กรุงเทพฯ--16 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 16 มิถุนายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,182.43-1,187.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,900 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 100 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,800 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 18,970 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 90 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,880 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.39 น.ของวันที่ 16/06/15)
แนวโน้มวันที่ 17 มิถุนายน 2558
ภาวะชะลอตัวของภาคการผลิตของสหรัฐชัดเจนมากขึ้น เมื่อผลผลิตภาคอุตสาหกรรมลดลงในเดือนพฤษภาคม ชะลอตัวลงต่อเนื่องตั้งแต่เดือนธันวาคม เป็นสัญญาณที่แสดงว่า การที่สกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่ากระทบการขยายตัวทางเศรษฐกิจสหรัฐ ข้อมูลดังกล่าวอาจจะได้รับความสนใจจากคณะกรรมการของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะประชุมกันในวันอังคารและวันพุธนี้ ยิ่งทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นมากขึ้นว่าเฟดจะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมนโยบายในครั้งนี้แต่จะรอจนถึงช่วงต่อไปของปีนี้แทน ซึ่ง สอดคล้องกับผลสำรวจของรอยเตอร์ เปิดเผยว่านักเศรษฐศาสตร์ 37 จาก 55 ราย มีความเชื่อมั่นว่าเฟดจะเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน โดยโพลล์คาดว่า เฟดจะปรับขึ้นเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นจากระดับ 0-0.25% สู่ 0.375% ภายในช่วงสิ้นไตรมาส 3 และปรับขึ้นสู่ระดับ 0.625% ภายในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม ส่งผลให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายทองคำก่อนทราบความชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ความผันผวนของสถานการณ์การผิดนัดชำระหนี้ของกรีซ เป็นอีกหนึ่งประเด็นที่นักลงทุนกำลังติดตาม เมื่อคณะกรรมาธิการของเยอรมนีประจำสหภาพยุโรป (อียู) แสดงความเห็นว่าควรจัดเตรียมแผนฉุกเฉิน เพราะว่ากรีซอาจจะเข้าสู่ภาวะฉุกเฉิน ขณะที่อียูและ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ได้ยอมผ่อนปรนเงื่อนไขในการปฏิรูปเศรษฐกิจให้กับกรีซเพื่อให้สามารถบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณประจำปี 2015 ได้ แต่ยังคงมีอีกหลายประเด็นทั้งเรื่องการปรับลดเงินเดือนข้าราชการเงินบำนาญ และการขึ้นภาษี ที่จำเป็นต้องปฏิรูป ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้เมื่อราคาทองคำปรับตัวขึ้น ยังคงมีแรงขายทำกำไรออกมา โดยการดีดตัวขึ้นของทองคำอยู่ในช่วงที่จำกัด หากราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,195-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ไปได้ทำให้เกิดการอ่อนตัวลง โดยราคาอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,163-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า แนะนำให้นักลงทุนซื้อขายระยะสั้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือบริเวณ 1,172 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิค แต่ถ้าหากราคาสามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้จะเห็นการดีดตัวของราคาต่อโดยประเมินแนวต้านที่ 1,195-1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้าหากราคาผ่านแนวต้านสำคัญไปไม่ได้น่าจะเห็นการอ่อนตัวของราคาลงโดยประเมินแนวรับที่ 1,172-1,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,172 (18,680บาท) 1,163 (18,540บาท) 1,155 (18,410บาท)
แนวต้าน 1,195 (19,100บาท) 1,203 (19,180บาท) 1,212 (19,320บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,172 (18,820บาท) 1,163(18,680บาท) 1,155 (18,550บาท)
แนวต้าน 1,195 (19,190บาท) 1,203 (19,320บาท) 1,212 (19,470บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148