กรุงเทพฯ--18 มิ.ย.--บลจ.บัวหลวง
กองทุนบัวหลวง คว้า 2 รางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 คือ กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ตราสารทุน (Equity RMF) ได้แก่ กองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF) และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว-ประเภทหุ้นประมาณ 70% ได้แก่ กองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (BLTF75) จากงาน MONEY & BANKING AWARDS 2015 ของวารสารการเงินธนาคาร
ค่ำวันที่ 17 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด (กองทุนบัวหลวง) ได้รับ 2 รางวัลเกียรติยศในงานมอบรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 จากงาน Money & Banking Awards 2015 จัดโดยวารสารการเงินธนาคาร เป็นปีที่ 8 เพื่อยกย่องผู้บริหาร ธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทจดทะเบียนที่มีผลงานยอดเยี่ยมในรอบปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ การเงินธนาคาร จัดอันดับกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2558 หรือ Best Mutual Fund of the Year 2015 โดยเป็นการวัดผลการดำเนินงานของกองทุนย้อนหลัง ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2557 และมอบรางวัลทั้งหมด 10 รางวัลแก่กองทุนยอดเยี่ยมของอุตสาหกรรม ปรากฎว่า กองทุนบัวหลวง ได้รับการจัดอันดับกองทุนรวมที่มีผลงานยอดเยี่ยม รวม 2 กองทุน โดยผู้มอบรางวัลใช้ Information Ratio (IR) เป็นเกณฑ์วัดผลการดำเนินงานย้อนหลัง 3 ปี ปรับด้วยความเสี่ยง (Standard Deviation) แล้วจัดอันดับกองทุนที่มีศักยภาพที่จะสร้างผลตอบแทนเหนือเกณฑ์มาตราฐาน ทั้งนี้ เกณฑ์ IR เป็นวิธีการประเมินผลที่ใช้กันแพร่หลาย โดยเฉพาะในเว็บไซต์ของสมาคม AIMC สำหรับ 2 รางวัลที่กองทุนบัวหลวงได้รับ ได้แก่
1. กลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ ตราสารทุน (Equity RMF) ได้แก่ กองทุนบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF)
2. กลุ่มกองทุนรวมหุ้นระยะยาวหุ้นประมาณ 70% ได้แก่ กองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว 75/25 (BLTF75)
นางวรวรรณ ธาราภูมิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กองทุนบัวหลวง กล่าวว่า “เกณฑ์ดังกล่าวสอดคล้องกับปรัชญาการลงทุนของบลจ.บัวหลวง ที่เน้นคุณค่าการลงทุนระยะยาว หรืออย่างน้อย 3-5 ปี ด้วยความรอบคอบ ไม่ลงทุนแบบเผชิญความเสี่ยงจนเกินควร พร้อมกับบริหารจัดการกองทุนอย่างเคร่งครัดในวินัย เน้นผลตอบแทนที่เป็นกอบเป็นกำ มากกว่ามุ่งซื้อขายทำกำไรช่วงสั้นๆ”
เราจึงโดดเด่นในด้านการเฟ้นหาหุ้นพื้นฐานแบบรายตัว (bottom up stock picking approach) และบริหารงานแบบทีม (team approach) โดยในทีมผู้จัดการกองทุนและกลุ่มนักวิเคราะห์ประกอบไปด้วยผู้ชำนาญการเฉพาะด้านในแต่ละกลุ่มงานการลงทุน
Good Stocks + Good Trades = Good Performances คือ คติประจำใจในการบริหารกองทุน ที่เรายึดมั่นและปฏิบัติมาโดยตลอด 23 ปี นับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท
“ข้อสังเกตจากงานนี้ เห็นได้ว่า รางวัลกองทุนตราสารทุนในประเทศมีทั้งหมด 5 กลุ่มรางวัล นอกจาก 2 กลุ่มรางวัลที่บลจ.บัวหลวงได้รับ (IN-RMF - กลุ่มกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพตราสารทุน หรือ Equity RMF และ BLTF75 – กลุ่มกองทุนรวมหุ้นระยะยาว หุ้นประมาณ 70% แล้ว เรายังได้ลำดับ 2 ในอีก 3 กลุ่มรางวัลที่เหลือด้วย คือ กองทุนบัวหลวงร่วมทุน (BCAP) – กลุ่มกองทุนตราสารทุนขนาดใหญ่ กองทุนบัวแก้ว (BKA) – กลุ่มกองทุนตราสารทุนทั่วไป และกองทุนบัวหลวงหุ้นระยะยาว (B-LTF) – กลุ่มกองทุนหุ้นระยะยาวหุ้น 100%
