กรุงเทพ--16 มิ.ย.--กรมศุลกากร
เมื่อวันศุกร์ที่ 13 มิถุนายน 2540 เวลา 10.00 น. คณะผู้บริหารของกรมศุลกากร ซึ่งนำโดยนายปรีดี บุญยัง อธิบดีกรมศุลกากร (ประธาน) แถลงข่าว พร้อมด้วยรองอธิบดี ผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนและปราบปราม และเลขานุการกรม ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนถึงผลการดำเนินงาน ของกรมศุลกากร ตั้งแต่เดือนมกราคม 2540 จนถึงปัจจุบัน และแผนการดำเนินงานของกรมศุลกากรในอนาคตด้านต่างๆ โดยมีรายละเอียดดังนี้
การพัฒนาระบบ EDI ที่เกี่ยวกับศุลกากร
ขณะนี้กระทรวงการคลังได้ร่วมทุนกับภาคเอกชน จัดตั้งบริษัท เทรดสยาม จำกัด มีทุนจดทะเบียนดำเนินการ 200 ล้านบาท เพื่อให้บริการ EDI ด้านการค้าระหว่างประเทศกับภาครัฐและเอกชน รวมทั้งผู้ขนส่ง คาดว่าจะใช้เวลาเตรียมการประมาณ 1 ปี จึงจะให้บริการได้โดยสมบูรณ์
การพัฒนาระบบราคาศุลกากรแกตต์
ประเทศไทยมีพันธะกรณีที่จะใช้ราคาศุลกากรแกตต์ พร้อมกับประเทศใน ASEAN ในปี 2542 ขณะนี้อยู่ในขั้นตอน การออกกฎหมายใช้ราคาแกตต์ คาดว่าจะประกาศใช้ในเร็วๆ นี้
การแก้ไขกฎหมายพิกัดอัตราศุลกากรให้เป็นไปตามระบบ Harmonized 1996 ที่แก้ไขใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการขั้นตอนการออกกฎหมาย
การให้บริการตรวจปล่อยสินค้าเร่งด่วน (Express Consignment)
โดยจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติพิธีการและตรวจปล่อยของเร่งด่วนขึ้น ณ สำนักงานศุลกากรท่าอากาศยานกรุงเทพ สำหรับตรวจปล่อยของเร่งด่วนที่มีผู้โดยสารนำพามาในลักษณะถุงเมล์ด่วนและในลักษณะที่ไม่มีผู้โดยสารนำพา
ศูนย์ปฏิบัติการนี้จะช่วยให้ผู้นำเข้าหรือตัวแทนผู้นำเข้าได้รับความสะดวกในการยื่นปฏิบัติพิธีการ ตรวจและปล่อยของและชำระค่าภาษีอากรกรณีที่เป็นของต้องอากร ณ จุดเดียว และได้รับสินค้าทันต่อความต้องการ
การเพิ่มมาตรการส่งเสริมการส่งออกโดยใช้ระบบบัญชี
เป็นการปรับปรุงงานศุลกากร โดยให้ภาคเอกชนคือบริษัทผู้ตรวจสอบบัญชี เข้ามามีส่วนช่วยในการตรวจสอบบัญชีสินค้าวัตถุดิบแทนเจ้าหน้าที่ศุลกากร
วิธีการนี้ผู้ประกอบการจะได้รับความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น และจะได้รับเงินคืนภาษีอากรภายใน 7 วัน นับตั้งแต่วันยื่นคำขอ
การประกาศเขตคลังเสรีฯ
กรมศุลกากรประกาศให้จัดตั้งเขตคลังสินค้าทัณฑ์บน สำหรับประกอบการค้าเสรีที่ปลอดจากภาระทางภาษีอากร เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมการผลิตให้ครบวงจร 4 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มผลิตภัณฑ์อิเลค ทรอนิกส์ ผลิตและประกอบยานยนต์ ผลิตอัญมณีหรือเครื่องประดับ และอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีสูง
การตีความพิกัดอัตราศุลกากร
กรมศุลกากรตีความพิกัดอัตราศุลกากรโดยถือหลักตาม EN (ENPLANATORY NOTE) ของ WCO (World Customs Organzation) และติดตามการแก้ไข EN ของ WCO มาโดยตลอด สำหรับสินค้าบางอย่างที่ไม่มีระบุชัดไว้ใน EN ก็จะสอบถามไปที่ WCO
โครงสร้างภาษีศุลกากรของไทย ปัจจุบันได้ลดอัตราอากรตามพันธกรณีของ WTO แล้วคือสินค้าทุกชนิด (ยกเว้นรถยนต์) มีอัตราอากรสูงสุดไม่เกินร้อยละ 30 ขณะนี้มีอยู่ 6 อัตรา ได้แก่ 0, 1, 5, 10, 20 และ 30
การดำเนินงานในส่วนของ APEC
