กรุงเทพฯ--15 มิ.ย.--124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง
GPSC เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานไฟฟ้าตามโรดแมพ การเติบโตไปพร้อมกับการขยายธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม ปตท. (Growth along with PTT Group) และขยายตัวอย่างก้าวกระโดด (Big Win) โตในอาเซียน เร่งสร้างความเติบโตตามแผนธุรกิจ ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในการมอบสิทธิแต่เพียงผู้เดียวและการสนับสนุนในการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (Gas-fired Combined Cycle Power Plant) กำลังการผลิตประมาณ 400 MW ที่เมืองตันลิน (Thanlyin) สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์
นายนพดล ปิ่นสุภา กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC ผู้นำทางการผลิตและการจำหน่ายไฟฟ้า ไอน้ำ และสาธารณูปโภค และแกนนำด้านพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท. พร้อมด้วยผู้ร่วมพัฒนาโครงการ บริษัท Marubeni Corporation และ EDEN Group ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้แทนรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ในการมอบสิทธิแต่เพียงผู้เดียวและการสนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ (Gas-fired Combined Cycle Power Plant) ที่เมืองตันลิน โครงการนี้เป็นโครงการความร่วมมือระหว่าง GPSC, Marubeni และ EDEN Group โดยโรงไฟฟ้าจะมีกำลังการผลิต ประมาณ 400 เมกะวัตต์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนเมียนมาร์ในการเสริมความมั่นคงทางพลังงานไฟฟ้าในบริเวณเมืองย่างกุ้งที่มีการเติบโตของความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งภาคประชาชนและอุตสาหกรรม อาทิเช่น ในเขตเศรษฐกิจพิเศษติละวา และโครงการปรับปรุงโรงกลั่นน้ำมันตันลินที่ กลุ่ม ปตท. เข้าร่วมประมูล
“เรารู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับความไว้วางใจและการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากทางรัฐบาลเมียนมาร์ในการศึกษาความเป็นได้และพัฒนาโครงการนี้ และยังเป็นการตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านพลังงานไฟฟ้าของกลุ่ม ปตท.ของ GPSC ในการเติบโตไปพร้อมกับการขยายธุรกิจของบริษัทในกลุ่ม ปตท. เพื่อสร้างเสถียรภาพด้านไฟฟ้าและสาธารณูปโภคต่อกระบวนการผลิตของบริษัท ในกลุ่ม ปตท. และยังมุ่งเน้นการเติบโตในการพัฒนาโครงการขนาดใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ โดยเน้นการร่วมมือกับพันธมิตรที่เปี่ยมประสบการณ์และความสามารถ เพื่อให้เป็นโครงการที่สมบูรณ์และประสบความสำเร็จ ทั้งนี้ หากได้รับการอนุมัติการก่อสร้าง คาดว่าจะแล้วเสร็จเพื่อดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้ในปี 2020” นายนพดลกล่าว
โครงการนี้ เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ GPSC ได้สิทธิในการเข้าไปศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาโรงไฟฟ้าในเมียนมาร์ ณ ปัจจุบัน GPSC ได้เข้าร่วมศึกษาและกำลังพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศเมียนมาร์ ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจ หลายโครงการ มีพลังการผลิตรวมกว่า 3,000 เมกกะวัตต์ โดยมีทั้งโรงไฟฟ้าถ่านหินสะอาดและพลังงานความร้อมร่วมโดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังคงแสวงหาโอกาสในการพัฒนาโรงไฟฟ้าและสาธารณูปโภคแห่งใหม่ ๆ ทั้งในภูมิภาคอาเซียนและประเทศไทยเพื่อกระตุ้นการพัฒนาทางเศรษฐกิจให้อาเซียนก้าวหน้าไปด้วยกัน