กรุงเทพฯ--10 มิ.ย.--มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น
สตาร์ เมคเกอร์ ว้อยซ์ อคาเดมี สถาบันฝึกสอนเทคนิคการใช้เสียงและลีลา ด้วยสื่อการเรียนการสอน Multimedia Teaching System (MTS)ภายใต้การควบคุมของกระทรวงศึกษาธิการ อำนวยการสอนโดย "ครูอ้วน" มณีนุช เสมรสุต ศิลปินนักร้องคุณภาพ เนรมิตเวทีกรมประชาสัมพันธ์ให้นักเรียนของสถาบันฯกว่า 100 ชีวิต ได้แสดงออกถึงความสามารถที่ได้รับการพัฒนาและฝึกฝนหลังจบหลักสูตรประจำปี ด้วยกิจกรรม “Star Maker Singing Contest 2015” การประกวดร้องเพลงในรอบชิงชนะเลิศ รูปแบบมิวสิคเคิลเป็นครั้งแรก ในเรื่อง Another Side of Nightmare ที่นำนิทานยอดฮิตถึง 3 เรื่อง คือ หนูน้อยหมวกแดง, เด็กเลี้ยงแกะ และ ลูกหมูสามตัว มาเรียงร้อยและผสานเข้ากับบทเพลงของผู้ประกวดอย่างสนุกสนาน โดยมีศิษย์เก่าและแขกรับเชิญพิเศษร่วมแสดง อาทิ ฟิลลิค มาญ่า จากThe Family Gang TV3, ประชา-ปราณี รักสินเจริญศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ดฟลาวมิลล์ จำกัด(มหาชน), น้องบิว ชนัญญา แสนเดช The Star10, พิมสิริ ทองร่มโพธิ์ Executive Management SF Cinema, พรรณสิรี อมาตยกุล กรรมการผู้จัดการ IBM ฯลฯ โดยรายได้จากบัตรเข้าชมงานหลังหักค่าใช้จ่ายมอบให้มูลนิธิชัยพัฒนา ณ หอประชุมใหญ่ กรมประชาสัมพันธ์
โดย ครูอ้วน-มณีนุช เสมรสุต ผู้อำนวยการสอนสถาบันสตาร์ เมคเกอร์ฯ กล่าวว่า กิจกรรม Star Maker Singing Contest เป็นกิจกรรมประจำปี ที่ทางสถาบันจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้กับผู้เรียนจบคลาสในแต่ละปีได้มีเวทีเพื่อแสดงออกถึงความสามารถที่ได้ถูกพัฒนาขึ้น ผู้ประกวดต้องตีโจทย์เพลงและทำวิดีโอประกอบเพื่อให้กรรมการและผู้ชมเข้าใจในสิ่งที่ผู้ประกวดต้องการจะถ่ายทอด นอกเหนือจากความสามารถในการร้อง เล่น เต้น พูด แล้ว ยังมีคะแนนความสามารถพิเศษ “This is me” 30 วินาที รวมทั้งจัดหาและทำงานร่วมกับนักแสดงสมทบที่จะมาช่วยส่งให้โชว์นั้นมีสีสันและสนุกมากขึ้น ที่สำคัญต้องทำการแสดงเพื่อให้ผ่านการคัดเลือกมาตั้งแต่รอบแรกๆในระดับสาขา จนมาเป็นตัวแทนของสาขา และ มาถึงรอบชิงชนะเลิศซึ่งเป็นรูปแบบการประกวดเช่นนี้ทุกๆปี
สำหรับกติกาการแข่งขัน Star Maker Singing Contest 2015 แบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 ประเภท คือ ผู้เข้าแข่งประเภทเดี่ยว และผู้เข้าแข่งขันประเภทกลุ่ม ในประเภทเพลงไทย เพลงไทยสากล และเพลงลูกทุ่ง ใน 4 รุ่นการแข่งขัน คือ รุ่นที่ 1 อายุ 5-7 ปี, รุ่นที่ 2 อายุ 8-12 ปี, รุ่นที่ 3 อายุ 13-18 ปี และ รุ่นที่ 4 คืออายุ 19 ปีขึ้นไป มีผู้เข้าแข่งขันรุ่นละ 7 คน
