กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากกรณีที่ กระทรวงวัฒนธรรม มอบหนังสือนามานุกรมพระมหากษัตริย์ไทย 20 เล่ม ให้นายกรัฐมนตรี โดยหนังสือดังกล่าวกระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมกับมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา (ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี) จัดพิมพ์หนังสือดังกล่าว ขึ้นเพื่อเผยแพร่พระราชประวัติพระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรีและรัตนโกสินทร์นั้น นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ร่วมกันจัดทำคู่มือประวัติศาสตร์ชาติไทยสำหรับเด็กๆ ในระดับประถม ระดับมัธยม ระดับอุดมศึกษา นักศึกษาต่างประเทศและประชาชนทั่วไป โดยให้มีเนื้อหาเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ไทยในทุกพระองค์ ทรงทำคุณประโยชน์ใดไว้ในแผ่นดิน ตั้งแต่สร้างชาติ สู้รบและสู้ความยากจน ความเป็นมาของประเทศไทย วัฒนธรรมประเพณีของไทย
นายวีระ กล่าวว่า ในส่วนกระทรวงวัฒนธรรม มอบหมายให้กรมศิลปากร ไปดำเนินการเรื่องดังกล่าว โดยหลังจากนี้ต้องไปหารือกับกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ถึงแนวทางและการดำเนินการเรื่องดังกล่าวร่วมกันในการจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยให้เด็ก เยาวชนและประชาชนทั่วไป ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ของชาติ ซึ่งการดำเนินการเรื่องนี้ทั้งสองกระทรวงจะต้องร่วมมือกัน อาจจะต้องจัดตั้งคณะทำงาน เพื่อให้การดำเนินการเรื่องนี้สามารถขับเคลื่อนได้อย่างรวดเร็ว การจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยในส่วนของเด็กและเยาวชน ก็จะต้องใช้วิธีการเขียนที่อ่านแล้วสนุก น่าสนใจ ไม่น่าเบื่อ รวมถึงมีภาพประกอบสวยงาม ที่สำคัญในส่วนของระดับประถมศึกษาอาจจะจัดทำหนังสือในรูปแบบการ์ตูน เพื่อดึงดูดความน่าสนใจจากเด็กและเยาวชน อย่างไรก็ตามในส่วนของกระทรวง ได้ประชุมหารือกับกรมศิลปากรไปแล้วได้ข้อสรุปว่า การจัดทำหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทยจะต้องเป็นหนังสือที่น่าสนใจ อ่านง่าย ที่สำคัญเด็กๆ ทั้งในระดับประถม ระดับมัธยม ระดับอุดมศึกษา นักศึกษาต่างประเทศและประชาชนทั่วไป อ่านแล้วเข้าใจเรื่องประวัติศาสตร์มากขึ้น
"อย่างไรก็ดีขณะนี้ในส่วนของสำนักวรรณกรรมและประวัติศาสตร์ กรมศิลปากร ได้จัดทำหนังสือประวัติศาสตร์ชาติไทย ซึ่งเป็นหนังสือที่เล่าถึงยุคสมัยและประวัติศาสตร์ของประเทศไทยในยุคต่างๆ อาทิ ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ทวารวดี ศรีวิชัย สุโขทัย อยุธยา และรัตนโกสินทร์ เป็นต้น โดยหนังสือเล่มดังกล่าวทางนักวิชาการได้เขียนและนำเสนอเรื่องราวที่อ่านง่าย เหมาะสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งขณะนี้ต้นฉบับจัดทำและผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการของกรมศิลปากรเรียบร้อยแล้ว โดยคาดว่าภายในเดือนกรกฎาคมนี้จะจัดพิมพ์และนำมาเผยแพร่ในประชาชนทั่วไปได้อ่านและเรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ของชาติ ที่สำคัญจะนำหนังสือเล่มดังกล่าวไปแปลและจัดพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้นักศึกษาต่างประเทศและชาวต่างชาติ ได้ศึกษาและเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของประเทศไทยด้วย" นายวีระ กล่าว