กรุงเทพฯ--12 มิ.ย.--ปตท.
เปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนใน 13 โรงเรียน เพิ่มทักษะผ่านค่ายความรู้ปิโตรเลียม ปิโตรเคมี และสิ่งแวดล้อม สนับสนุนทุนการศึกษาในระดับอุดมศึกษา คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
วันนี้ (12 มิถุนายน 2558) เวลา 14.00 น. ที่ อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) นายประเสริฐ สลิลอำไพ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่สื่อสารองค์กรและกิจการเพื่อสังคม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ รองศาสตราจารย์ ดร.เชาวลิต ลิ้มมณีวิจิตร รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษา มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในโครงการค่าย “ปิโตรแคมป์สู่แชมป์ปิโตร” ทั้งนี้ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียม ปิโตรเคมีและสิ่งแวดล้อม ให้แก่เยาวชนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายใน 13 โรงเรียนพื้นที่เป้าหมายประกอบด้วย โรงเรียนมาบตาพุดพันพิทยาคาร โรงเรียนระยองวิทยาคม โรงเรียนระยองวิทยาคม(นิคมอุตสาหกรรม) โรงเรียนระยองวิทยาคม(ปากน้ำ) โรงเรียนวัดป่าประดู่ โรงเรียนบ้านฉางกาญจนกุลวิทยา โรงเรียนอัสสัมชัญระยอง โรงเรียนวังจันทร์วิทยา จังหวัดระยอง โรงเรียนเสด็จวนชยางค์กูลวิทยา โรงเรียนเขลางค์นครวิทยา จังหวัดลำปาง โรงเรียนขอนแก่นพัฒนศึกษา จังหวัดขอนแก่น โรงเรียนเสาไห้ “วิมลวิทยานุกูล” จังหวัดสระบุรี และโรงเรียนบ่อไร่วิทยาคม จังหวัดตราด นอกจากนั้น ปตท. ยังได้พิจารณามอบทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการค่าย “ปิโตรแคมป์ สู่แชมป์ปิโตร” และได้รับสิทธิ์เข้าศึกษาต่อในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเคมี และภาควิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จำนวนภาควิชาละ 4 ทุน รวมทั้งสิ้นจำนวน 8 ทุน โดยเป็นทุนต่อเนื่องระยะเวลาการศึกษา4 ปี ทั้งนี้ ตั้งแต่ปี 2551 - 2557 ปตท. ได้ให้การสนับสนุนทุนการศึกษาแก่เยาวชนในโครงการดังกล่าวแล้วจำนวน 41 ทุน สำหรับในปีการศึกษา 2558 - 2560 ปตท. จะให้การสนับสนุนจำนวน 24 ทุน รวมทุนการศึกษาที่ ปตท. ให้การสนับสนุนจำนวนทั้งสิ้น 65 ทุน รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 32,600,000.- บาท(สามสิบสองล้านหกแสนบาทถ้วน)
โครงการค่าย “ปิโตรแคมป์ สู่แชมป์ปิโตร” นี้ ปตท. ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2549โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจด้านปิโตรเลียมและปิโตรเคมีให้แก่เยาวชน และสนับสนุนทุนการศึกษาให้แก่เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกได้ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสทางการศึกษาให้เยาวชนได้พัฒนาศักยภาพเพื่อเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา อันจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาสังคม ชุมชน และระบบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศให้ยั่งยืนต่อไป