กรุงเทพฯ--7 ก.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๖ ก.ค.๕๘) เวลา ๐๘.๓๐ น. ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ สะพานขาว กรุงเทพฯ พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง ของมนุษย์ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ศปก.พม.)ครั้งที่ ๑๙๒/๕๗-๕๘ เพื่อรับทราบปัญหาทางสังคมต่างๆที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน และร่วมหาแนวทางการแก้ไขและป้องกันปัญหาดังกล่าว โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงฯ เข้าร่วมประชุม
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า จากกรณีในพื้นที่หลายจังหวัดประสบปัญหาภัยแล้งนั้น พบว่าประชาชนที่ประสบผลกระทบเดือดร้อนทั่วประเทศจำนวน ๒๓๗,๖๐๗ คน โดยในจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นประชาชนที่ได้รับผลกระทบตามกลุ่มเป้าหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯได้ดังนี้ ๑)ผู้สูงอายุ ๙๐,๓๖๖ คน ๒)คนพิการ๒๔,๐๗๔ คน ๓)เด็กและเยาวชน ๖๒,๔๓๕ คน ๔)ผู้ด้อยโอกาส ๕,๘๑๙ คน ซึ่งหน่วยงานในสังกัดกระทรวงฯได้เฝ้าระวังและประเมินสถานการณ์ของภัยแล้งแต่ละจังหวัด และได้เสนอแผนปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งตามภารกิจของกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ในแผนงานและกิจกรรมต่างๆ อาทิ ๑)ผู้สูงอายุ โดยให้บริการกู้ยืมเงินทุนเพื่อประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุและช่วยเหลือผู้สูงอายุตามประกาศกระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ๒)ผู้พิการ เตรียมการฝึกอาชีพสำหรับคนพิการ ครอบครัวและผู้ดูแลผู้พิการที่ประสบภัย และให้บริการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพสำหรับคนพิการและผู้ดูแลคนพิการ ๓)ผู้ด้อยโอกาส จะให้การช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์ตามระเบียบกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการว่าด้วยการจ่ายเงินสงเคราะห์ครอบครัวผู้มีรายได้น้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง และจัดอบรมผู้นำครัวเรือนด้านการพัฒนาอาชีพตามหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงพร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพด้านอาชีพบนพื้นที่สูง จัดการฝึกอาชีพระยะสั้น ระยะเวลา ๑๐ วัน ให้แก่สตรีและจัดสวัสดิการเติมเต็มแก่ครัวเรือนที่ประสบภัยแล้ง สำหรับประชาชนทั่วไป จะมีการช่วยเหลือด้านสังคมสงเคราะห์ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๕๖ และช่วยเหลือผู้ประสบปัญหาทางสังคมกรณีฉุกเฉิน พร้อมทั้งให้คำปรึกษาด้านต่างๆ นอกจากนี้สถานธนานุเคราะห์ทุกแห่งยังรับจำนำเครื่องมือทางการเกษตรโดยปลอดดอกเบี้ย ๓ เดือนเพื่อเป็นการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรอีกด้วย
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณี ด.ญ.วัย ๙ ขวบ มีร่างกายผิดปกติไม่มีรูทวารตั้งแต่กำเนิด ภายหลังผ่าตัดแล้วแต่ยังมีปัญหา เพราะไม่มีกล้ามเนื้อหูรูด กลั้นอุจจาระ ปัสสาวะ ไม่อยู่ ต้องใส่แพมเพิร์สไปเรียน ครอบครัวมีฐานะยากจน ที่จังหวัดชัยนาทนั้น ตนได้กำชับให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชัยนาท(พมจ.ชัยนาท) ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นตามภารกิจกระทรวงฯ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านการรักษาพยาบาลอย่างต่อเนื่อง และกรณีสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) สนธิกำลังทหาร-ตำรวจ เข้าปิดล้อมจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดในชุมชมสวนสน ซอย๙ ประตูเหล็กริมคลองหัวหมากน้อย กรุงเทพฯ พบมีหญิงสาว ๑ ราย นำกระท่อมต้มผสมน้ำใส่ขวดนมให้ลูกสาวอายุ ๒ ขวบดื่มโดยอ้างว่าลูกชอบ และพบมีเด็ก ๗ ขวบ ติดยาเสพติดนั้น ตนมีความห่วงใยเด็กที่ต้องเป็นอนาคตของชาติ แต่ต้องตกเป็นทาสของยาเสพติด ดังนั้นจึงให้ผู้ปกครองดูแลเลี้ยงบุตรหลานที่ถูกต้อง และให้ความรักความเข้าใจความอบอุ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้เด็กไปมั่วสุมติดยาเสพติดหรือมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม พร้อมทั้งได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือตามภารกิจกระทรวงฯ ต่อไป