กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--เมืองไทยประกันชีวิต
นายสาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTLเปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับการจัดอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินจากฟิทช์ เรทติ้งส์ (Fitch Ratings) ล่าสุดเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2558 โดย คงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสากล (International Insurer Financial Strength (IFS)) ที่ ‘A-‘ และอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National IFS) ที่ ‘AAA(tha)’ แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ
ทั้งนี้ อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ ที่บริษัทฯ ได้รับในปัจจุบันที่ ‘AAA(tha)’ นั้น ถือเป็นอันดับเครดิตที่สูงที่สุด จึงสะท้อนถึงความมั่นคงแข็งแกร่งของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ยังชี้แจงด้วยว่า ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิตของบริษัทฯ นั้น มาจากระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่งมาก (“Very Strong”) โดยบริษัทฯ มีสัดส่วนเงินกองทุนต่อเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามกฎหมาย (Risk-based capital – RBC) อยู่ที่ 517% ณ สิ้นไตรมาส 1 ของปี 2558 ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมและสูงกว่าระดับเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% รวมถึงบริษัทฯ ไม่มีหนี้สินจากการกู้ยืมและไม่มีแผนจะกู้ยืมในอนาคตอันใกล้อีกด้วย
เช่นเดียวกับปัจจัยด้านผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ยังคงทำได้ดีต่อเนื่อง ภายใต้นโยบายการกำหนดราคาที่เหมาะสมและมีอัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในระดับที่ดี โดยบริษัทฯ มีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีเงินได้ต่อสินทรัพย์เฉลี่ย 3 ปี (2555-2557) ที่ 4.1% ซึ่งอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับบริษัทประกันชีวิตอื่นทั้งในและต่างประเทศ จึงสะท้อนความสามารถในการทำกำไรในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง
เมืองไทยประกันชีวิต เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทยในด้านเบี้ยประกันภัยรับรวม ด้วยส่วนแบ่งการตลาดที่ 14.9% ในปี 2557 ทั้งยังเป็นบริษัทที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดสูงที่สุดในด้านเบี้ยประกันรับใหม่ในปี 2557 ที่ 20.7% ทั้งยังเป็นผู้นำด้านส่วนแบ่งการตลาดของเบี้ยประกันภัยรับรวมที่จำหน่ายผ่านเครือข่ายสาขาของธนาคาร หรือแบงก์แอสชัวรันซ์ ถึง 25.1% ในปี 2557
นโยบายการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีคุณภาพดี ก็นับเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญต่อการพิจารณาอันดับเครดิตของบริษัทฯ โดยส่วนใหญ่ประกอบด้วยตราสารหนี้ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 85% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม และตราสารหนี้ส่วนใหญ่ก็เป็นตราสารหนี้รัฐบาลและรัฐวิสาหกิจ ขณะที่สัดส่วนการลงทุนในตราสารทุนนั้นมีอยู่ในระดับต่ำกว่า 10% ของพอร์ทเงินลงทุนรวม
นอกจากนี้ อันดับเครดิตที่ดีเยี่ยมดังกล่าว ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการสนับสนุนจากผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท คือ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีขนาดสินทรัพย์รวมใหญ่เป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย บริษัทฯ จึงได้รับประโยชน์จากเครือข่ายสาขาของธนาคารในฐานะเป็นช่องทางขายที่มีประสิทธิภาพ และพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง Ageas บริษัทประกันภัยรายใหญ่จากประเทศเบลเยียม ซึ่งสนับสนุนด้านเทคนิคและการดำเนินงานให้กับบริษัทฯ
“เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมั่นคงแข็งแกร่งมาโดยตลอด เพราะเราอยู่ในธุรกิจการเงิน ความน่าเชื่อถือไว้วางใจที่ผู้บริโภคมีต่อเรานั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก และ “ฟิทช์ เรทติ้งส์” ซึ่งเป็นสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือระดับนานาชาติ จึงเป็น “คนกลาง” ที่เข้ามาช่วยยืนยันสถานะความมั่นคงแข็งแกร่งของเมืองไทยประกันชีวิตได้เป็นอย่างดี” นายสาระ กล่าว