กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--สถานีโทรทัศน์ช่อง 8
แชร์กันสนั่นโลกออนไลน์ถึง หมอเทวดา จ.เลย ที่สามารถนวดรักษาคนป่วยด้วยมือเปล่าให้กลับมาหายปกติ ร่วมถึงการนวดคนใบ้ให้กลับมาพูดได้ จนชาวบ้านแห่เข้าคิวรอหวังรักษาโรคต่างๆเพียบ ล่าสุดเมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 23 มิ.ย.58 นายเสน่ห์ ศรีประวัติ เจ้าของฉายา หมอนวดเทวดา หรือ หมอมือทะลุโลก พร้อมด้วยลูกสาว นางสาวอัญชลี ศรีประวัติ ได้เข้ามาเปิดใจถึงเรื่องราวขั้นตอนการรักษาโรคให้กับชาวบ้านในรายการ ปากโป้ง ที่มีหนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย และ เข็ม-ลภัสลดา ช่วยเกื้อ เป็นพิธีกรว่า
“ผมเริ่มรักษาชาวบ้านตั้งแต่เมื่อ 9 ปีที่แล้ว จริงๆแล้วก่อนหน้าที่จะมาเป็นหมอรักษาชาวบ้านผมก็มีอาชีพเกษตรกรแต่ด้วยเป็นคนที่ชอบเรื่องของการนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรม และช่วยเหลือคนอื่น จนได้มีโอกาสไปเรียนกับอาจารย์วิเชียร อยู่เกตุ หมอพญายม ซึ่งอาจารย์ก็สอนหลายเรื่องจากนั้นก็ได้ไปเปิดนวดรักษาให้คนทั่วไปที่เป็นโรคเกี่ยวกับข้อ กล้ามเนื้อ โรคไมเกรน หูตึง อัมพฤกษ์ อัมพาต ส่วนใหญ่รักษาแล้วอาการก็ดีขึ้น โดยเฉพาะผู้ป่วยอายุไม่เกิน 40 ปี จะหายเร็ว แต่ต้องมานวดหลายครั้ง บางคนนวดครั้งเดียวก็หายเลย”
“สำหรับค่ารักษาแต่ละครั้งนั้นก่อนรักษาผมก็จะให้คนป่วยนำดอกไม้พร้อมค่าครู 550 บาทมาไหว้จากนั้นก็จะลงมือรักษา ส่วนคนที่ไม่มีเงินก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร ส่วนวิธีการรักษานั้นก็จะใช้มือเปล่าในการลงมือรักษาด้วยการกดไปตามจุดต่างๆของผู้ป่วยที่มีอาการแต่ละคนพร้อมกับการทำสมาธิกำหนดไปที่จุดในการรักษาด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะเรียกวิธีการรักษาแบบนี้ว่า จิตบำบัด ในการรักษาที่ผ่านมาก็มีทั้งคนที่รักษาหายและก็รักษาไม่หายเหมือนกัน แต่ส่วนใหญ่ที่มาจะหายหรือไม่ก็ดีขึ้น”
หมอนวดเทวดา กล่าวต่อว่า “ส่วนเรื่องที่มีคนยกย่องว่าเป็นหมอเทวดาก็รู้สึกดีใจว่าสิ่งที่เราทำไปนั้นทำให้เขาดีขึ้น ทำให้เขามีรอยยิ้มเพราะทุกคนที่มาหาส่วนใหญ่แล้วจะเจ็บป่วยเมื่อเราสามารถทำให้เขาดีขึ้นเราก็รู้สึกดีใจ ส่วนเรื่องที่มีคนจะเชื่อหรือไม่เชื่อนั้นผมคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ผมไม่สามารถบังคับให้ใครเชื่อได้ คนที่เขามารักษากับผมแล้วหายกลับไปแค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว และก็ไม่รู้สึกน้อยใจอะไรด้วยที่มีคนจะมองว่าเป็นคนหลอกลวงผมก็ยังคงจะทำหน้าที่รักษาคนป่วยที่เขาเดินทางมาให้ผมรักษาต่อไปไม่มองเรื่องคนมองไม่ดีอะไร และการรักษาของผมตลอด 9 ปีที่ผ่านมาก็ช่วยเหลือให้คนได้หายจากโรคต่างๆมาแล้วนับไม่ถ้วน”
“ตอนนี้แต่ละวันมีคนเดินทางมาให้รักษาเป็นจำนวนมาก แต่ละวันก็สามารถรักษาได้ 20-30 คนเท่านั้นก็เห็นใจทุกคนที่เดินทางกันมาแต่ก็พยายามจะช่วยเหลือทุกคน และตั้งแต่มีข่าวออกไปเป็นที่รู้จักตอนนี้ก็มีคนเข้ามาให้รักษาเกือบทุกโรคจริงๆ แต่ก็จะบอกกับทุกคนว่าจะหยุดวันพระและวันศุกร์เพราะรักษามาทุกวันแล้วก็อยากที่จะหยุดพักเพื่อปฏิบัติสมาธิบ้าง สำหรับคนที่จะเดินทางไปรักษากับผมนั้นก็มาที่บ้านห้วยสีเสียด ต.ห้วยสีเสียด อ.ภูหลวง จ.เลย”