กรุงเทพ--22 ธ.ค.--ปรส.
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ประกาศผลการประมูลสินเชื่อธุรกิจและสินทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายโดยผ่านกระบวนการเสนอราคาเป็นกรณีพิเศษจำนวน 9 กลุ่ม โดยจำหน่ายให้แก่ผู้เข้าประมูล 4 ราย และเปิดเผยว่าขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้เข้าประมูลบางรายให้เข้าสู่โครงการร่วมแบ่งผลกำไรเพื่อรับซื้อสินเชื่อธุรกิจส่วนที่เหลือ
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2541 ปรส. ประกาศผลเบื้องต้นของการประมูลสินทรัพย์จำนวน 9 กลุ่มจากจำนวน 45 กลุ่ม ซึ่งเป็นสินเชื่อธุรกิจและสินทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายโดยผ่านกระบวนการเสนอราคาเป็นกรณีพิเศษซึ่งมีการประมูลไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2541 คณะกรรมการ ปรส. อนุมัติการจำหน่ายสินทรัพย์ทั้งสิ้น 9 กลุ่ม ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินเชื่อธุรกิจและสินทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายโดยผ่านกระบวนการเสนอราคาเป็นกรณีพิเศษ จำนวน 3 กลุ่มให้แก่ผู้เข้าประมูลรวม 4 ราย ผู้ชนะการประมูลดังกล่าวประกอบด้วย บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) (5 กลุ่ม ซึ่งในจำนวนนี้เป็นสินทรัพย์ที่นำออกจำหน่ายโดยผ่านกระบวนการเสนอราคาเป็นกรณีพิเศษ 3 กลุ่ม) บริษัทเงินทุน ธนชาติ จำกัด (มหาชน) (2 กลุ่ม) บริษัท พระนคร ยนตรการ จำกัด (1 กลุ่ม) และ บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ โกลบอลไทย จำกัด (1 กลุ่ม) ราคาเสนอซื้อที่ชนะการประมูลรวมกันทั้ง 9 กลุ่ม เป็นเงิน 11,600 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 37 ของยอดเงินต้นคงค้างของสินทรัพย์รวมทั้ง 9 กลุ่ม ซึ่งเป็นจำนวนเงิน 31,757 ล้านบาท
นายอมเรศ ศิลาอ่อน ประธานกรรมการ ปรส. ระบุว่าขณะนี้ ปรส. กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อทำข้อตกลงกับผู้ประมูลบางรายเพื่อให้ ปรส. ยังมีส่วนร่วมในรายได้ซึ่งจะเกิดขึ้นจากทรัพย์สินหลังการขาย อันจะทำให้ผลตอบแทนที่ ปรส. ได้รับจากการประมูลเพิ่มสูงขึ้น การเจรจากับผู้ประมูลดังกล่าวคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
นายอมเรศกล่าวเสริมว่า เมื่อการพิจารณาผลการจำหน่ายสินเชื่อให้กับผู้เข้าประมูลบางรายที่เข้าสู่โครงการร่วมแบ่งผลกำไรเสร็จสิ้นลง สินทรัพย์กลุ่มที่ไม่สามารถจำหน่ายได้ในครั้งนี้จะถูกนำมาจัดกลุ่มใหม่เพื่อนำออกประมูลในครั้งต่อไป ซึ่งบรรษัทบริหารสินทรัพย์สถาบันการเงิน (บบส.) จะสามารถเข้าร่วมประมูลสินทรัพย์ในรอบที่สองนี้ด้วย
องค์การเพื่อการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2540 ตามพระราชกำหนดการปฏิรูประบบสถาบันการเงิน พ.ศ. 2540 เป็นองค์กรอิสระมีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินการกับบริษัทเงินทุนและบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ 58 แห่งที่ถูกระงับการดำเนินกิจการ ตามคำสั่งของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน และวันที่ 5 สิงหาคม 2540 เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ฝากเงิน และเจ้าหนี้ที่สุจริต--จบ--