กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--กลุ่มประชาสัมพันธ์ กระทรวงวัฒนธรรม
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวว่า จากกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีแนวคิดเรื่องควรให้ความสำคัญกับการดูแลและอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยและท้องถิ่น รวมถึงการดูแลจัดการเรื่องผังเมืองให้เป็นระเบียบ เพื่อให้สะท้อนและอนุรักษ์เอกลักษณ์และอัตลักษณ์ความเป็นสถาปัตยกรรมไทยและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น ดังนั้นกระทรวงวัฒนธรรม ได้ร่วมมือหารือกับหน่วยงานต่างๆ อาทิ กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร คณะกรรมอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) สมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ และนักวิชาการจากสถาบันการศึกษา รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาประชุมหารือเรื่องการอนุรักษ์พัฒนาเมืองในการอนุรักษ์อัตลักษณ์ความเป็นสถาปัตยกรรมไทยและสถาปัตยกรรมท้องถิ่นให้คงอยู่และพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม
นายวีระ กล่าวต่อว่า ที่ประชุมได้มีมติว่า การดำเนินการเรื่องดังกล่าวทุกหน่วยงานต้องบูรณาการการทำงานร่วมกัน มีความเห็นว่าควรจัดตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมืองต่างๆ ในประเทศไทย เพื่อจัดกลุ่มเมืองออกเป็นประเภทต่างๆ อาทิ เมืองประวัติศาสตร์และมรดกโลก และเมืองสมัยใหม่ เพื่อให้มีรูปแบบในการพัฒนาลักษณะตามแบบของเมืองแต่ละประเภท นอกจากนี้ต้องศึกษาเอกลักษณ์ของเมืองแต่ละประเภท และศึกษาเมืองที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาเมืองทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผลักดันให้เกิดโครงการเมืองไทยไทย น่าอยู่ น่าเที่ยว ซึ่งจะมีการจัดสัมมนาระดมความเห็นจากทุกภาคส่วนอีกครั้งในช่วงเดือนสิงหาคม และที่ประชุมยังเห็นตรงกันว่าควรเรียนเชิญนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในงานสัมมนา เพื่อกล่าวมอบนโยบายเรื่องดังกล่าวด้วย นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติว่าให้คณะทำงานไปศึกษา รวบรวมแนวทางการพัฒนาเมืองต่างๆ และข้อเสนอต่างๆ ที่จะเสนอให้แต่ละหน่วยงานเร่งดำเนินการหรือว่าเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ เพื่อเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการต่อไป
"การอนุรักษ์สถาปัตยกรรมไทยและท้องถิ่น และการดูแลจัดการเรื่องผังเมืองให้เป็นระเบียบนั้น จะทำให้บ้านเมืองให้น่าอยู่ และเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่ยังคงอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสถาปัตยกรรมแบบไทยๆ ดังนั้นทุกฝ่ายเห็นว่า การพัฒนาเมืองไทยให้น่าอยู่และน่าเที่ยวนั้น จำเป็นต้องมีแผนการบริหารจัดการบ้านเมืองที่รองรับการพัฒนาที่คงเอกลักษณ์ของแต่ละเมืองไป พร้อมกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน วธ.ในฐานะหน่วยงานที่ดูแลเมืองสำคัญทางประวัติศาสตร์ เมืองมรดกโลกและเมืองเก่าต่างๆ ซึ่งเป็นเมืองที่มีศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ สังคมและการท่องเที่ยวจึงเห็นว่ามีความจำเป็นต้องพัฒนาเมืองต่างๆ ให้เป็นเมืองที่มีความน่าอยู่และยั่งยืน เพื่อบอกเล่าภูมิปัญญาและวิถีชีวิตแก่ผู้เยี่ยมเยือน รวมถึงสร้างความภาคภูมิใจให้คนในพื้นที่" รมว.วธ. กล่าว