ในช่วงครึ่งหลังของปี 2558 นี้ แม้จะอยู่ท่ามกลางสถานการณ์การลงทุนทั่วทั้งโลกที่ยังจะมีความผันผวนจากปัจจัยมากมาย แต่กลุ่มประเทศเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงประเทศในทวีปเอเชียก็ยังมีศักยภาพในการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูง เนื่องจากกลุ่มชนชั้นกลางจะขยายตัวเป็นจำนวนมากจนเกิดการบริโภค การลงทุน และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง กองทุนบัวหลวงจึงยังแสวงหาโอกาสการลงทุนที่ดีในภูมิภาคเอเชียรวมทั้งสร้างหนทางลงทุนในระดับ Global ควบคู่กันไปด้วย เพราะแม้ว่าเวลานี้เศรษฐกิจจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่ก็มีบริษัทที่ขยายฐานการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างสม่ำเสมอและมีผลการดำเนินงานที่เริ่มฟื้นตัวอย่างชัดเจน” นางวรวรรณ กล่าว
นายพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา Managing Director และ Chief Investment Officer กล่าวว่า ปรัชญาการลงทุนของกองทุนบัวหลวง เป็นการลงทุนตาม Theme การลงทุนที่ชัดเจนของปีนี้ คือ “วิถีใหม่เชื่อมโยงสายไหม เครือข่ายออนไลน์แสนสะดวก” โดยเลือกลงทุนในหุ้นหรือกิจการที่มีมูลค่าและสัมพันธ์กับ Theme การลงทุน และเหมาะกับนโยบายการลงทุนเฉพาะของแต่ละกอง เมื่อนักลงทุนเชื่อมั่นใน Theme ลงทุนดังกล่าว ก็จะเข้าใจสไตล์การลงทุนของเรา และยอมรับความผันผวนที่เกิดขึ้นชั่วครั้งคราวได้ เพื่อรับ “ผลตอบแทนจากการลงทุนที่ดีและสม่ำเสมอในระยะยาว” อย่างเช่น กองทุนเปิดบัวหลวงโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการเลี้ยงชีพ (IN-RMF) ก็มีนโยบายลงทุนในอุตสาหกรรมวัสดุก่อสร้าง พลังงาน สื่อสาร อสังหาริมทรัพย์ และขนส่ง เป็นต้น ซึ่งการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเป็นมุมมองการลงทุนระยะยาวที่จะเติบโตไปพร้อมกับการพัฒนาประเทศ รวมถึงความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย
ในส่วนภาพรวมการลงทุนในช่วงที่เหลือของปี 2558 และกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมนั้น กองทุนบัวหลวง คาดว่า SET จะยังคงเคลื่อนไหวแบบ Sideways ในกรอบแคบๆ ต่อไป ตามสภาวะเศรษฐกิจโลกที่เติบโตอย่างเชื่องช้าในภาพรวมและชะลอตัวในบางประเทศ ขณะที่ปัจจัยภายในประเทศยังถูกกดดันอย่างหนักทั้งจากตัวเลขส่งออกหรือเม็ดเงินลงทุนจากภาครัฐที่จะต้องเร่งให้เกิดโดยเร็วภายใต้ข้อกำหนดที่ต้องไร้คอร์รัปชั่น ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนในครึ่งปีหลังของเราจึงเน้นไปที่อุตสาหกรรมที่ฟื้นตัวหรือได้ประโยชน์จากนโยบายภาครัฐ ขณะที่ระยะยาวจะเน้นลงทุนอิงตาม Theme ลงทุนของกองทุนบัวหลวง ตามทิศทางการขยายตัวของชนชั้นกลาง และการก้าวสู่ AEC อันจะเกื้อหนุนให้เกิดการค้าขาย การลงทุน และดึงดูดเม็ดเงินเข้าสู่ภูมิภาค รวมถึงกรณีที่จีนจะพัฒนาเส้นทางสายไหมแห่งศตวรรษที่ 21 ซึ่งเอื้อประโยชน์ให้ไทยในระยะยาว เนื่องจากมีทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาค และช่วยให้เกิดการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายวศิน วัฒนวรกิจกุล Managing Director และ Head of Business Distribution กล่าวว่า “ในการขยายธุรกิจของเรานั้น เราทำตามนโยบายที่คณะกรรมการบริษัทกำหนด คือทำให้คนทั่วไปที่ยังมีเงินออมเล็กน้อยสามารถเข้าถึงการลงทุนระยะยาวอย่างสม่ำเสมอเพื่ออนาคตได้ เราจึงลดจำนวนเงินเปิดบัญชีลงทุนครั้งแรกให้เหลือเพียง 500 บาท เพื่อให้ผู้ที่ยังมีรายได้น้อยในวันนี้สามารถออมเงินมาลงทุนในกองทุนรวมอย่างสม่ำเสมอได้ทุกเดือน ซึ่งแม้จะเป็นบัญชีที่ไม่คุ้มกับเราเลยในช่วงปีแรกๆ แต่เรายืนยันที่จะทำ เพราะมุ่งหวังให้ทุกคนมีโอกาสในการเข้าถึงกองทุนรวม และทำให้ครอบครัวไทยตระหนักถึงความสำคัญของการออมเสียแต่เนิ่นๆ อย่ารอจนสายเกินไป นอกจากนี้ เราจะสนับสนุนให้เกิดการใช้บริการวางแผนการเงินให้กว้างขวางขึ้น เพราะเมื่อเริ่มวางแผนการเงินเป็น คนไทยก็จะพ้นจากความไม่รู้ทางการเงิน พ้นจากกับดักของการเป็นหนี้ที่จะบั่นทอนความมั่นคงของครอบครัวและสังคมไทย ซึ่งนี่คือนโยบายที่ บลจ.บัวหลวง ตั้งใจจริงที่จะทำ”
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ กองทุนบัวหลวง โทร. 02-674-6488 กด 8 หรือ www.bblam.co.th รวมทั้งสอบถามได้จากสาขาธนาคารกรุงเทพทั่วประเทศ หรือบัวหลวงโฟน 1333 หรือ www.bangkokbank.com หรือตัวแทนขายหน่วยลงทุน ทั้งบมจ.กรุงเทพประกันชีวิต บมจ.หลักทรัพย์บัวหลวง และบมจ.หลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน