กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--เฮงเค็ล ประเทศไทย
เฮงเค็ลได้ก้าวไปสู่อีกนวัตกรรมหนึ่งสำหรับการซ่อมบำรุงท่อเหล็กและท่อลำเลียงน้ำมันที่มุ่งคำนึงถึงมาตรฐานความปลอดภัยในการใช้งาน นั่นคือ 'DNV GL' หนึ่งในมาตรฐานชั้นนำระดับสากล ซึ่งไม่นานมานี้เฮงเค็ลได้รับการทดสอบและผ่านการรับรองโดยมาตรฐานดังกล่าวเพื่อที่จะเป็นเครื่องยืนยันว่าระบบการซ่อมบำรุงของเฮงเค็ลมีคุณสมบัติและมีคุณภาพครบตามมาตรฐานสากล ISO/TS 24817 ที่รับรองถึงรูปแบบ การติดตั้ง การทดสอบ และหลักเกณฑ์การตรวจสอบของระบบการซ่อมบำรุงท่อลำเลียงน้ำมันและแก๊ส และงานท่ออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการลำเลียงน้ำมัน
ท่อเหล็กเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง ไม่ว่าจะเป็นท่อที่ใช้ในการลำเลียงแก๊ส น้ำ น้ำมัน น้ำทิ้งหรือตัวกลางอื่นๆ ก็ล้วนแล้วแต่ที่จะต้องมีค่าใช้จ่ายที่ต่อเนื่องเพื่อยืดอายุการใช้งานให้ได้นานที่สุดหลังจากที่มีการจัดการวางแผนค่าตัดจำหน่ายและค่าเสื่อมราคาแล้ว จะเห็นได้ว่าอายุการใช้งานของระบบการขนส่งดังกล่าวเป็นเรื่องมีความสำคัญเป็นอย่างมาก
เนื่องจากพื้นผิวทั้งภายนอกและภายในของเหล็กสามารถสึกกร่อนได้จากสภาพอากาศ การใช้งานอย่างหนักของเครื่องจักร และการกัดกร่อนของสารเคมี ส่งผลให้ผู้ประกอบการต้องรับมือกับการแตกร้าวและรั่วซึมของท่อลำเลียงอยู่เสมอ ในอดีตวิธีปกติที่จะใช้ในการแก้ปัญหานี้คือการเปลี่ยนท่อทั้งระบบซึ่งการส่งผลให้ระบบการขนส่งเกิดการสะดุด แต่ในปัจจุบัน หลายองค์กรได้หันมาใช้ระบบการซ่อมบำรุงในการเป็นทางเลือกที่ประหยัดและรวดเร็วและไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการดำเนินงานอีกด้วย
ระบบการซ่อมบำรุงที่มีมาตรฐานจากเฮงเค็ลด้วยผลิตภัณฑ์ล็อคไทท์ ได้รับการรับรองโดยมาตรฐาน ISO/TS 24817 เหมาะสำหรับงานซ่อมทั้งรูปแบบ A (สึกกร่อน) และรูปแบบ B (ทะลุ)ครอบคลุมทั้งการซ่อมประเภท 1-3 นอกจากท่อตรงแล้ว ส่วนประกอบอื่นๆ อาทิเช่น ท่อโค้ง สามทาง ข้อลดและหน้าแปลนก็สามารถที่จะได้รับการซ่อมบำรุงจากระบบนี้ได้
นอกจากมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ระบบการซ่อมบำรุงนี้ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่มาจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ของท่อใหม่ทั้งระบบ และการสึกกร่อนของท่อก็สามารถได้รับการซ่อมแซมโดยปราศจากการรบกวนระบบการทำงานและสามารถปฏิบัติได้แม้อยู่ภายใต้แรงกดดันภายใน และยังสามารถหลีกเลี่ยงการต้องหยุดทำงานและการสูญเสียเชิงพานิชย์อีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้นคุณภาพที่ได้จากกการการซ่อมบำรุงนี้ยังสามารถยืดอายุการใช้งานของท่อได้มากถึง 20 ปี
ขั้นตอนแรกของการซ่อมบำรุงคือการทำความสะอาดและการพ่นทรายในพื้นที่ที่ต้องการการซ่อมบำรุง และเนื่องจากการเป่าพื้นผิวโลหะนั้นจะเป็นการง่ายที่จะก่อให้เกิดสนิม เฮงเค็ลจึงแนะนำให้ใช้ตัวช่วยยับยั้งการสึกกร่อน 'Loctite SF 7515' เป็นการป้องกันชั่วคราว ในกรณีที่เป็นการซ่อมแซมการเสียหายรูปแบบ A ให้มีการฟื้นฟูพื้นผิวโดยเติมเต็มส่วนที่เสียหายด้วย Loctite EA 3478 จากนั้นจึงพันท่อด้วยเทปคาร์บอนใยแก้วยืดหยุ่นสูง 'Loctite 5085' ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านอุณภูมิ และ ทูพาร์ทอีพ็อคซี่เรซิ่น 'Loctite PC 7210' กาวชนิดนี้ได้ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อติดพื้นผิวเหล็ก หลังจากเสร็จขั้นตอนก่อนหน้าจึงซีลด้วย Loctite PC 7255 กล่าวได้ว่าระบบการซ่อมบำรุงนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับท่อเหล็กและเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานของท่อให้สามารถทำงานหนักและทำงานภายใต้สภาพอากาศที่แปรปรวนได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มความต้านทานสารเคมีให้กับท่ออีกด้วย
นอกจากมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ระบบการซ่อมบำรุงนี้ยังสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่มาจากการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ของท่อใหม่ทั้งระบบ แต่คุณภาพที่ได้จากกการการซ่อมบำรุงนี้ยังสามารถยืดอายุการใช้งานของท่อได้มากถึง 20 ปี
สนใจผลิตภัณฑ์ ขอข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการให้ฝ่ายเทคนิคติดต่อกลับเพื่อหาแนวทางร่วมกันได้ที่ บริษัทเฮงเค็ล ประเทศไทย โทร02-209-8134 หรือ