กรุงเทพฯ--26 มิ.ย.--กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆนี้ได้เฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งทรงเสด็จพระราชดำเนินเป็นประธานพิธีเปิดการประชุมสภาบรรณารักษ์แห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครั้งที่ ๑๖ "ความมุ่งหวังอาเซียน: ห้องสมุดเพื่อความก้าวหน้าที่ยั่งยืน" เพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการพัฒนาห้องสมุดของประเทศสมาชิกรวม ๑๐ ประเทศและผู้เข้าร่วมประชุมจาก 25 ประเทศกว่า 951 คน ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค จัดโดยสำนักหอสมุดแห่งชาติ กรมศิลปากร ร่วมกับสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย พระองค์ทรงรับสั่ง 2 เรื่อง ได้แก่ 1. การพัฒนาหอสมุดแห่งชาติให้มีชีวิตและอำนวยความสะดวกเรื่องการสืบค้น
นายวีระ กล่าวว่า และ 2.ทรงรับสั่งว่าได้สนับสนุนหนังสือให้แก่ห้องสมุดในเรือนจำ เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้ต้องขังคนไทยและหนังสือภาษาอังกฤษสำหรับผู้ต้องขังชาวต่างชาติ ทั้งนี้จึงมอบหมายให้กรมศิลปากร ดำเนินการสนองพระราชดำริในส่วนการพัฒนาหอสมุดแห่งชาติ ซึ่งที่ผ่านมาได้ก่อสร้างอาคารหอสมุดแห่งชาติเพิ่มเติม ขณะนี้กำลังปรับปรุงอาคารและพื้นที่ภายในหอสมุดแห่งชาติ ตามแผนงานจะแล้วเสร็จภายใน 1 ปี ส่วนการพัฒนาระบบการให้บริการสืบค้นนั้น ตอนนี้ได้นำระบบการสืบค้นและให้บริการออนไลน์มาใช้กับหอสมุดแห่งชาติแล้ว โดยนำหนังสืออีบุ๊คมาให้ประชาชนสามารถอ่านออนไลน์ได้แล้ว
นายวีระ กล่าวต่อว่า ส่วนการสนับสนุนหนังสือให้แก่ห้องสมุดในเรือนจำนั้น กรมราชทัณฑ์ ได้ดำเนินการ ห้องสมุดเรือนจำ หรือเรียกว่า ห้องสมุดพร้อมปัญญา ซึ่งเกิดขึ้นมาจากแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ต้องการให้ประชาชนได้รับโอกาสในการศึกษาเรียนรู้อย่างทั่วถึง โดยปรับปรุงห้องสมุดเรือนจำ/ทัณฑสถาน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงมอบหมายให้กรมศิลปากรประสานกับกรมราชทัณฑ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดหาหนังสือที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องขัง เพื่อสนับสนุนห้องสมุดในเรือนจำ ซึ่งกระจายอยู่ทั่วประเทศกว่า 11 แห่ง และส่งเสริมให้เกิดเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรือนจำ อย่างไรก็ตามการสนับสนุนหนังสือให้แก่ห้องสมุดเรือนจำนั้นจะคัดเลือกหนังสือที่ดีและมีประโยชน์ ซึ่งแต่ละปีกรมศิลปากรได้จัดพิมพ์หนังสือที่มีประโยชน์ไว้จำนวนมาก รวมทั้งได้รับมอบจากหน่วยงานต่างๆอีกจำนวนมากด้วย
"ที่สำคัญกรมศิลปากรจะร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ รวบรวมหนังสือภาษาอังกฤษ เพื่อสนับสนุนด้วย อย่างไรก็ตามเบื้องต้นมีหนังสือหลายรายการที่กรมศิลปากรจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษก็จะนำไปบริจาคด้วย เพราะเรือนจำหลายๆ แห่งมีชาวต่างชาติที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำ ดังนั้นจึงต้องสนับสนุนหนังสือภาษาอังกฤษ เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ให้ผู้ต้องขังทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ตามแนวพระราชดำริในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี" นายวีระ กล่าว