1. งานที่ดำเนินการไปแล้ว
- การเปิดเผยข้อมูลข่าวสารต่อสาธารณชน
- การจัดให้มีระบบการอุทธรณ์ที่ชัดแจ้ง
- การนำเข้าชั่วคราวโดยได้รับยกเว้นอากร ในฐานะสมาชิก ATA.CARNET
- การส่งเสริมให้มีการพบปะกันกับภาครัฐและเอกชน
2. งานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ได้แก่
- การทำพิกัดอัตราศุลกากรประสานสอดคล้องกัน ตามหลักการ HARMONIZED ปี 1996
- การทำพิธีการศุลกากรให้ง่ายและประสานสอดคล้องกันโดยยึดหลักของอนุสัญญาเกียวโต
- การนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้โดยรับมาตรฐาน UN/EDIFACT
- การใช้ราคาศุลกากร GATT ในปี 2542 นี้
- ระบบการให้คำวินิจฉัยพิกัดล่วงหน้าใช้ภายในปี 2543
- วิธีการบริหารความเสี่ยงและระบบการค้าเชิงอิเลคทรอนิกส์
3. งานที่จะต้องดำเนินการในอนาคต ได้แก่
- รายงานข้อมูลร่วมที่ใช้ในกระบวนศุลกากรระหว่างประเทศ
- การสำรวจภาคสนาม โดยเฉพาะระยะเวลาที่ใช้ในการตรวจปล่อยสินค้า
- การนำไปปฏิบัติและกรอบงานเพื่อความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
ระบบคอมพิวเตอร์
กรมศุลกากรคาดว่าจะติดตั้งคอมพิวเตอร์ครบสมบูรณ์ใช้งานได้ทุกระบบทั่วประเทศ ภายในปี 2542 ก็จะทำงานทุกอย่างโดยระบบอัตโนมัติ เป็นมาตรฐานเดียวกันทุกสำนักงาน
อัตราอากรสินค้ากึ่งสำเร็จรูปซึ่งยังมีอัตราสูงอยู่
ตามความเห็นที่ว่าอัตราอากรที่สูงนี้จะเป็นเหตุให้การผลิตส่งออกมีต้นทุนสูงนั้น กรมศุลกากรขอชี้แจงว่า ถ้าผลิตส่งออกแล้วอัตราอากรจะได้รัยคืนหมด ฉะนั้นอัตราอากรจึงไม่เป็นเหตุที่จะทำให้การผลิตมีต้นทุนสูงแต่ประการใด
ในกรณีที่นำมาผลิตเพื่อขายในประเทศ แยกเป็นสินค้าที่จำเป็นต่อการบริโภค ก็จะได้รับยกเว้นตามอากรกฎหมายส่งเสริมการลงทุน ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถจะขอใช้สิทธิประโยชน์ต่างๆ
การปรับปรุงบริการศุลกากรรวดเร็ว (Fast Track) กรมศุลกากรได้จัดบริการอย่างรวดเร็ว อาทิเช่น ของที่ได้รับการส่งเริมการลงทุนจาก BOI ของส่วนราการ ของใช้ในบ้านเรือน/ของใช้ส่วนตัว ของผูนำเข้าระดับพิเศษ สินค้าที่ได้รับยกเว้นอากร
EXPORT SUMMIT ที่พัทยา
ภาคเอกชนได้เสนอแนะในเรื่องการคืนอากรให้สะดวกรวดเร็ว และเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น ถ้าเป็นไปได้ควรกำหนดการคืนอากรระบบเดียวกับการชดเชยอากร
กรมศุกากรขอชี้แจงว่า ในปัจุบันสถิติในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมศุลกากรสามารถคืนอากรภายใน 5-30 วัน ร้อยละ 80 ของจำนวนคำขอ เพราะผู้ประกอบการมีเอกสารครบถ้วน ส่วนที่เหลือเป็นชุดคำขอที่มีใบขนขาเข้าและขาออกมาก หรือเอกสารไม่ครบถ้วนจะได้เร่งรัดให้ได้รับคืนอากรโดยเร็วต่อไป
ขณะนี้กรมศุลกากรกำลังจัดทำหลักเกณฑ์และวิธีการคืนอากรระบบใหม่ เพื่อให้ได้คืนอากรเร็วขึ้นกว่าเดิมอีก
มาตรการแก้ไขการใช้ดุลพินิจและความโปร่งใส
เมื่อใช้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานโดยอัตโนมัติครบทั้งวงจรแล้ว ปัญหาอันเนื่องจากเจ้าหน้าที่ก็จะหมดไป ขณะนี้กำลังติดตั้คอมพิวเตอร์คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในปี 2542 และกระทรวงการคลังได้ร่วมทุนกับเอกชนตั้งบริษัท เทรดสยาม จำกัด แล้ว เมื่อทั้งสองระบบสมบูรณ์ก็จะทำให้ผ่านพิธีการศุลกากรเป็นไปอย่างรวดเร็ว--จบ--