กรุงเทพฯ--22 มิ.ย.--แปลน ฟอร์ คิดส์
เพราะทักษะทางสังคมมีความสำคัญต่อพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็ก บริษัท แปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด จึงจัดงาน “กุ๋งกิ๋ง Birthday Party at the Happy Farm” เพื่อเปิดประสบการณ์การเรียนรู้นอกห้องเรียนให้เด็กได้มาสนุกร่วมกันกับเพื่อนใหม่วัยเดียวกัน โดยมีกิจกรรมที่ช่วยเติมเต็มจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ ได้ฝึกคิด ฝึกการแก้ปัญหา เรียนรู้เรื่องการแบ่งปัน รู้จักปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกันกับผู้อื่น ทั้งสนุกและได้รับความรู้ไปด้วยกัน อาทิ ฐานกิจกรรมเก็บผลผลิตจากฟาร์ม ผ้าขนหนูแปลงร่าง ลูกโป่งแปลงกาย เพ้นท์หน้าฮาเฮ พร้อมการแสดงมินิคอนเสิร์ตจาก “กุ๋งกิ๋ง” ตัวละครจากหนังสือนิทานขายดีที่เป็นผู้ช่วยของคุณพ่อคุณแม่และเป็นเพื่อนที่แสนดีของเด็กๆ
“จุดเริ่มต้นของกุ๋งกิ๋งมาจากความทรงจำวัยเยาว์มีคาแรคเตอร์ของตัวเองตอนเด็กๆ ที่สร้างเป็นเด็กผู้หญิงเพราะอยากให้ตัวละครเป็นคนจริงๆ เด็กจะได้รู้สึกใกล้ชิดกับตัวละครได้มากที่สุด โดยใช้ความทรงจำและความสุขตอนเด็กมาสร้างสรรค์ตัวละคร ถ่ายทอดออกมาเป็นนิทานคำคล้องจองและได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากคุณพ่อคุณแม่ กุ๋งกิ๋งเป็นนิทานที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือที่ให้คุณพ่อคุณแม่ได้แนะนำสิ่งต่างๆ ให้ลูกได้ แทนการสอนตรงๆ ซึ่งครอบครัวเป็นสถาบันสำคัญในการฟูมฟักดูแลเด็ก เด็กจะเรียนรู้ผ่านการเล่น การทำกิจกรรมต่างๆ ผู้ใหญ่ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ นิทานเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่มีอิทธิพลต่อการเรียนรู้ของเด็กเป็นอย่างมาก นิทานไม่ใช่เพียงแค่โลกจินตนาการเท่านั้น แต่ได้สอดประสานเชื่อมโยงโลกแห่งความเป็นจริง โลกแห่งความสุขและโลกแห่งการเรียนรู้จะหล่อหลอมให้เด็กตัวน้อยๆ เติบโตทางความคิด อารมณ์และสติปัญญาที่ดีสมวัยไปพร้อมกัน” ฟาง มนฤดี ทองกลอย นักเขียนนิทานชุดกุ๋งกิ๋งกล่าว
เมื่อนิทานมีผลต่อความคิดและจินตนาการของเด็ก การปลูกฝังเรื่องคุณธรรมจริยธรรมและการเรียนรู้ทางสังคมจึงเป็นอีกประการที่ผู้ริเริ่มการจัดงานอย่างคุณริสรวล อร่ามเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัทแปลน ฟอร์ คิดส์ จำกัด ปรารถนาอยากจะเห็นเด็กๆ เติบโตขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและมีศักยภาพรอบด้าน ได้เล่าถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า
“กุ๋งกิ๋ง Birthday Party at the Happy Farm จัดขึ้นเป็นปีที่ 3 แล้ว เราเนรมิตบรรยากาศของงานให้เป็นแบบคันทรี่ฟาร์ม ซึ่งเด็กในช่วงวัย 3-7 ปี เป็นเวลาแห่งการเรียนรู้ เราจึงต้องเสริมสร้างความฉลาดรอบด้านให้ลูกน้อย นอกจากการเรียนในชั้นเรียนแล้ว ทักษะชีวิตนอกห้องเรียนถือเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยพัฒนาลูกน้อยให้เติบโตสู่โลกกว้าง กิจกรรมนอกห้องเรียนคือพื้นฐานสำคัญของการได้สัมผัสและปฎิบัติจริง เรียนรู้จากการพบปะเพื่อนใหม่ ฝึกทักษะทางสังคม เรียนรู้วิธีการอยู่ร่วมกัน รู้จักการปรับตัวให้เข้ากับผู้อื่น เปิดโลกทัศน์จากการได้ศึกษาจากแหล่งเรียนรู้ที่หลากหลาย การที่เด็กได้ทำกิจกรรมต่างๆ ทำให้เด็กได้รับประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า ดังนั้นการพาเด็กๆ มาร่วมงานครั้งนี้ จึงสำคัญมากกว่าที่จะคิดว่าเด็กจะได้รับแต่ความสนุกสนาน”
เมื่อเด็กได้เรียนรู้และทดลองทำอะไรด้วยตนเอง เด็กจะเกิดความภาคภูมิใจและรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่า เกิดการสร้างทัศนคติที่ดีให้กับตนเอง อีกทั้งความรู้ที่ได้จากการเล่น ยังช่วยพัฒนากระบวนการทางร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ เด็กจะเริ่มหยิบจับอะไรได้ด้วยตนเอง ช่วยเหลือตนเองได้ เกิดการฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กและมัดใหญ่จากการเล่น มีพัฒนาการทางภาษา เรียนรู้คำได้มากขึ้น ระบบความจำดีขึ้น เรียนรู้การเข้าสังคมนอกเหนือไปจากบ้าน ซึ่งเป็นการเตรียมความพร้อมสู่การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต
คุณชมพูนุท สามารถ หนึ่งในผู้ปกครองที่พาลูกมาเที่ยวชมงาน ให้ความเห็นว่า “เด็กๆ ได้ร่วมกิจกรรมสนุกๆ หลากหลายฐานมาก โดยเฉพาะฐานกิจกรรมเก็บผลผลิตในฟาร์ม ลูกจะชอบมากเพราะได้ฝึกการนับจำนวน และเรียนรู้ชนิดของผักต่างๆ พร้อมทั้งยังได้ลงมือเก็บไข่เก็บผักผลไม้ด้วยตนเอง รวมถึงการตกแต่งฐานกิจกรรมนี้ก็ดูสวยน่ารักดี นอกจากนี้ ยังรู้สึกประทับใจการตกแต่งสถานที่ของงาน ส่วนน้องดูจะสนุกเป็นพิเศษกับช่วงท้ายๆ ที่มีกุ๋งกิ๋งและเพื่อนๆ ออกมาร้องเพลง เต้น เล่นดนตรีกับเด็ก ๆ น้องรู้สึกสนุกและร่วมร้องเพลง เต้นไปด้วยตลอดทั้งเพลงค่ะ”
นอกจากนี้ภายในงานยังมีการออกร้านจำหน่ายหนังสือและสินค้าสำหรับเด็กจากสำนักพิมพ์ชั้นนำเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกสรรหนังสือและสื่อสำหรับเด็กแรกเกิด-12 ปี พร้อมทั้งมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่เกี่ยวกับเด็กมาร่วมจัดกิจกรรมอีกด้วย