กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๒๙ มิ.ย.๕๘) เวลา ๑๖.๐๐ น. นายวิเชียร ชวลิต ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เปิดเผยว่า จากกรณีเด็กหญิง ๓ คน ที่ถูกทิ้งให้อยู่กันตามลำพัง เนื่องจากแม่ต้องโทษจำคุกถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ คดี พ.ร.บ.ป่าไม้ ส่งผลให้ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา ๒ ปี โดยถูกจำคุกมานานกว่า ๑ ปีแล้วนั้น ล่าสุดนักสังคมสงเคราะห์และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เด็กหญิงทั้ง ๓ คน คนโตอายุ ๑๒ ปี เรียนอยู่ชั้น ป.๖ คนกลาง อายุ ๙ ปี ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมีย ไม่ได้รับการรักษาต่อเนื่อง สุขภาพจึงไม่แข็งแรง และคนเล็กอายุ ๓ ปี อยู่ในความอุปการะของป้ามาโดยตลอด ต่อมาป้าได้เดินทางไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ จึงปล่อยให้เด็กทั้ง ๓ คน พักอาศัยอยู่ในบ้านเพียงลำพัง มีเพียงเพื่อนบ้านช่วยเหลือด้านอาหารเท่าที่จำเป็น หรือในช่วงวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะจ้างให้ลูกสาวคนโตไปรับจ้าง ได้รายได้วันละ ๖๐-๗๐ บาท ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดศรีสะเกษ ให้ความช่วยเหลือโดยได้มอบเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน เป็นเงินจำนวน ๒,๐๐๐ บาท พร้อมทั้งประสานไปยังโรงพยาบาลภูสิงห์ เพื่อให้การรักษาอาการป่วยของเด็กหญิงที่ป่วยเป็นโรคธาลัสซีเมียอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังได้ประสานผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อช่วยเหลือด้านการพักการลงโทษให้แก่ผู้เป็นแม่ ซึ่งกำหนดจะพ้นโทษในอีก ๖-๗ เดือน และได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เฝ้าระวังและดูแลเด็กหญิงทั้ง ๓ คน ระหว่างรอแม่เด็กพักการลงโทษ สำหรับการช่วยเหลือในระยะยาวนั้น จะให้การช่วยเหลือด้วยเงินกองทุนคุ้มครองเด็กแก่ครอบครัว เพื่อเป็นทุนประกอบอาชีพ และค่าใช้จ่ายในครัวเรือนจำนวน ๑๐,๐๐๐ บาท หลังจากแม่เด็กได้รับการพักการลงโทษ