กรุงเทพ--18 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์ฯ
จากการที่นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้เดินทางไปร่วมประชุมประจำปีขององค์กร IOSCO (THE INTERNATIONAL ORGANIZATION OF SECURITIES COMMISSIONS) ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 2-7 พฤศจิกายน 2540 ณ กรุงไทเป สาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมได้หยิบยกประเด็นปัญหาในเรื่องเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ ปี 2000 (Year 2000 Bomb) ขึ้นมาพิจารณา โดยขอให้ประเทศสมาชิกได้ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวและดำเนินการเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึงบริษัทจดทะเบียนและบริษัทสมาชิกได้มีการเตรียมการแก้ไขให้ทันเวลา เนื่องจากปัญหาดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนได้
นายสิงห์กล่าวว่า ในส่วนของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยนั้น ได้มีการเตรียมการเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวในระบบคอมพิวเตอร์แล้ว โดยจะดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในปี 1999 นอกจากนี้นายสิงห์ ยังได้กล่าวย้ำเตือนให้บริษัทจดมะเบียน และบริษัทสมาชิกได้พิจารณาถึงประเด็นปัญหาคอมพิวเตอร์ปี 2000 นี้ด้วยว่า แม้ว่าจะเป็นปัญหาที่แก้ไขไม่ยากก็จริง แต่เป็นงานที่ต้องใช้เวลามากรวมทั้งต้องเผื่อเวลาเพื่อทดสอบระบบด้วย ดังนั้นหากไม่มีการแก้ไขหรือแก้ไขไม่ครบถ้วนและทันการณ์ก็จะส่งผลกระทบอย่างมาก เนื่องจากปีที่ผิดพลาดจะก่อให้เกิดปัญหาทางธุรกิจตามมา เช่นการคำนวณต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับวันและเวลาทำให้ระบบต่าง ๆ ที่ต้องทำงานเกี่ยวข้องกันแต่อ้างอิงวันที่ต่างกันมีปัญหาได้ เช่นงานด้านตัวเลขทางบัญชี การประมวลผลทางสถิติ การคำนวณดอกเบี้ยต่างๆ เป็นต้น ซึ่งจากข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนได้
ทางด้านนายสมคิด จิรานันตรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัญหาระบบคอมพิวเตอร์ที่จะเกิดขึ้นในปี 2000 มีการกล่าวถึงกันมากว่าจะก่อให้เกิดปัญหามากมายกับระบบคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ดังนั้นการเตรียมการแก้ไขต้องดำเนินการแต่เนิ่นๆ อย่างไรก็ตามปัญหาคอมพิวเตอร์ ปี 2000 ไม่ใช่ปัญหาที่ซับซ้อนมาก เป็นเพียงเรื่องของการเก็บข้อมูลหน่วยปีของระบบคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ว่าจะเก็บเป็นระบบ 2 หลัก (2 Digit) หรือ 4 หลัก (4 Digit) หากเก็บเป็น 2 หลัก (2 Digit) โดยเฉพาะโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีอายุ 10-20 ปี สิ่งที่จะก่อให้เกิดปัญหาก็คือเครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่สามารถรู้จักปี 2000 จะรู้จักเพียงปีแต่1990-1999 เท่านั้น
นายสมคิดกล่าวว่า เนื่องจากระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์ส่วนใหญ่พัฒนาในช่วงระยะเวลา 5-6 ปี และทำอยู่บนระบบฐานข้อมูล 4 หลัก (4 Digit) อยู่แล้ว จึงไม่น่าจะมีปัญหามากนัก แต่อย่างไรก็ตามตลาดหลักทรัพย์ก็จะได้ติดตามดูให้ครบทุกเรื่องที่อาจจะมีปัญหาได้คือ ตัวอุปกรณ์ Hardware ระบบควบคุมเครื่อง (Operation System) ข้อมูลที่เก็บ Application และอุปกรณ์ PC อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้งาน รวมทั้งในส่วนของระบบคอมพิวเตอร์ภายในของตลาดหลักทรัพย์ที่ต้องดูแลไม่ว่าจะเป็นระบบซื้อขายหลักทรัพย์ ระบบศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ ระบบนายทะเบียนหลักทรัพย์ รวมทั้งระบบข้อมูลต่าง ๆ ด้วย--จบ--