กรุงเทพฯ--17 มิ.ย.--พีอาร์ดีดี
สภาวะตลาดวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,178.50-1,182.05 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,850 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,910 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM15 อยู่ที่ 18,910 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,960 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.08 น.ของวันที่ 17/06/15)
แนวโน้มวันที่ 18 มิถุนายน 2558
การพุ่งขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของยุโรปในระยะนี้เป็นไปในทิศทางเดียวกับความเคลื่อนไหวในตลาดออปชั่นที่บ่งชี้ว่านักลงทุนหลายรายต้องการทำประกันความเสี่ยงจากวิกฤติหนี้กรีซ ในขณะที่นักลงทุนหลีกเลี่ยงภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในยูโรโซน โดยเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เมื่อมีการส่งสัญญาณว่ายุโรปกำลังเตรียมการสำหรับการให้กรีซออกจากยูโรโซน หรือที่เรียกว่า "Grexit" ขณะที่การเจรจาระหว่างกรีซกับกลุ่มเจ้าหนี้ ประสบความล่าช้าและมีโอกาสล้มเหลวสูง จนสมาชิกรัฐสภาเยอรมนีเริ่มหารือกันอย่างเปิดเผยเรื่องความเป็นไปได้ที่กรีซจะถอนตัวออกจากยูโรโซน ดังนั้น นักลงทุนในตลาดทองคำกำลังติดตามการเจรจาแก้ไขปัญหาวิกฤติหนี้กรีซว่าจะเป็นไปในทิศทางใด หลังกรีซมีกำหนดชำระหนี้กับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) งวดถัดไปกว่า 1.6 พันล้านยูโร ภายในสิ้นเดือนมิถุนายนนี้ และหลายฝ่ายยังคงกังวลว่ากรีซมีแนวโน้มที่จะขาดสภาพคล่องและไม่สามารถชำระหนี้ได้ทันกำหนด ความเสี่ยงดังกล่าวได้สร้างแรงซื้อเข้ามาพยุงทิศราคาทองคำไว้ อย่างไรก็ตามสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นตอกย้ำบรรยากาศซื้อขายทองคำให้ย่ำแย่ลง ประกอบกับความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจและภาคอุตสาหกรรมของจีนที่ชะลอตัวลงได้ส่งผลลบต่อแนวโน้มราคาทองคำ เนื่องจากจีนถือเป็นประเทศผู้ใช้ทอคำรายใหญ่อันดับสองของโลกและเป็นประเทศผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ที่สุดในโลก แม้ว่ารัฐบาลและธนาคารกลางของจีนได้ผ่อนคลายนโยบายการคลังและการเงินเพื่อกระตุ้นกิจกรรมเศรษฐกิจแต่ข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยังคงชะลอตัว ประเมินว่าในระยะสั้นหากราคาทองคำทดสอบแนวต้าน 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านถัดไป ทั้งนี้หากราคาไม่สารถยืนได้ยังคงต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นให้ราค่าอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับโซน 1,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,163 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,203 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,163 (18,530บาท) 1,153 (18,370บาท) 1,140 (18,160บาท)
แนวต้าน 1,203 (19,170บาท) 1,215 (19,360บาท) 1,220 (19,440บาท)
GOLD FUTURES (GFM15)
แนวรับ 1,163 (18,650บาท) 1,153 (18,490บาท) 1,140 (18,280บาท)
แนวต้าน 1,203 (19,290บาท) 1,215 (19,480บาท) 1,220 (19,560บาท)
หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888
สนใจลงทุนทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส สามารถติดตามสัมมนาทุกสัปดาห์ได้ที่ www.ylgbullion.co.th หรือ www.ylgfutures.co.th สอบถามเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9999 ต่อ 4148