กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--IR network
บมจ.ลีซ อิท (LIT) รีบชี้แจงผู้ถือหุ้นและนักลงทุน บอกไม่ต้องตกใจ! สาเหตุที่ SVOA ต้องขายบิ๊กล็อตกว่า 10 ล้านหุ้น เพื่อจัดโครงสร้างทางการเงินของบริษัทแม่ เหตุต้องรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุนเหมือนกับกิจการที่ซื้อมาขายไปทั่วไปไม่ให้เกิน 2-3:1 ซึ่งจะทำให้ LIT ดำเนินธุรกิจได้อย่างอิสระและสามารถขยายธุรกิจให้เติบโตได้อีกหลายเท่าตัว "สมพล เอกธีรจิตต์"ระบุ SVOA แจ้งว่าไม่เคยคิดตีจากแม้แต่น้อย ยืนยันจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อีกนานเท่านาน จากนี้เดินหน้าปล่อยกู้สินเชื่อเอสเอ็มอีเต็มเหนี่ยว พอร์ตสินเชื่อทะลุ 1,000 ล้านบาท ภายในปี"58 รายได้-กำไร เติบโตปีละ 30% ตามแผน
นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) (LIT) เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากบริษัท เอสวีโอเอ จำกัด (มหาชน) (SVOA) ถึงสาเหตุที่ทำให้ SVOA ขาย Big lot หุ้น LIT ออกมาจำนวนกว่า 10 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา คือ เพื่อจัดโครงสร้างทางการเงิน จะได้ไม่ต้องเอางบการเงินของ LIT มาทำงบรวม (Consolidate) เข้ากับงบการเงินของ SVOA ซึ่งเป็นการดำเนินการตามคำแนะนำของผู้สอบบัญชี (Auditor) เนื่องจากปีนี้ (2558) มีการใช้มาตรฐานการบัญชีฉบับใหม่เรื่องการทำงบรวมการมีอิทธิพลของบริษัทแม่และที่ประชุมกรรมการของ SVOA ครั้งที่ 1/2558 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 ก็มีมติตามคำแนะนำนั้น โดยได้ทยอยลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด
"ที่ผ่านมาได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การลดสัดส่วนเหลือ 47% หรือการลาออกจากการเป็นกรรมการของคุณแจ็ค มินทร์ อิงค์ธเนศ ก็ยังไม่เพียงพอ ซึ่งการลดสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้จาก 47% เหลือ 39.50% ก็จะเพียงพอที่บริษัทแม่ไม่มีอำนาจควบคุมอีกต่อไป บนความเห็นของผู้สอบบัญชีของ SVOA ทั้งนี้ SVOA ได้ยืนยันว่า ต้องการที่จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่ยืนคียงข้างกับ LIT ไปตลอด หากไม่มีความจำเป็นเรื่องการ Consolidate งบการเงินแล้ว SVOA ก็ไม่เคยต้องการลดสัดส่วนการถือหุ้นในลงเลย"
เขากล่าวต่อว่าหากไม่จัดโครงสร้างทางการเงินในครั้งนี้ โดยปล่อยให้งบการเงินของ LIT มา Consolidate กับบริษัทแม่ ตามมาตรฐานการบัญชีใหม่จะทำให้ SVOA มีปัญหาในเรื่องของการมีภาระเงินกู้ที่มากเกินไปไม่เหมาะสมกับกิจการที่ซื้อมาขายไป (Trading) อย่าง SVOA ที่ควรมี D/E ratio เงินกู้ให้ไม่เกิน 2-3:1 ซึ่งจะกระทบกับการดำเนินธุรกิจของ LIT เอง เพราะอาจต้องกลับไปใช้เงื่อนไขเงินกู้เดียวกับ SVOA ซึ่งจะเป็นอุปสรรคในการขยายงานอย่างมาก เพราะด้วยลักษณะธุรกิจของอุตสาหกรรมที่เหมือนกับ LIT สามารถที่จะมี D/E ratio ได้ถึง 5-7 : 1 เท่า ซึ่งทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัว
“การลดสัดส่วนการถือหุ้นในครั้งนี้ จะช่วยให้ทั้งในส่วนของ SVOA ในฐานะบริษัทแม่ และ LIT มีความคล่องตัวในการดำเนินธุรกิจ ไม่ต้องกังวลในเรื่องสัดส่วนหนี้สินต่อทุน และมั่นใจว่าปีนี้พอร์ตสินเชื่อของ ลีซ อิท จะแตะที่ระดับ 1,000 ล้านบาท ขณะที่รายได้และกำไรคาดว่าจะเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 30% ได้อย่างแน่นอนและที่สำคัญการลดสัดส่วนของ SVOA จะเป็นการเพิ่ม Free Float ให้หุ้น LIT มีสภาพคล่องหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น” นายสมพลกล่าวในที่สุด