กรุงเทพฯ--24 มิ.ย.--กรมทรัพยากรน้ำบาดาล
กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ผนึกกำลัง กองทัพบก เร่งเจาะบ่อน้ำบาดาลพร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ในพื้นที่ภาคกลางบริเวณลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่อยู่นอกเขตชลประทาน คาดสามารถหาแหล่งน้ำบาดาลเสริมกว่า 64,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน ช่วยเหลือเกษตรกรได้ 40,000 ไร่
นายปราณีต ร้อยบาง อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวว่า สืบเนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนต่างๆ ได้ลดน้อยลง ซึ่งคาดว่าจะมีน้ำใช้ได้อีกประมาณ 1,000 ล้านลูกบาศก์เมตร และในระยะต่อจากนี้ประมาณ 30 วัน ฝนจะทิ้งช่วง และเพื่อเป็นการป้องกันความเสียหายของพื้นที่การเกษตร พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอก ฉัตรชัย สาริกัลยะ ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดนโยบายและบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ได้มอบหมายให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำบาดาลพร้อมติดเครื่องสูบน้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน เพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้ทำการเพาะปลูกไปแล้ว และได้รับความเดือดร้อนจากการขาดแคลนแหล่งน้ำทำการเกษตร โดยการเจาะบ่อน้ำบาดาลจะใช้เวลาเพียง 3 วันต่อจุด และใน 30 วันข้างหน้าได้มีการวางแผนลงพื้นที่ ทั้งสิ้น 269 แห่ง โดยกรมการทหารช่าง กองทัพบก มีชุดเจาะ 8 ชุด รับผิดชอบ 19 แห่ง อีก 250 แห่งเป็นของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ซึ่งมีชุดเจาะ 60 ชุด พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาให้กับเกษตรกรได้อย่างทันท่วงที และได้รับผลกระทบน้อยที่สุด ทั้งนี้ แต่ละบ่อจะสามารถให้บริการครอบคลุมพื้นที่การเกษตร ประมาณ 100 - 150 ไร่ เมื่อโครงการแล้วเสร็จจะสามารถให้ช่วยความช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรได้ประมาณ 40,000 ไร่ คิดเป็นปริมาณน้ำบาดาลทั้งหมดไม่น้อยกว่า 64,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวัน
นายประเสริฐ บุญประเสริฐ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหัวเขา อำเภอเดิมบางนางบวชจังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า องค์การบริหารส่วนตำบลหัวเขา มี 12 หมู่บ้าน เกษตรกรส่วนใหญ่จะปลูกข้าวเป็นหลัก และมีอ้อยเป็นบางส่วนประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ มันประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ช่วงนี้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนจากการที่ฝนไม่ตกเป็นเวลาเกือบ 2 เดือนมาแล้ว บวกกับที่รัฐบาลสั่งให้ชะลอการทำนาปี และแม้ว่ารัฐบาลไม่สั่งให้ชะลอ เกษตรกรก็ต้องหยุดทำการเกษตรอยู่แล้วเนื่องจากไม่มีน้ำเพียงพอ แต่ที่ทำกันไปก่อนก็เนื่องจากมีฝนตกตั้งแต่ 14 เมษายนที่ผ่านมา มีน้ำทั่วทุ่ง จึงมีการหว่านเมล็ดข้าวตั้งแต่นั้นมา หลังจากนั้นก็ไม่มีน้ำมาอีกเลย ทำให้ต้องวิดน้ำจากชลประทาน และมีการผลัดเวรสูบน้ำจากคลองชลประทานกับเกษตรกรอำเภอดอนเจดีย์ แต่คิดว่ายังไงก็ยังไม่มีน้ำเพียงพอที่จะเลี้ยงต้นข้าวที่ปลูกไว้แล้วแน่นอน จนกระทั่งท่านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวเมื่อ 2 วันก่อนว่า จะให้มีการนำน้ำบาดาลมาใช้บรรเทาปัญหาของเกษตรกร
ผมก็เห็นว่าน่าจะเป็นหนทางที่ช่วยเกษตรกรได้อีกทางหนึ่ง และกรมทรัพยากรน้ำบาดาลท่านก็รวดเร็วมาก วันนี้เข้ามาถึงพื้นที่และเริ่มเจาะแล้ว พวกเราชาวบ้านหัวไทรย์ หมู่ 4 ก็ดีใจมาก
ด้านนายทศพล ปรึกษา ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 บ้านหัวไทรย์ กล่าวว่า การเข้ามาเจาะน้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลครั้งนี้ จะช่วยให้พื้นที่การเกษตรกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ทั้งหมดของบ้านหัวไทรย์รอดพ้นจากปัญหาภัยแล้ง เพราะพื้นที่การเกษตรของบ้านหัวไทรย์ส่วนใหญ่ต้องอาศัยน้ำจากเขื่อนกระเสียว ซึ่ง ณ ขณะนี้ระดับน้ำที่เขื่อนกระเสียวต่ำกว่าเกณฑ์มาก จึงไม่มีการปล่อยน้ำมาให้เกษตรกรแล้ว ตอนนี้ก็ไม่มีใครลงทุนทำนาแล้ว เพราะกลัวปัญหาภัยแล้ง ถ้าจะเริ่มทำนาปีกันได้ก็ต้องรอให้มีการปล่อยน้ำประมาณวันที่ 17 กรกฎาคม 2558 แต่ถ้าเกิดไม่มีฝนตกลงมาก็อาจจะต้องรอกันต่อไป