่างๆ ทั้งนี้เพื่อจูงใจให้มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการมากขึ้น
“สำหรับผู้ที่สนใจร่วมลงทุนเป็นเฟรนไชส์ซี่กับซึทาญ่านั้น จะได้รับการฝึกอบรมและถ่ายทอดการบริหารงานในแบบของซึทาญ่าที่ประสบความสำเร็จมาแล้วทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา โดยลักษณะของการลงทุนแบ่งเป็น 4 ระดับตามขนาดพื้นที่ ได้แก่ พื้นที่ขนาดใหญ่ 300-400 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 10-12 ล้านบาท พื้นที่ขนาดกลาง 200-250 ตารางเมตรขึ้นไป ใช้งบลงทุนประมาณ 7-8 ล้านบาท พื้นที่ขนาด 150-200 ตารางเมตรขึ้นไป ใช้งบลงทุนประมาณ 5-6 ล้านบาท และพื้นที่ขนาดเล็ก 100-150 ตารางเมตร ใช้งบลงทุนประมาณ 3-4 ล้านบาท ทั้งนี้โอกาสคืนทุนภายใน 2 ถึง 3 ปี ซึ่งมีผู้ยื่นข้อเสนอเข้าร่วมทุนในทุกขนาดพื้นที่แล้วกว่า 15 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาข้อตกลงระหว่างกัน” นายวันดี กล่าวในตอนท้าย
บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นเครือข่ายบริษัท คัลเจอร์ คอนวีเนียน คลับ ซึ่งให้บริการร้านวิดิโอในนาม “ซึทาญ่า” มาเป็นเวลา 13 ปี เป็นเครือข่ายร้านวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในประเทศญี่ปุ่น และก้าวขึ้นสู่ผู้นำธุรกิจร้านวิดีโอที่ใหญ่ที่สุดในโลกในปี 2540 มีสาขาในประเทศญี่ปุ่น 1,000 แห่ง มีสมาชิกมากถึง 15 ล้านคน ส่วนในอเมริกานั้นมีสาขาทั้งสิ้น 208 แห่ง และล่าสุดได้เปิดสาขาในประเทศเกาหลีเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึทาญ่าได้ให้ความสำคัญสำหรับการบรหารงานเครือข่ายสาขาให้มีประสิทธิภาพ โดยได้ใช้งบประมาณลงทุนในระบบการบริหารงานด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อบริหารเครือข่ายมากถึง 100 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนในด้านนี้ที่สูงที่สุดของผู้ประกอบการธุรกิจร้านวิดีโอ
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ บริษัท ซึทาญ่า (ประเทศไทย) จำกัด โทร 661 9441-4--จบ--