กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--นวพลาสติกอุตสาหกรรม
แบรนด์ประตูหน้าต่างชั้นนำ “วินด์เซอร์” รุกหนักตลาดในประเทศ ย้ำมั่นใจปลายปีทะลุเป้าเติบโตขึ้นจากปีก่อนประมาณ 28% เนื่องจากปัจจัยสนับสนุนในเรื่องของเศรษฐกิจโดยรวม การเติบโตของโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเทรนด์ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบาย และรวดเร็ว คาดครองตลาดประตูหน้าต่างสำหรับบ้านใหม่ และบ้านรีโนเวท
นายธีรัตถ์ อุทยานัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท นวพลาสติกอุตสาหกรรม จำกัด ผู้ผลิตแบรนด์ประตูหน้าต่างวินด์เซอร์ กล่าวว่า “สำหรับแบรนด์วินด์เซอร์ เป็นหนึ่งในแบรนด์คุณภาพภายใต้เครือเอสซีจี นำโดยบริษัทเอสซีจี เคมิคอลส์ จำกัด ที่ต้องการเติมเต็มไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ในการเลือกใช้ประตูหน้าต่าง โดยเรามีความเข้มแข็งในเรื่องของผลิตภัณฑ์ เพราะมีทีมวิจัยที่พัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคอยู่เสมอ นอกจากนั้นยังพัฒนาในเรื่องของการบริการที่ตอบโจทย์ในเรื่องของเวลา คือ ความรวดเร็วที่มาพร้อมกับคุณภาพ กว่า 15 ปีที่ผ่านมา วินด์เซอร์นับเป็นแบรนด์ประตูหน้าต่างไวนิลอันดับ 1 ที่ผู้บริโภคให้ความไว้วางใจเสมอมา อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงต้องมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง ขณะที่สภาพเศรษฐกิจตั้งแต่ต้นปี2558 ที่ผ่านมามีความชะลอตัว แต่ทางบริษัทฯ คาดว่าหากไม่มีปัจจัยอื่นๆ ที่มากระทบกับตลาดโดยรวม เชื่อว่าจะกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน”
นายธีรัตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “จากการคาดการณ์การขยายตัวอย่างรวดเร็วของภาคธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในช่วงครึ่งปีหลัง ถือได้ว่าเป็นสัญญาณที่ดีของภาคธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดยมีโอกาสขยายตัว 5-10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ในส่วนของตลาดประตูหน้าต่าง ปัจจุบันมีมูลค่าประมาณ 24,000 – 25,000 ล้านบาท ขณะที่ประตูหน้าต่างไวนิล มีส่วนแบ่งทางการตลาดประมาณ 12 % หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 3,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตต่อปีโดยเฉลี่ยประมาณ 15-20 % ทุกปี สำหรับแบรนด์วินด์เซอร์เอง ยังถือว่าเป็นผู้นำคงครองสัดส่วนทาง การตลาดกว่า 80 % ของประตูหน้าต่างไวนิลทั้งหมด”
นายถาวร รุ้งรุจิเมฆ ผู้จัดการผ่ายขายแบรนด์วินด์เซอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “สำหรับแบรนด์วินด์เซอร์ ในปีนี้ จะเพิ่มโอกาสทางธุรกิจโดยเน้น การตลาดเชิงรุก เดินหน้าเป็นผู้นำด้านประตูหน้าต่าง อย่างแท้จริง ตั้งเป้าเป็นผู้นำข้อมูลและคำปรึกษาด้านประตูหน้าต่างอย่างครบวงจรแห่งแรกของไทย โดยให้บริการลูกค้าครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มลูกค้าบ้านใหม่ และกลุ่มบ้านรีโนเวท โดยในปีที่ผ่านมา วินด์เซอร์ได้ออกบริการใหม่ วินด์เซอร์ ฟาสต์ รีนิว บริการเปลี่ยนประตูหน้าต่างเก่า โดยวินด์เซอร์ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีขึ้น เพื่อช่วยให้การเปลี่ยนประตูหน้าต่างเก่าเสร็จได้ใน 1 วัน ซึ่งถือเป็นเจ้าแรกเจ้าเดียวในเมืองไทย โดยการบริหารและควบคุมมาตรฐานจากวินด์เซอร์ ซึ่งเราได้รับการตอบรับอย่างดีมากจากลูกค้าบ้านรีโนเวท นอกจากนี้เรายังมุ่งปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการให้ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้าให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในปีนี้เราได้พัฒนาสินค้าออกมาใหม่เพื่อตอบรับตลาดบ้านเดี่ยว สินค้าเน้นการใช้งานง่าย ไม่ต้องดูแลรักษามาก อย่างสินค้าระบบระแนงวินด์เซอร์และสินค้าใหม่ ระบบไม้พื้นวินด์เซอร์ รุ่นเซฟวี่ โดยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านตัวแทนจำหน่ายและติดตั้งวินด์เซอร์กว่า 30 แห่งทั่วประเทศ รวมทั้งร้านค้าภายใต้เครือเอสซีจี และช่องทางโมเดิร์นเทรดได้แก่ โกลบอลเฮ้าส์ และไทวัสดุ”
“ถึงแม้ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง เพราะมีคู่แข่งในตลาดมากขึ้น ทั้งผู้ผลิตจากทั้งในและนอกประเทศ ถือว่าเป็นความท้าทายใหม่ของเรา แต่วินด์เซอร์ยังคงยึดมั่นในคุณภาพ มาตรฐานสินค้าและการบริการตามคำมั่นสัญญาที่เรามีให้กับลูกค้าเสมอมา เอกลักษณ์เฉพาะตัว ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบต่อลูกค้าเป็นเหตุผลที่ทำให้ลูกค้าทั้งรายใหญ่และรายย่อยให้ความเชื่อมั่นเราตลอดมา”
“สำหรับในปี 2557 ที่ผ่านมา วินด์เซอร์สามารถปิดยอดจำหน่ายไปได้ถึง 1,250 ล้านบาท และในปีนี้ หากไม่มีปัจจัยภายนอกอื่นมากระทบ คาดว่าจะเติบโตขึ้นประมาณร้อยละ 28 โดย 4 เดือนแรกที่ผ่านมา วินด์เซอร์สามารถทำยอดจำหน่ายได้แล้วกว่า 445 ล้านบาท นอกจากนั้นแผนระยะยาวของแบรนด์วินด์เซอร์ ยังตั้งเป้าหมายในการขยายไปสู่ตลาดอาเซียน ซึ่งในปัจจุบันก็มีการขยายตลาดไปแล้ว แต่ตั้งเป้าจะขยายแบบก้าวกระโดด ไปสู่ ลาว กัมพูชา และพม่า (Penetrate ASEAN Market) ต่อไป”