กรุงเทพฯ--6 ก.ค.--ปตท.
สัปดาห์ ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 1.55 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 62 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 0.80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลมาอยู่ที่ 60.71 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 2.28 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาที่ 57.92 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันเบนซินออกเทน ลดลง 2.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 76.56 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 2.06 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 72.03 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ
· Reuters ประเมินจากข้อมูลการส่งมอบว่าสหรัฐอเมริกาส่งออก Condensate ในเดือน พ.ค. 58 อยู่ที่ 120,000 บาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปีที่ประมาณ 60,000 บาร์เรลต่อวัน ทั้งนี้ ส่วนมากส่งออกไปยังยุโรป
· กระทรวงการค้า อุตสาหกรรม (METI) ของญี่ปุ่นรายงานปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบเดือน พ.ค. 58 ที่ 3.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อน 1.4% ขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบนำเข้ากลั่นอยู่ที่ 3.01 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากเดือนก่อน 10.1%
· Energy Information Administration (EIA) ของสหรัฐฯ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดิบเชิงพาณิชย์ของสหรัฐฯสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มิ.ย. 58 เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 2.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ระดับ 465.4 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2 ล้านบาร์เรล
· Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ของสหรัฐ รายงานสถานะการลงทุนของสัญญาน้ำมันดิบWTI ในตลาดซื้อขายล่วงหน้าที่ NYMEX ที่นิวยอร์กและ ICE ที่ลอนดอน สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 23 มิ.ย. 58 กลุ่มผู้จัดการกองทุนปรับลดสถานะการซื้อสุทธิ (Net Long Position) ลงจากสัปดาห์ก่อน 5,314 สัญญา อยู่ที่ 238,274 สัญญา
· กรีซผิดนัดขำระหนี้ IMF วันที่ 30 ก.ค. 58 ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับความช่วยเหลือของ European Commissionและ ECB ที่ให้แก่กรีซครบกำหนด ทำให้กรีซอาจไม่ได้รับความช่วยเหลืออีกต่อไป และกรีซน่าจะไม่สามารถซื้อคืนพันธบัตรที่ ECB ถือครองมูลค่า 3.46 พันล้านยูโร ในวันที่ 20 ก.ค. 58 ซึ่งหากกรีซทำไม่ได้ ECB จะตัดการเข้าถึงเงินกู้ฉุกเฉินของกรีซทั้งหมด
· สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือ Fitch Ratings ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซลง 1 ขั้น สู่ระดับ CCซึ่งถือเป็นระดับ Junk สอดคล้องกับทิศทางการลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซโดย Standard & Poor's วานนี้
ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก
· Baker Hughes รายงานปริมาณแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐฯ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 มิ.ย. 58 ลดลง จากสัปดาห์ก่อน 3 แท่น อยู่ที่ 628 แท่น ซึ่งเป็นอัตราการลดลงน้อยที่สุดในรอบ 5 สัปดาห์ บ่งชี้ปริมาณแท่นขุดเจาะที่Idle เริ่มชะลอตัว
