กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม
นายแพทย์ประภาส วีระพล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ระบบเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลเป็นเจตนารมณ์ของรัฐบาล เพื่อลดปัญหาการสำรองจ่ายค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ และพนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) โดยเฉพาะในโรคที่มีค่าใช้จ่ายสูง ผู้ที่มีสิทธิเข้าร่วมระบบจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาล คือ ผู้ป่วยที่มีสถานะเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ ผู้รับเบี้ยหวัดหรือบำนาญที่มีสิทธิได้รับสวัสดิการรักษาพยาบาลตามพระราชกฤษฏีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล ข้าราชการ พนักงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) รวมบุคคลในครอบครัวของบุคคลดังกล่าวข้างต้น (บิดา มารดา คู่สมรสและบุตร ๓ คน)
ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถสมัครเข้าร่วมระบบเบิกจ่ายตรงผู้ป่วยนอกได้ในโรงพยาบาลของรัฐ และสามารถสมัครได้มากกว่า ๑ โรงพยาบาลโดยไม่จำกัด ยกเว้น ผู้มีสิทธิสวัสดิการองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ยังไม่สามารถเข้าร่วมระบบเบิกจ่ายตรง โรงพยาบาลของรัฐในสังกัดทบวงมหาวิทยาลัย เช่น โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ฯลฯ
เอกสารที่ใช้ในการลงทะเบียนเข้าสู่ระบบเบิกจ่ายตรง สำหรับผู้ป่วยนอก ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวผู้ป่วย สำหรับครอบครัวของผู้มีสิทธิที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า ๗ ปี ใช้สูติบัตร/ทะเบียนบ้าน แทนบัตรประจำตัวประชาชน
ขั้นตอนการลงทะเบียน สแกนลายนิ้วมือเข้าร่วมระบบเบิกจ่ายตรง ต้องไปติดต่อกับโรงพยาบาลของรัฐที่ต้องการจะไปใช้สิทธิรักษาระบบเบิกจ่ายตรง เพื่อตรวจสอบสิทธิจากฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐของกรมบัญชีกลางหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ผู้ป่วยสามารถใช้ระบบจ่ายตรงได้หลังจากลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือแล้วประมาณ ๑๕ วัน
คำแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีชื่อในฐานข้อมูลบุคลากรภาครัฐของกรมบัญชีกลางหรือองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ให้ติดต่อนายทะเบียนของส่วนราชการที่ตนสังกัดอยู่ เพื่อทำการปรับปรุงข้อมูลในฐานข้อมูลให้สมบูรณ์ ถูกต้อง หลังจากมีชื่อในฐานข้อมูลถูกต้องแล้ว จึงจะสามารถลงทะเบียนสมัครเข้าสู่ระบบจ่ายตรงในสถานพยาบาลของทางราชการได้ทุกแห่ง
สำหรับการตรวจสุขภาพประจำปี ไม่สามารถใช้สิทธิระบบเบิกจ่ายตรงได้ ต้องนำใบเสร็จไปวางเบิกที่ต้นสังกัด การลงทะเบียนสแกนลายนิ้วมือใช้สิทธิรักษาระบบเบิกจ่ายตรงจะส่งผลให้ผู้มีสิทธิและบุคคลในครอบครัวสามารถเข้ารับบริการสาธารณสุขได้โดยไม่ต้องสำรองจ่าย หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่โรงพยาบาลของรัฐทุกแห่ง