กรุงเทพฯ--3 ก.ค.--จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่
ผ่านไปครึ่งปีแรกสุดฉลุยสำหรับ กลุ่มธุรกิจเพลงจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ล่าสุดหลังปรับโครงสร้างแบ่งค่ายเพลงตามแนวเพลงอย่างชัดเจน พร้อมสร้างศิลปินหน้าใหม่ออกสู่วงการเพลงเพื่อเป็นการต่อยอดรายได้อย่างครบวงจร พร้อมมั่นใจครึ่งปีหลัง ธุรกิจโชว์บิสเตรียมสร้างความคึกคักให้กับอุตสาหกรรมบันเทิงอย่างแน่นอน โดยเรื่องนี้ "กริช ทอมมัส" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานจีเอ็มเอ็ม มิวสิค บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า
"ปีนี้นับเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของกลุ่มธุรกิจเพลง เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าสู่ตลาดเออีซี โดยได้ปรับโครงสร้างด้วยการจัดแบ่งค่ายเพลงตามแนวเพลงให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ประกอบด้วย แนวเพลงป๊อป (เมนสตรีม) แนวเพลงร็อค (จีนี่ เรคคอร์ดส์) แนวเพลงอีซี่ ลิสเซินนิ่ง (เวิร์คแก๊งส์) แนวเพลงลูกทุ่ง (แกรมมี่โกลด์) แนวเพลงอินดี้ (สนามหลวง) และแนวเพลงสำหรับวัยรุ่น (ทีน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์) รวมทั้งเปลี่ยนรูปแบบธุรกิจจาก มิวสิค บิสิเนส สู่ ไอดอล บิสิเนส เพื่อสร้างรายได้ให้ครอบคลุม 360 องศา"
"นอกจากนี้แกรมมี่ ยังได้พัฒนาศิลปินคลื่นลูกใหม่เข้าสู่วงการเพลงอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ได้แจ้งเกิดศิลปินน้องใหม่ที่กำลังมาแรง อาทิ อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม เจ้าของเพลง Please (พลีส) ที่ติดชาร์ตอันดับ 1 สถานีวิทยุทั่วประเทศ ขณะที่ พลอยชมพู-ญานนีน ภารวี ไวเกล สาวน้อยลูกครึ่งไทย-เยอรมัน วัย 15 ปี ที่โด่งดังจากเน็ตไอดอล ได้กลายมาเป็นนักร้องน้องใหม่ของแกรมมี่ ด้วยซิงเกิ้ลแรก "ชักดิ้นชักงอ" และปัจจุบันพลอยชมพูยังได้ก้าวขึ้นมาเป็นนักร้องคนแรกของเมืองไทย ที่มียอดผู้ติดตามในยูทูปไทยแลนด์ กว่า 1 ล้านสมาชิก นอกจากนี้พลอยชมพูยังเตรียมปล่อยผลงานเพลงในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ เพื่อขยายตลาดไปยังต่างประเทศอีกด้วย"
"ส่วนธุรกิจโชว์บิสนั้น นับว่าคึกคักตั้งแต่ต้นปี ด้วยคอนเสิร์ตใหญ่หลายรายการที่แกรมมี่จัดเต็มตามกระแสเรียกร้องของแฟน ในขณะที่ครึ่งปีหลังจะเข้มข้นขึ้นกว่าเดิม อาทิ คอนเสิร์ตของวงบอดี้สแลม 25 อาวส์, บิ๊กแอส ,โปเตโต้ หรือการแบทเทิลกันของศิลปินต่างค่าย ภายใต้ชื่อคอนเสิร์ต แบนด์ ออน เดอะ รัน , จิ้มไหล่ เฟสติวัล 2 คอนเสิร์ตที่รวบรวมชาวเน็ตไอดอลมาปล่อยของและพบกับแฟนเพลงของเขาแบบตัวเป็นๆ , คอนเสิร์ต 20 ปี แกรมมี่โกลด์ และปิดท้ายด้วยเทศกาลดนตรีระดับประเทศ บิกเมาน์เท่น มิวสิค เฟสติวัล 7 ที่คาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานนี้กว่า 5 หมื่นคน"