กรุงเทพฯ--2 ก.ค.--สำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคม
รัฐบาลไฟเขียวนโยบายส่งเสริมกิจการเพื่อสังคม จับมือธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกสลากเพื่อสังคมระดมทุน 2,000 ล้านบาท ในวงเงินสูงสุดธนาคารละ 1,000 ล้านบาท พร้อมด้วยบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) สนับสนุนการค้ำประกัน เพื่อปล่อยสินเชื่อให้กิจการเพื่อสังคมและวิสาหกิจชุมชนที่มีคุณภาพเข้าถึงแหล่งเงินทุนไปใช้ในการดำเนินธุรกิจซึ่งมีเป้าหมายแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม เริ่ม 12-31 ส.ค. นี้
ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม และประธานคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (คกส.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ออกมาตรการส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมผ่านโครงการ "สลากเพื่อสังคม" ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ออกสลากจำนวน 2,000 ล้านบาท นำมาเป็นสินเชื่อสำหรับกิจการเพื่อสังคมและวิสาหกิจชุมชน เพื่อแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมทั้งด้านสุขภาพ การศึกษา ชุมชน ผู้ด้อยโอกาส พลังงาน
นอกจากนี้ คกส. ยังได้ออกมาตรการสร้างระบบรับรองคุณสมบัติกิจการเพื่อสังคม ให้นิติบุคคลสามารถลงทะเบียนและขอใบรับรองได้จากสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติด้วย เพื่อให้กิจการที่ได้รับการรับรองสามารถยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารทั้งสองแห่งได้
นายณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (สกส.)กล่าวว่า กิจการเพื่อสังคม และวิสาหกิจชุมชนเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อม แต่กิจการจำนวนมากยังมีปัญหาเรื่องการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เนื่องจากกลไกปกติของธนาคารมักไม่ปล่อยกู้หรือปล่อยในอัตราสูงกับกิจการเพื่อสังคมที่มีต้นทุนค่อนข้างสูง และได้ส่วนต่างกำไรต่ำเมื่อเทียบกับกิจการทั่วไป
ปัจจุบันมีรายชื่อกิจการเพื่อสังคมในระบบฐานข้อมูลทั้งสิ้นจำนวน 480 กิจการ จากการสำรวจเบื้องต้นพบว่ามี 169 กิจการที่เข้าข่ายจะผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่ได้รับการรับรอง และหากธนาคารพิจารณาแล้วยังไม่ผ่านเงื่อนไขสินเชื่อ ก็มีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมที่จะเป็นผู้สนับสนุนการค้ำประกัน
ทาง สกส. หวังว่า โครงการนี้จะเป็นประโยชน์ต่อกิจการเพื่อสังคมระยะเริ่มต้นที่มีศักยภาพจำนวน 100กิจการ ครอบคลุมเครือข่ายชุมชนผู้ได้รับประโยชน์กว่า 10,000 คน อีกทั้งวิสาหกิจชุมชนเพื่อสังคม จำนวน 1,000กิจการ ครอบคลุมเครือข่ายชุมชนผู้ได้รับประโยชน์กว่า 50,000 ครัวเรือน
"โครงการสลากเพื่อสังคมนี้จะเป็นทางเลือกให้ประชาชนที่ต้องการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม นอกจากการบริจาคแล้ว มาตรการสลากเพื่อสังคมจะช่วยให้เกิดระบบส่งเสริมกันอย่างยั่งยืน" นายณัฐพงษ์กล่าว
ด้านนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า การสนับสนุนกิจการเพื่อสังคมเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายออมสินที่เป็นธนาคารของประชาชน ธนาคารยินดีร่วมมือในนโยบายนี้ เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน
โดยทางธนาคารมีโปรแกรมสินเชื่อหลากหลายกลุ่ม อาทิ สินเชื่อสำหรับกลุ่มองค์กรชุมชนหรือองค์กรพัฒนาเอกชน หรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เป็นสมาชิกสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท (สพช.) กลุ่มผู้ประกอบการ SMEs สินเชื่อทุกประเภทข้างต้น คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากันคือร้อยละ 5-7 ต่อปี สำหรับลูกค้าที่มีประวัติการผ่อนชำระที่ดี ตรงเวลา ครบ 1 ปี ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยให้ร้อยละ 1 ของปีถัดไป
นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าว่า ธนาคารในฐานะรัฐวิสาหกิจดำเนินนโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตของเกษตรกร พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการเพื่อสังคม และหวังว่านโยบายนี้จะช่วยพัฒนากิจการที่ต้องการแก้ปัญหาสังคมได้ โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายของธนาคาร คือกิจการผลิตหรือแปรรูปผลิตภัณฑ์อินทรีย์ กิจการพลังงานทดแทน พลังงานสะอาด ท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวัฒนธรรม ระบบบริการสาธารณะท้องถิ่น
อัตราดอกเบี้ยสำหรับกิจการเพื่อสังคมที่ได้รับการรับรอง เทียบเท่าเงินกู้ MLR 5% บวกส่วนต่างไม่เกิน 2% ต่อปี ทั้งเงินกู้หมุนเวียนและเงินกู้ลงทุน ในกรณีผู้กู้สามารถคืนได้ตามกำหนด ธนาคารจะคืนดอกเบี้ยเงินกู้ให้ผู้กู้ร้อยละ 1 ต่อปี ดำเนินการทุกสาขาทั่วประเทศ
ด้านนายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เปิดเผยว่า บสย. เป็นหน่วยงานของรัฐที่ยินดีสนับสนุนผู้ประกอบการให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพิ่มความมั่นใจให้สถาบันการเงิน สำหรับโครงการนี้ เป็นการขยายความช่วยเหลือไปยังผู้ประกอบการกลุ่มใหม่ล่าสุดของ บสย. คือกลุ่มผู้ประกอบการกิจการเพื่อสังคม ซึ่งขณะนี้กำลังได้รับความสนใจจากสถาบันการเงินหลายแห่ง โครงการนี้เป็นการจุดประกายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนเพื่อต่อยอดขยายธุรกิจ ยกระดับองค์กร โดยมี บสย. เป็นผู้ค้ำประกันสินเชื่อให้ธุรกิจเพื่อสังคมได้รับเงินเพียงพอต่อความต้องการ
สำหรับสลากดังกล่าวมีกำหนดระยะเวลาออกสลาก 20 วัน จำหน่ายระหว่างวันที่ 12-31 สิงหาคม 2558 เพื่อระดมทุนสร้างระบบสินเชื่อพิเศษให้กับกิจการเพื่อสังคม ในวงเงินสูงสุดธนาคารละ 1,000 ล้านบาท หรือรวม 2,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ รัฐบาลกำลังอยู่ในระหว่างการผลักดันพระราชบัญญัติเพื่อส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมที่กำลังอยู่ในกระบวนการพิจารณาของ ครม. โดยจะเพิ่มเติมมาตรการสำคัญให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น เช่น ระบบการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อสังคมของภาครัฐและเอกชน การจัดตั้งกองทุนเพื่อกิจการเพื่อสังคม ระบบภาษีเพื่อสร้างแรงจูงใจ อันจะช่วยส่งเสริมกิจการเพื่อสังคมได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
บรรยายใต้ภาพ
1. ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านสังคม และประธานคณะกรรมการสร้างเสริมกิจการเพื่อสังคมแห่งชาติ (คกส.)
2. นายณัฐพงษ์ จารุวรรณพงศ์ ผู้อำนวยการ(สกส.) กล่าวถึงกลไกการหนุนเสริมกิจการเพื่อสังคม
3. นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงพันธกิจที่เป็นธนาคารเพื่อสังคมและเงื่อนไขการออกสลากเพื่อสังคม
4. นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร กล่าวถึงความร่วมมือของธกส ในการออกสลากเพื่อสังคมครั้งนี้
5. คุณหญิงพวงร้อย ดิศกุล ณ อยุธยา กล่าวถึงการทำงานของมูลนิธิแม่ฟ้าหลวงที่เป็นต้นแบบการทำงานของกิจการเพื่อสังคม
6. นายวัลลภ เตชะไพบูลย์ กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ความช่วยเหลือในการให้หลักประกันกับกิจการเพื่อสังคม
7. ภาพความร่วมมือในการออกสลากเพื่อสังคม
8. ตัวอย่างกิจการเพื่อสังคมที่มาร่วมงาน (มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง)
9. ตัวอย่างกิจการเพื่อสังคม (BIO MASS) ที่มาร่วมงานสลากเพือสังคม
10. ภาพบรรยากาศงานแถลงข่าว
11. ชัยฤทธิ์ อิ่มเจริญ เจ้าของกิจการเพื่อสังคม ไอศกรีมฟาร์มสุข เล่าถึงที่มาของการทำงานแบบกิจการเพื่อสังคม