กรุงเทพฯ--11 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 11 มิถุนายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,183.50-1,187.71 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 18,990 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,970 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.43 น.ของวันที่ 11/06/15)
แนวโน้มวันที่ 12 มิถุนายน 2558
รัฐบาลจีนเผชิญกับภารกิจที่ยากลำบากในการกระตุ้นการลงทุนเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจที่ชะลอตัว กระทรวงการคลังจีนเปิดเผยว่าการใช้จ่ายด้านการคลังของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 2.6% ในเดือนพฤษภาคมจากปีก่อน โดยชะลอลงอย่างมากจากที่เพิ่มขึ้น 33.2% ใน เดือนเมษายน ขณะที่การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนเติบโตในเดือนพฤษภาคมในอัตราที่เชื่องช้าที่สุดในรอบเกือบ 15 ปีและเติบโตในอัตราที่ต่ำเกินคาด แม้ว่ารัฐบาลจีนดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ทิศทางเศรษฐกิจจีนที่อ่อนตัวลงกดดันแรงซื้อทองคำจากจีนให้ชะลอตัวลงตามขณะที่นายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียงของจีน แสดงความกังวลต่อเศรษฐกิจจีนเผชิญกับแรงกดดันในช่วงขาลงอย่างรุนแรงเนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงอยู่ในภาวะไม่สม่ำเสมอ อย่างไรก็ตามความตรึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นจากความขัดแย้ง เนื่องจากการอ้างสิทธิการครอบครองหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ เมื่อกระทรวงกลาโหมของจีน ส่งเรือรบและเครื่องบินเดินทางผ่านช่องแคบบาชิที่คั่นระหว่างไต้หวันกับฟิลิปปินส์ เพื่อซ้อมรบตามปกติในแปซิฟิกตะวันตก การเคลื่อนไหวของจีนเพื่อยืนยันการอ้างกรรมสิทธิ์เหนือพื้นที่ทับซ้อนในทะเลตะวันออกและทะเลจีนใต้มากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่พื้นที่ทับซ้อนในทะเลจีนใต้ก็ถูกอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนฟิลิปปินส์, เวียดนาม, มาเลเซีย, ไต้หวันและบรูไน เช่นกัน ประเด็นดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามายังตลาดทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อราคาอ่อนตัวลง เบื้องต้นวายแอลจี แนะนำให้เข้าซื้อขายเพื่อเก็งกำไรระยะสั้น เนื่องจากหากราคาไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,193-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไร แต่ถ้าสามารถผ่านไปได้ให้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้แนะนำให้ถือต่อไป ทั้งนี้ การอ่อนตัวลงของราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,173-1,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง ถือเป็นย่อตัวลงเพื่อสร้างฐานราคาและสะสมกำลัง
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณที่ 1,193-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ นักลงทุนที่สะสมทองคำไว้อาจมีการแบ่งขายทำกำไรบ้างส่วนออกมาบ้างหรือ หากราคายืนไม่อยู่อาจเสี่ยงเปิดสถานะขายบริเวณนั้นและตัดขาดทุนหากราคาสามารถยืนกลับขึ้นไปยืนได้ ขณะที่หากต้องการรอเปิดสถานะซื้อ อาจต้องรอดูการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ แนะนำนักลงทุนสามารถเก็งกำไร โดยเน้นไปที่การลงทุนระยะสั้น ทั้งนี้ประเมินแนวรับไว้ที่ 1,173 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแนวรับถัดไปอยู่ที่ 1,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนเพื่อควบคุมความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,173 (18,700บาท) 1,163 (18,540บาท) 1,150 (18,330บาท)
แนวต้าน 1,193 (19,020บาท) 1,203 (19,180บาท) 1,210 (19,290บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,173 (18,790บาท) 1,163 (18,630บาท) 1,150 (18,420บาท)
แนวต้าน 1,193 (19,110บาท) 1,203 (19,270บาท) 1,210 (19,390บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148