โดยมี 2 ผู้ชนะเลิศการประกวดเวที ““Star Maker Singing Contest 2015” คว้ารางวัลยอดเยี่ยม และรางวัล Best Creative ได้แก่ น้องนาเดียร์-ด.ญ. รามาวดี โชคมานุสรณ์ และ น้องอู๋-นายจุฑา เลิศดำรงธรรม
ด้าน น้องนาเดียร์-ด.ญ. รามาวดี โชคมานุสรณ์ สาวน้อยวัย 12 ปี นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนสวนกุหลาบรังสิต (EP) สามารถชนะใจกรรมการได้จากความสามารถใน การตีโจทย์เพลง จนได้รางวัลBest Creative ด้วย และยังสามารถแสดงศักยภาพ และสร้างสรรค์งาน ตีโจทย์เพลงให้กับคนดูได้อย่างเข้าใจ บวกการร้องที่สอดคล้อง ทำให้สามารถสื่อเพลงได้อย่างประทับใจ ซึ่งเจ้าตัวได้เผยความรู้สึกหลังคว้ารางวัลยอดเยี่ยมมาครองได้ว่า รู้สึกดีใจมาก เพราะเรียนมาหลายปีแล้วจึงนับว่าประสบความสำเร็จอย่างที่เราต้องการ ส่วนตัวเป็นคนชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ คุณป้าเลยให้มาเรียนร้องเพลงตั้งแต่ประมาณ 7-8 ขวบ เพราะนอกจากการร้องเพลงช่วยให้เราใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ เราสามารถช่วยกิจกรรมของโรงเรียนได้อีกด้วย
“สำหรับการประกวดในครั้งนี้นาเดียร์มีการเตรียมตัวมาเป็นอย่างดี ไปเรียนร้องเพลงเพื่อให้เสียงแข็งแรงขึ้น และซ้อมเยอะมาก ส่วนตัวคิดว่าตัวเองเหมาะกับเพลงแนวมิวสิคเคิล จึงเลือกเพลงแค่หลับตามาร้องประกวด เพราะคิดว่าเป็นแนวเพลงที่เหมาะกับตัวเอง ส่วนเคล็ดลับที่ทำให้เราชนะการประกวด หนูคิดว่าเราต้องหาตัวเองให้เจอก่อน และต้องขยันฝึกซ้อมไปเรื่อยๆ ให้ดีขึ้น” น้องนาเดียร์เสริม
ด้าน น้องอู๋ -จุฑา เลิศดำรงธรรม อายุ 17 ปี นักเรียนชั้นมัธยมปีที่ 5 ที่ โรงเรียน เซนต์ดอมินิก เล่าว่า ตนดีใจมากที่สามารถคว้ารางวัลบนเวทีมาได้ เพราะเป็นสิ่งที่ไม่คาดคิด เนื่องจากผู้แข่งขันคนอื่นๆต่างก็เก่งและมีความสามารถมากเช่นกัน แต่ก็พยายามตั้งสติและมีสมาธิกับการร้องเพลง ทำให้ดีที่สุดจนสามารถผ่านมาได้
“อู๋ชอบร้องเพลงมาตั้งแต่เด็กๆ ก่อนจะมาเรียนร้องเพลงตอนนั้นร้องเพี้ยนมาก แต่ผมก็ตั้งใจ พยายาม ฝึกฝนมาตลอด ลองไปประกวดมาหลายเวทีที่ไม่ผ่านมาเยอะ แต่ก็ได้คุณครูมาช่วยแก้ไขให้ตรงจุด บวกกับทักษะจากประสบการณ์เวทีต่างๆ ทำให้ผมมีวันนี้ได้ สำหรับผู้ที่จะขึ้นเวทีประกวดร้องเพลง ผมว่าอย่างแรกเราต้องมีสมาธิจดจ่อกับการร้องเพลง ซ้อมเยอะๆ ตั้งใจ มีความมุ่งมั่น ซึ่งการร้องเพลงได้ให้อะไรผมมากมายทั้ง ทำให้เรากล้าแสดงออก บุคลิกดีขึ้น โดยเฉพาะเวลาต้องขึ้นเวที ทำให้เรามีความกล้ายืนพรีเซ้นต์ต่อหน้าคนอื่นๆมากมาย” น้องอู๋กล่าว