กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--ล็อกซเล่ย์
นายสุรพันธ์ ภาษิตนิรันดร์ กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปีนี้ กลุ่มธุรกิจการค้าของล็อกซเล่ย์คาดว่าจะมีอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% ซึ่งธุรกิจหลักภายในกลุ่มนี้ประกอบด้วย 2 ส่วน คือ ธุรกิจการค้าในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศ ได้แก่ การจัดจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านบริษัท ล็อกซเล่ย์เทรดดิ้ง จำกัด ซึ่งมีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า 30,000 ร้านค้า กลุ่มสินค้าเคมีภัณฑ์ กลุ่มผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง และกลุ่มเครื่องมือช่างและอะไหล่ยนต์ ส่วนธุรกิจการค้าที่จำหน่ายสินค้าไปยังต่างประเทศซึ่งดำเนินการผ่านฝ่ายอินเตอร์เทรด ถือว่าเป็นหนึ่งในธุรกิจที่ล็อกซเล่ย์กำลังมุ่งเน้นในขณะนี้ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะมียอดขายเติบโตเท่าตัวภายอีกสามปีข้างหน้า หรืออยู่ที่ประมาณ 700 ล้านบาท
ฝ่ายอินเตอร์เทรด มีหน้าที่นำสินค้าที่มีศักยภาพส่งออกไปขยายตลาดในต่างประเทศ ซึ่งแบ่งตลาดออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.ตลาดจีน-ฮ่องกง 2.ตลาดพม่า และ 3.ตลาดญี่ปุ่น-เวียดนาม-กัมพูชา-ลาว โดยตลาดที่เป็นไฮไลท์สำคัญคือ ตลาดจีน-ฮ่องกง ซึ่งบริษัทฯได้ก่อตั้งบริษัทลูกในจีน ชื่อ บริษัท ล็อกซเล่ย์ อินเตอร์เทรด (กวางโจว) จำกัด ตั้งอยู่ที่กวางโจว เพื่อเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าเข้าไปในจีนและฮ่องกง ขณะเดียวกันก็ทำหน้าที่จัดหาสินค้าจากจีนส่งมาขายในประเทศไทยด้วย
“ตลาดจีน-ฮ่องกงจะเป็นฐานการตลาดสำคัญในการช่วยสนับสนุนผู้ผลิตสินค้าที่เป็นผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) ให้สามารถขยายฐานการตลาดออกไปยังต่างประเทศได้ ซึ่งเป็นการสานต่อโครงการพี่จูงน้องของกระทรวงพาณิชย์ ที่บริษัทได้ร่วมเป็นหนึ่งในพันธมิตรของโครงการ โดยนอกจากจะทำหน้าที่ช่วยนำพา SME ไทยไปเปิดตลาดต่างประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังเข้าไปมีส่วนช่วยในการให้คำปรึกษาด้านการพัฒนาสินค้าและบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาดของแต่ละประเทศอีกด้วย”
กรรมการรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ล็อกซเล่ย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ปัจจุบัน บริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศจีนแล้วหลายราย ที่สำคัญๆ ได้แก่ บริษัท ไซโนเปค เครือข่ายปิโตรเลี่ยมยักษ์ใหญ่ที่สุดของจีน ซึ่งมีร้านสะดวกซื้ออยู่ในสถานีบริการน้ำมันทั่วประเทศจีนกว่า 20,000 แห่ง โดยบริษัทสามารถนำสินค้าบริโภคเข้าไปวางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อของไซโนเปคได้แล้วกว่า 2,000-3,000 แห่ง นอกจากนี้ ทางไซโนเปคยังได้ทำสัญญาสั่งซื้อสินค้าข้าวหอมมะลิ 100% บรรจุถุง ยี่ห้อ จินลี่เหลียน หรือ โกลเด้นโลตัส ซึ่งเป็นสินค้าแบรนด์ของล็อกซเล่ย์เอง เพื่อนำไปจำหน่ายในแต่ละมณฑลของจีน เป็นปริมาณกว่าพันตันเมื่อปีที่แล้ว และคาดว่าปีนี้จะมียอดสั่งซื้ออีกไม่ต่ำกว่าสองพันตัน ข้าวหอมมะลิจึงถือเป็นสินค้าหลักที่บริษัทส่งออกไปขายยังประเทศจีนและได้รับการตอบรับที่ดีมาก
นอกจากไซโนเปคแล้ว ก็ยังมีพันธมิตรรายอื่นที่สำคัญอีก เช่น แวนการ์ด ซึ่งเป็นเครือข่ายซุปเปอร์มาเก็ตและคอนวีเนียนสโตร์รายใหญ่ในจีนและฮ่องกง เครือข่ายซุปเปอร์มาเก็ตของอิออน และตัวแทนจำหน่ายสินค้าท้องถิ่นอื่นๆอีกกว่า 30 ราย
ในส่วนของตลาดฮ่องกงนั้น บริษัทได้จับมือกับเครือข่ายซุปเปอร์มาเก็ตของแวนการ์ด จัดตั้งมุมสินค้าไทย (Thai Conner) นำสินค้าเข้าไปวางจำหน่ายแล้วกว่า 200 รายการ จากผู้ผลิตที่เป็น SME ไทยกว่า 40 ราย ส่วนใหญ่เป็นอาหารและขนมขบเคี้ยว ส่วนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ เตรียมจะขยายไปเปิดมุมสินค้าไทยในเครือข่ายซุปเปอร์มาเก็ตของแวนการ์ดที่ประเทศจีนอีกด้วย
สำหรับตลาดในประเทศอื่นๆ อาทิ พม่า บริษัทฯ เตรียมส่งออกน้ำมันเครื่องคาสตรอลเข้าไปทำตลาดประมาณเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนตลาดญี่ปุ่น-เวียดนาม-ลาว-กัมพูชาจะส่งออกสินค้าประเภทสินค้าบริโภค ผลิตภัณฑ์สปา เครื่องสำอางและอาหารเสริม ฯลฯ เข้าไปเจาะตลาด ซึ่งอยู่ในระยะเริ่มแรก ยังต้องพัฒนาตลาดต่อไป