· ICIS (Independent Chemical Information Service) สำนักวิจัยด้านสินค้าโภคภัณฑ์ของจีน รายงานจีนนำเข้าน้ำมันดิบ ESPO ปริมาณ 1.5 ล้านบาร์เรล เพื่อเก็บในคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (Strategic Petroleum Reserveหรือ SPR) ที่เมือง Qingdao ซึ่งสามารถเก็บน้ำมันดิบได้กว่า 20 ล้านบาร์เรล คลังน้ำมันดังกล่าวเป็นคลัง SPR Phase 2 ของจีน SPR เพื่อสำรองน้ำมันดิบใช้ในยามฉุกเฉินโดยตั้งเป้าปริมาณสำรองทางยุทธศาสตร์เทียบเท่ากับปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบ 90 วัน หรือประมาณ 585 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้ใน Phase 1 เก็บสำรองน้ำมันแล้ว 91 ล้านบาร์เรล และเร่งรัดการดำเนินการใน Phase ต่อไป
· นาย Stanley Fischer รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวระหว่างการประชุมผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศแอฟริกา ว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาส 2/58 มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.5% เนื่องจากตลาดแรงงานขยายตัวจนใกล้เข้าสู่ระดับ Full Employment อย่างไรก็ตาม FED จะพิจารณาถึงผลกระทบด้านต้นทุนการกู้ยืมของประเทศกำลังพัฒนาหาก FED ปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย
· ธนาคารแห่งชาติของจีน (PBOC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% มาอยู่ที่ 4.85% นับเป็นการลดลงต่อเนื่อง 4 ครั้งตั้งแต่เดือน พ.ย. 57 นอกจากนี้ ยังปรับลดเกณฑ์สำรองเงินสดของธนาคารที่ปล่อยกู้ภาคการเกษตรและธุรกิจขนาดกลางและย่อมลงด้วยเช่นกัน
แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ
ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงจากจำนวนแท่นผลิตน้ำมันดิบในสหรัฐฯล่าสุดปรับเพิ่มขึ้นสร้างความกังวลเกี่ยวกับExcess Supply แก่ผู้ค้าน้ำมัน อีกทั้งผลประชามติของกรีซไม่ยอมรับเงื่อนไขการขอรับเงินช่วยเหลือจากบรรดาเจ้าหนี้ที่บังคับให้กรีซต้องรัดเข็มขัดมากขึ้นสร้างความปั่นป่วนของบรรยากาศการลงทุนทั่วโลก ล่าสุด IMF คาดการณ์ว่ากรีซยังจำเป็นต้องระดมทุนอีกกว่า 5 หมื่นล้านยูโร ในช่วง 3 ปีข้างหน้า เพื่อให้เศรษฐกิจกรีซสามารถขับเคลื่อนต่อไปได้ โดยปัจจุบันกรีซมียอดค้างชำระหนี้ IMF รวม 2.12 หมื่นล้านยูโร (กำหนดการชำระหนี้งวดล่าสุด 1.5 พันล้านยูโรเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา) ทั้งนี้ IMF ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจกรีซปี 58 เป็น 0% (ลดลงจากปีก่อน 0.8%) อย่างไรก็ตามจีนเดินหน้ารักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจด้วยการเพิ่มสภาพคล่องแก่ระบบธนาคารในประเทศโดยธนาคารกลางจีนประกาศยืดระยะเวลาสำหรับเงินกู้จำนวน 2.5 แสนล้านหยวน ที่ปล่อยให้กับสถาบันการเงิน 11 แห่ง หลังจากสินเชื่อที่ผ่านโครงการเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ครบกำหนดสัปดาห์ก่อนแล้ว โดยโครงการเงินกู้ดังกล่าว มีอายุ 6 เดือน และคิดอัตราดอกเบี้ย 3.35% ให้ติดตามผลการเจรจาเรื่องพลังงานนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกเพราะหากการคว่ำบาตรยุติลงอิหร่านจะเดินหน้าเพิ่มปริมาณการผลิตและส่งออกให้เร็วที่สุดเพราะได้รับการหนุนจากบริษัทน้ำมันรายใหญ่ที่เตรียมศึกษาลู่ทางการทำธุรกิจปิโตรเลียมกับอิหร่านแล้วแม้การคว่ำบาตรยังไม่ยุติ โดย CEO ของ บริษัท Shell เดินทางไปกรุงเตหรานเพื่อหารือกับอิหร่านในประเด็นเดียวกันวันที่ 2 ก.ค. 58 และผู้บริหารของบริษัท Glencore ร่วมประชุมกับอิหร่านปลายสัปดาห์ก่อน ทางเทคนิคสัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดิบ Brent, Dubai และ WTI จะซื้อขายในกรอบ 59.95-63.16 USD/BBL ,58.65-61.86 USD/BBL และ 56.92-60.13 USD/BBL ตามลำดับ
