TPCH แจกข่าวดี!!! “MGP-TSG”ได้เซ็นสัญญา PPA แบบ FiT แล้ว มั่นใจภายใน 3 ปีครึ่ง กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday June 30, 2015 13:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--30 มิ.ย.--IR network หัวเรือใหญ่ TPCH "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล" เผยข่าวดี "MGP-TSG" ได้เซ็นสัญญา PPA แบบ Feed-in Tariff เรียบร้อยแล้ว ส่วน MWE ก.ค.58 เริ่มเดินเครื่องขายไฟฟ้า หนุนผลประกอบการแจ่มทั้งปี 58 โต 30-40% พร้อมวางเป้าปี 60 กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 100 MW และปี 62-63 กำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 200 MW การันตี 3 ปีครึ่ง กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล แม่วงก์ เอ็นเนอยี่ (MWE) ที่ จ.นครสวรรค์ จะเริ่มจำหน่ายไฟฟ้าเป็นครั้งแรก ด้วยกำลังการผลิตตามสัญญา 8 เมกะวัตต์ ภายในเดือนกรกฎาคม 2558 โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้จะเป็นแห่งแรกที่ขายไฟฟ้าด้วยระบบ FiT แทนที่ระบบ Adder ส่วนโรงไฟฟ้าชีวมวล มหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) และโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน (TSG) ได้เซ็นสัญญา PPA แบบ Feed-in Tariff เรียบร้อยแล้ว "TPCH ได้รับใบอนุญาต หรือ ใบตอบรับซื้อไฟฟ้า ครบแล้ว 6 โครงการ (อยู่ระหว่างก่อสร้าง 4 แห่ง) โรงไฟฟ้าอีก 2 แห่ง MGP และ TSG ก็ได้เซ็นสัญญา PPA แบบ Feed-in Tariff เรียบร้อยแล้ว ส่วนโครงการใหญ่ แห่งที่ 7 ที่ จ.ปัตตานี 42 เมกะวัตต์ เฟส 1 อยู่ระหว่างอนุมัติจากบอร์ด RE ซึ่งมั่นใจมาก ว่าจะได้รับการอนุมัติ เนื่องจากระบบสายส่งมีความพร้อมและอยู่ในพื้นที่ขาดแคลนไฟฟ้าอีกด้วย ขณะที่แผนส่วนเพิ่ม 50 เมกะวัตต์ บริษัทเริ่มงานด้านมวลชนแล้ว 3 แห่ง ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากจากความสำเร็จของโครงการ CBR ทำให้ตอนนี้บริษัทมีสัญญา PPA ในมือแน่นอนแล้วทั้งหมดประมาณ 80 เมกะวัตต์" นายเชิดศักดิ์ กล่าว ส่วนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2558 คาดจะกลับมาอยู่ในระดับปกติที่ 60 - 66 ล้านบาท หลังจากไตรมาสที่ผ่านมาเสียวันทำงานไป 8 วัน จากการหยุดบำรุงรักษาเครื่องจักรให้สอดรับกับการซ่อมบำรุงสายส่งไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แต่ในไตรมาสดังกล่าวจะมีรายได้จากการขายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้า 1 แห่ง คือโรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรกไบโอเพาเวอร์ (CBR) เข้ามาสนับสนุนและหยุดซ่อมบำรุงรักษาเครื่องจักรน้อยกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ส่วนผลประกอบการทั้งปีนี้คาดว่าจะออกมาตามที่ตั้งเป้าหมายไว้คือเติบโต 30-40% จากปีก่อนที่ทำได้ 258.26 ล้านบาท นายเชิดศักดิ์ กล่าวว่า มั่นใจว่าจะได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ในปี 2558 เพิ่มจำนวน 30-50 เมกะวัตต์ และในปี 2560 จะมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ และในปี 2562-2563 จะมีกำลังการผลิตไม่ต่ำกว่า 200 เมกะวัตต์อย่างแน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 10 เท่า ในระยะ 3 ปีครึ่ง ดังนั้นจะส่งผลให้รายได้และกำไรของบริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดด อย่างไรก็ดี ปัจจุบันการได้รับสัญญา PPA ต้องเข้าสู่การประมูล ซึ่งจะมีความชัดเจน ภายในปลายเดือน ก.ค. 2558 จากข้อมูลเบื้องต้นในการเปิดประมูลในครั้งนี้ เป้าหมายพลังงานทดแทนมาจาก 3 กลุ่มด้วยกัน 1) ชีวมวล 2) ชีวภาพ 3) ลม ซึ่งชีวมวลได้ถูกกำหนดให้ความสำคัญเป็นอันดับที่ 1 ซึ่งส่งผลดีต่อภาพรวมของบริษัท "การเติบโตของบริษัทเป็นการเติบโตที่เป็นไปได้จริง เนื่องจากได้รับใบอนุญาตและดำเนินการก่อสร้างแล้ว จึงวางเป้าหมายที่จะเป็นกลุ่มโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ใหญ่ที่สุดทางภาคใต้ ซึ่งบริษัทมีกลุ่มพันธมิตรที่พร้อมจะเติบโตไปตามเป้าหมายที่บริษัทได้วางไว้ ส่วนทั้งปีนี้ก็มั่นใจว่ารายได้จะเติบโต 30-40% จากปีก่อนที่ทำได้ 258.26 ล้านบาท" นายเชิดศักดิ์ กล่าวในที่สุด

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