กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2558 ที่ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ศาสตราจารย์ ดร. อภินันท์ โปษยานนท์ ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวในการแถลงข่าวการจัดงานมหกรรมสุขภาพดี วิถีชุมชนว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในการพัฒนาถนนสายวัฒนธรรมในจังหวัดต่างๆ ของประเทศให้เป็นต้นแบบการเรียนรู้ และเป็นแนวทางการจัดกิจกรรมสายวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของท้องถิ่น ซึ่งขณะได้ดำเนินการนำร่องเส้นทาง ตลาดนครชุม ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร และเตรียมพัฒนาถนนสายวัฒนธรรมอีกหลายแห่งทั่วประเทศ
สำหรับในกรุงเทพมหานคร ได้ดำเนินการในตลาดคลองผดุงกรุงเกษม โดยใช้ธีมงาน "วิถีไทยในถนนวัฒนธรรม" เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคม 2558 จัดเฉพาะวัน ศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ประกอบด้วย วิถีอาหารไทย วิถีผ้าไทย วิถีด้านศิลปะ การละเล่น การแสดงของไทย ดนตรีไทย และดนตรีพื้นบ้านและสากล เป็นต้น โดยได้รับการตอบรับจากประชาชนจำนวนมาก หลังจากนั้น รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยขยายระยะเวลาให้ดำเนินการจัดทุกวัน ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ เริ่มตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป ซึ่งมีร้านจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมกว่า 35 ร้าน และมีการปรับปรุงพื้นที่เพื่อรองรับประชาชนที่เข้ามาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก รายได้ต่อวัน ประมาณ 100,000 – 120,000 บาท ซึ่งขณะนี้ รายได้รวมจากการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมประมาณ 8 กว่าล้านบาทแล้ว
ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่าต่อไปว่า สำหรับการจัดงานมหกรรมสุขภาพดี วิถีชุมชน โดยกระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 7 – 26 กรกฎาคม 2558 ณ ตลาดคลองผดุงกรุงเกษมนั้น กระทรวงวัฒนธรรม ได้สนับสนุนโดยนำกิจกรรมถนนสายวัฒนธรรมมาร่วมด้วย ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม การจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรมประเภทต่างๆ ประกอบด้วย โซนผ้าไทย อาทิ ผลิตภัณฑ์ผ้ากุดกวางสร้อย จังหวัดหนองบัวลำภู กลุ่มผ้าทอและตัดเย็บบ้านหาดเสี้ยว จังหวัดสุโขทัย กลุ่มทอผ้าอู๊ดบ้านครัวเหนือไหมไทย กลุ่มทอผ้าพื้นเมืองจังหวัดนครราชสีมา เป็นต้น สำหรับประเภทอาหาร อาทิ ข้าวขาหมูนครปฐม ไก่ย่างเขาสวนกวาง หมี่กรอบตลิ่งชัน ผัดหมี่โคราช เป็นต้น ส่วนการแสดง ประกอบด้วย วงออเคสตร้า การแสดงพื้นบ้าน เพลงฉ่อย เพลงไทยลูกทุ่ง การแสดงของศิลปินแห่งชาติ เป็นต้น ทั้งนี้ จึงอยากเชิญชวนให้ประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆภายในงาน เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยววิถีไทยตามนโยบายของรัฐบาล และเปิดโอกาสให้ประชาชนมีพื้นที่ในการจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะส่งผลดีให้ประชาชนกินดีอยู่ดี และสร้างรายได้ให้กับชุมชนอย่างยั่งยืนอีกด้วย