สถานการณ์ราคาน้ำมันเบนซิน
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันเบนซินลดลงจากผู้ค้ารายงานอุปสงค์น้ำมันเบนซินของอินโดนีเซีย และกลุ่มในตะวันออกกลาง เริ่มชะลอตัว เนื่องจากเทศกาลรอมฎอน (Ramadan) จะสิ้นสุดในเดือน ก.ค.นี้ ประกอบกับโรงกลั่นน้ำมัน Talin (กำลังการกลั่น 300,000 บาร์เรลต่อวัน) ของบริษัท CPC ของไต้หวันเลื่อนการปิดบำรุงหน่วย Residue Fluid Catalytic Cracker (80,000 บาร์เรลต่อวัน) ออกไป 3 สัปดาห์ โดยจะเริ่มปลายเดือน ส.ค. 58 ซึ่งหน่วยดังกล่าวเพิ่งกลับมาเปิดดำเนินการหลังมีปัญหาขัดข้องทางเทคนิดในวันที่ 21 มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา ทั้งนี้โรงกลั่น Talinสามารถผลิตน้ำมันเบนซินได้ 12.58 ล้านบาร์เรลต่อปี อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรจีนรายงานความต้องการใช้น้ำมันเบนซินของจีน เดือน พ.ค. 58 เพิ่มขึ้น 0.37 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 15.6% อยู่ที่ 2.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากยอดขายรถยนต์ที่สูงขึ้น โดย Energy Aspects คาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้เดือน มิ.ย. 58 จะอยู่ที่ 2.6 - 2.7ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกอบกับ International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillatesเชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 1 ก.ค. 58 ลดลง 1.5 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ 10.6 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 10.5 เดือน สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันเบนซินจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 75.65-78.86 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สถานการณ์ราคาน้ำมันดีเซล
สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดีเซลลดลงจาก Platts รายงาน Abu Dhabi National Oil Company (ADNOC) จากสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้มีการตกลงเจรจาสัญญาเทอมขายน้ำมันดีเซล 0.01%S จากโรงกลั่นแห่งใหม่ Ruwais (800,000 บาร์เรลต่อวัน) เป็นครั้งแรก โดยมีผู้ซื้ออย่างน้อย 6 ราย เพื่อส่งมอบช่วงเดือน ก.ค. 58 ถึง มิ.ย. 59 ขณะที่โรงกลั่น Essar Refinery (405,000 บาร์เรลต่อวัน) ของอินเดียออกประมูลขายน้ำมันดีเซล 0.05 %S ปริมาณ 300,000 บาร์เรล ส่งมอบ 27-31 ก.ค.58 อย่างไรก็ตาม กรมศุลกากรจีนรายงานความต้องการใช้น้ำมันดีเซลของจีน เดือน พ.ค. 58 เพิ่มขึ้น 0.94 ล้านบาร์เรลต่อวัน อยู่ที่ 3.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดย Energy Aspectsคาดการณ์ปริมาณความต้องการใช้เดือน มิ.ย. 58 จะอยู่ที่ 3.71 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากกิจกรรมด้านอุตสาหกรรมที่เพิ่มขึ้น และ PAJ รายงานปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลเชิงพาณิชย์ของญี่ปุ่น สัปดาห์สิ้นสุด 27 มิ.ย. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 6.8 % อยู่ที่ 9.9 ล้านบาร์เรล อีกทั้ง IES รายงานปริมาณสำรองMiddle Distillates เชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์ สัปดาห์สิ้นสุด 1 ก.ค. 58 ลดลงจากสัปดาห์ก่อน 0.7 ล้านบาร์เรล อยู่ที่9.3 ล้านบาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์นี้คาดว่าราคาน้ำมันดีเซลจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 71.80-75.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล