กรุงเทพ--4 เม.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
ตามที่ทางการได้แถลงนโยบายสนับสนุนให้สถาบันการเงินได้ควบกิจการเพื่อให้ เกิดความแข็งแกร่งในการดำเนินงานและมีเสถียรภาพมั่นคง โดยจะได้รับพิจารณาออกใบ อนุญาตให้ประกอบกิจการธนาคารพาณิชย์ และหรือธุรกรรมอื่นใดแก่นิติบุคคลใหม่ที่เกิดจาก การควบกิจการนั้น ตลาดหลักทรัพย์ เห็นว่าในหลักการของการควบกิจการนั้นน่าจะเป็นผลดี ต่อผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนของกิจการดังกล่าว และเป็นที่คาดหมายว่า ในช่วงระยะเวลาจากนี้ ไปจะมีข่าวควบกิจการหรือประกาศการควบกิจการปรากฏทางสื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะด้วยวาจา ลายลักษณ์อักษร และไม่ว่าจะมีรายละเอียดสารสนเทศหรือไม่ก็ตาม ซึ่งคงจะสร้างความ สับสนให้กับผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ของกิจการที่เป็นข่าวควบกิจการ ตลาดหลักทรัพย์ จึงใคร่ขอเตือนให้ผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ของสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ใช้ความ ระมัดระวัง และความรอบคอบเป็นพิเศษในการติดตามข่าวสาร และไตร่ตรองในข้อสนเทศ ต่าง ๆ ก่อนการตัดตินใจซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ๆ
และโดยที่ข่าวการควบกิจการ ไม่ว่าจะสามารถดำเนินการสำเร็จบรรลุผลหรือ ไม่ก็ตาม ย่อมมีผลกระทบต่อราคาของหลักทรัพย์ การเคลื่อนไหวของราคาและปริมาณการ ซื้อขายหลักทรัพย์นั้น ๆ ก่อให้เกิดผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเป็นจำนวนมากและในวงกว้าง ตลาด หลักทรัพย์จึงใคร่ขอเตือนผู้บริหารของสถาบันการเงินที่จะมีการควบกิจการด้วยกัน พึงระมัด ระวังในการดำเนินการแต่ละขั้นตอนและการแพร่ข่าวต่อสาธารณชน พึงงดเว้นการแพร่ข่าว ที่ยังขาดความสมบูรณ์ของเนื้อหาที่เพียงพอแก่การตัดสินใจของผู้ลงทุน และพึงงดเว้นการ แพร่ข่าวในช่วงเวลาของการซื้อขาย เพื่อมิให้เกิดความสับสนและหรือให้ผู้ลงทุนทั่วไป ได้มี เวลาในการรับรู้ข้อสนเทศโดยทัดเทียมกัน หากมีการแพร่ข่าวไม่ว่าด้วยวิธีการใด ๆ โดย ขาดความชัดเจนของสาระสำคัญหรือในช่วงเวลาหรือระหว่างเวลาของการซื้อขาย ตลาด หลักทรัพย์จำเป็นจะต้องพิจารณาขึ้นเครื่องหมาย "H" หรือ "SP" เพื่อหยุดพักการซื้อขาย ของหลักทรัพย์ที่กล่าว จนกว่าบริษัทจดทะเบียนได้แจ้งข้อสนเทศที่ชัดเจนเพียงพอ ตลาด หลักทรัพย์ก็จะเปิดให้มีการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นต่อไป
ในส่วนของการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ในการสนับสนุนนโยบายของทาง การในการควบคุมกิจการเข้าด้วยกันของสถาบันการเงินนั้น ตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับปรุง แก้ไขข้อกำหนดแนวทางการควบกิจการของบริษัทจดทะเบียนให้มีความคล่องตัวและรวดเร็ว ยิ่งขึ้น โดยในกรณีที่บริษัทจดทะเบียนควบกิจการเข้าด้วยกับบริษัทจดทะเบียน บริษัทใหม่ยัง คงมีสถานภาพเป็นบริษัทจดทะเบียนอยู่ต่อไปได้--จบ--