กรุงเทพฯ--9 มิ.ย.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า ในการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงวัฒนธรรม เมื่อเร็วๆ นี้ ได้แจ้งให้ผู้บริหารแต่ละกรมรับทราบเกี่ยวกับมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เกี่ยวกับการให้รายงานโครงการที่มีการจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจัดงาน (ออแกไนซ์เซอร์) งานโฆษณาและงานประชาสัมพันธ์ที่มีวงเงินการจัดจ้าง ตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป โดยแจ้งกำชับว่าหากกรมใดมีการจัดจ้างออแกไนซ์เซอร์ที่ใช้งบประมาณตั้งแต่ 5 ล้านบาทนั้น จะต้องเร่งรายงานให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทราบก่อนจัดจ้าง เพื่อให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบฯ รวบรวมเสนอ ครม. ต่อไป ทั้งนี้ยังได้กำชับผู้บริหารแต่ละกรมแล้วว่าการดำเนินการจัดจ้างบริษัทเอกชนในการจัดงานนั้นให้เลือกจัดจ้าง เฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เพราะจากหลายๆกิจกรรมและหลายๆงานที่ให้ทางเจ้าหน้าที่และข้าราชการในแต่ละกรมก็จัดกิจกรรมและทำงานออกมาได้อย่างดีอยู่แล้ว ดังนั้นมองว่าไม่จำเป็นต้องมีการจัดจ้างออแกไนซ์เซอร์ในทุกกิจกรรมหรือทุกงานไป ที่สำคัญหากจัดจ้างออแกไนซ์เซอร์ จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกขั้นตอนด้วย
นายวีระ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในการประชุมยังได้มีการรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2558 ไตรมาส 3 ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงมิถุนายน ในภาพรวมของกรระทรวงพบว่า กรมศาสนา (ศน.) เบิกจ่ายงบประมาณได้ตรงตามแผนงานมากที่สุด ร้อยละ 72.34 สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (สศร.) ร้อยละ 72.11 กรมส่งเสริมวัฒนธรรม (สวธ.) ร้อยละ 57.25 สถาบันบัณฑิตย์พัฒนาศิลป์ (สบศ.) ร้อยละ 53 กรมศิลปการ ร้อยละ 47.69 สำนักปลัด วธ. ร้อยละ 46.40 ทั้งนี้ได้สั่งกำชับให้ผู้บริหารแต่ละกรม เร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องการเบิกจ่ายงบประมาณของแต่ละกรมว่าเป็นไปตามแผนที่วางไว้หรือว่า อย่างไรก็ตามพบว่ายังมีหลายกรมมีงบประมาณค้างอยู่และไม่มีการเบิกจ่าย จึงมอบหมายอธิบดีแต่ละกรมกลับไปดูว่ามีส่วนใดที่จะต้องเร่งปัญหาเพื่อให้การเบิกจ่ายเป็นไปตามแผนงาน ที่สำคัญเน้นย้ำกับผู้บริหารระดับสูงไปว่าการเบิกจ่ายงบประมาณต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และการใช้จ่ายต้องเหมาะสมและคุ้มค่า หากโครงการใดหรือว่ากิจกรรมใด ยังไม่มีความจำเป็นก็ไม่สมควรดำเนินการ สมควรสั่งยกเลิก เพื่อนำวงเงินงบประมาณมาใช้จ่ายในโครงการและภารกิจที่สำคัญกว่า