กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์แจ้งว่าวันนี้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ได้อนุญาตให้พนักงานของโรงพยาบาลฯ ที่อยู่ภายใต้มาตรการเฝ้าระวังอาการที่โรงพยาบาลทั้งหมดกลับบ้านแล้ว ซึ่งมีความหมายว่าในวันนี้ 2 กรกฎาคม 2558 โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ไม่มีผู้ที่ต้องสงสัยโรคไวรัสเมอร์สรายใดอยู่ในโรงพยาบาลฯ จึงมีความปลอดภัยและพร้อมบริการตามปกติ
นับจากการรายงานโรคไวรัสเมอร์สในประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2558 ที่ผ่านมา โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในฐานะที่เป็นผู้รายงานผู้ป่วยที่ต้องสงสัย และได้ทำการคัดกรองจนสามารถป้องกันการระบาดเข้าสู่ชุมชน รวมทั้งได้จัดการย้ายผู้ป่วยเพื่อไปรับการรักษาต่อยังสถาบันบำราศนราดูร ในสังกัดของกระทรวงสาธารณสุขอย่างปลอดภัย และสามารถควบคุมไม่ให้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสเมอร์สได้ ตามที่รับทราบโดยทั่วกันแล้วนั้น
ทางโรงพยาบาลฯ ขอแจ้งว่ายังคงปฎิบัติตามมาตรการที่เข้มข้น เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยให้กับผู้ป่วย ผู้มาใช้บริการ บุคลากรของโรงพยาบาลฯ และสังคมโดยรวม ด้วยมาตรการขั้นสูงสุด อาทิ ติดตั้งเครื่อง Thermo Scan เพื่อตรวจจับผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายเกินกำหนด ตั้งคลินิกคัดกรองพิเศษ (Special Screening Clinic) และเพิ่มห้องดูแลผู้ป่วยแยกแบบ Airborne Infection Isolation Room เพื่อสำหรับคัดกรองผู้ป่วยที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยหรืออยู่ในกลุ่มเสี่ยงโดยไม่ให้ปะปนกับผู้ป่วยทั่วไป เข้มงวดและเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดพื้นที่และอุปกรณ์สาธารณะต่างๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ การติดต่อประสานงานร่วมกับกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เพื่อเพิ่มมาตรการในการเฝ้าระวังและป้องกันโรคเมอร์ส และฝ่ายบริหารมีการติดตาม เฝ้าระวัง และประชุมกับผู้เชี่ยวชาญ เพื่อปรับแผนรองรับสถานการณ์ตามความเหมาะสมตลอดเวลา
ด้วยมาตรการและแนวทางการปฏิบัติที่ทำมาอย่างต่อเนื่องทำให้โรงพยาบาลฯ สามารถรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที จนโรงพยาบาลฯ ได้รับการชื่นชมทั้งจากภายในประเทศ ได้แก่กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบัน ตลอดจนการชื่นชมจากต่างประเทศ ได้แก่ องค์การอนามัยโลก และสำนักข่าวอีกเป็นจำนวนมาก
โรงพยาบาลฯ ขอให้ทุกท่านได้มั่นใจว่า ภายใต้แนวทางปฏิบัติของโรงพยาบาลฯ ที่เพิ่มมาตรการการป้องกันที่สูงขึ้นกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) หน่วยควบคุมโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC) และกระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลฯ มั่นใจว่าสามารถรับมือกับสถานการณ์แบบนี้ได้ตลอดไป และโรงพยาบาลฯ มีความปลอดภัยและพร้อมบริการแก่ผู้ใช้บริการตามปกติ