เลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR ใหม่จาก NIKKOR เก็บครบทุกแอ็คชั่นกับประสิทธิภาพเลนส์เทเลโฟโต้รุ่นใหม่

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday July 8, 2015 14:56 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 ก.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดประสบการณ์การถ่ายภาพแบบซุปเปอร์เทเลโฟโต้ในฟอร์แมต FX ด้วยเลนส์เทเลโฟโต้สองรุ่นใหม่ที่เบาที่สุดในโลก ในทางยาวโฟกัส500มม.*1 และ 600มม.*2 โดยเลนส์ใหม่ทั้งสองรุ่นนี้ คือ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR (ทางยาวโฟกัส 500มม.*3) และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR (ทางยาวโฟกัส 600มม.*4) ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการพัฒนาด้านชิ้นเลนส์และดีไซน์ใหม่อย่างเหนือชั้น ให้อำนาจการใช้งานที่ทรงพลัง จับภาพได้แม่นยำในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นเขตป่าฝนเมืองร้อน ทุ่งสะวันนา หรือแม้แต่ในสนามแข่งรถ เลนส์ทั้งสองได้รับการผลิตจากความใส่ใจในทุกขั้นตอนด้วยเทคโนโลยีอันเป็นที่ยอมรับทั่วโลกของ NIKKOR ผู้ถ่ายภาพจึงเต็มอิ่มไปกับการสร้างผลงานภาพและวีดีโอที่ทรงพลังได้อย่างต่อเนื่อง ไม่พลาดในทุกโอกาสสำคัญ "เลนส์ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR ผลิตด้วยวิศวกรรมปรับปรุงใหม่ของ NIKKOR ที่จะขยายศักยภาพของการสร้างสรรค์ผลงานอันเป็นที่สุด ด้วยประสบการณ์ยาวนานในการสร้างสรรค์อุปกรณ์เพื่อช่างภาพมืออาชีพมาหลายทศวรรษ เลนส์ซุปเปอร์เทเลโฟโต้ของ NIKKOR ทั้งสองรุ่นนี้จึงมอบความไว้วางใจในแบบที่ทุกคนคุ้นเคย ผสานความแม่นยำภายใต้น้ำหนักเลนส์ที่เบาลงอย่างรู้สึกได้" มร. ทัตสึยะ ยามากุจิ ประธานและกรรมการผู้จัดการ บริษัท นิคอน เซลส์ (ประเทศไทย) กล่าว"คุณลักษณะที่โดดเด่นของเลนส์ใหม่นี้มีมากมายนับไม่ถ้วน อาทิ ระบบออโต้โฟกัสแทร็คกิ้งที่เหนือกว่า ระบบลดการสั่นไหวในตัวที่ช่วยให้สามารถใช้ความไวชัตเตอร์ได้ช้าลงกว่าปกติมากถึง 4.0 สต็อป*5 และชิ้นเลนส์ฟลูออรีนที่มีน้ำหนักเบากว่าพร้อมสมรรถภาพสูงกว่า ซึ่งนี่เป็นเพียงข้อดีบางส่วนเท่านั้น เพราะทุกองค์ประกอบของเลนส์ถูกจัดวางเพื่อสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ให้สามารถบันทึกภาพเทเลโฟโต้ได้ดีมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ว่าจะเป็นในการแข่งกีฬา งานแอ็คชั่นผจญภัย หรือแม้แต่การบันทึกความสวยงามของธรรมชาติ" AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR คุณลักษณะเด่นของเลนส์ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR น้ำหนักเบาอย่างเห็นได้ชัด พร้อมรูปลักษณ์ที่แข็งแกร่ง เลนส์ที่ผลิตจากเทคโนโลยีขั้นสูงของ NIKKOR นี้เหมาะอย่างยิ่งต่อการพกพา เพื่อช่างภาพที่รักการท่องโลกอย่างแท้จริง เลนส์ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR ได้รับการออกแบบเพื่อให้สามารถบันทึกภาพได้อย่างสมบูรณ์แบบ ด้วยองค์ประกอบของเลนส์ฟลูออรีนสองชิ้นทำให้มีน้ำหนักเบาลงอย่างเห็นได้ชัด โดยมีน้ำหนักอยู่ที่ราว 3,090 กรัม*6 และ 3,810 กรัม*6 ตามลำดับ นอกจากนี้ เลนส์ทั้งสองยังบรรจุอยู่ในกระบอกเลนส์แมกนีเซียมอัลลอยเพื่อช่วยลดน้ำหนักเลนส์ให้เบาลงและประสิทธิภาพด้านความแข็งแรงทนทาน คุณภาพเหนือระดับ สัมผัสอิสระแห่งการสร้างสรรค์ผลงานภาพถ่ายคุณภาพสูงที่มีความชัดคม ลดความบิดเบือนของภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแสงสะท้อนของเลนส์ ความพร่าสีหรือความคลาดเคลื่อนสีที่ไม่ต้องการ ด้วยการประสานกันอย่างลงตัวของการใช้องค์ประกอบเลนส์ฟลูออรีน ชิ้นเลนส์ Extra-low Dispersion (ED) และชิ้นเลนส์โค๊ทนาโนคริสตัล จึงสามารถถ่ายทอดลำแสงที่กระทบผ่านเลนส์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ทำให้สามารถสร้างผลงานที่มีชีวิตชีวา สีสันสมจริง และเก็บรายละเอียดได้ชัดเจนทุกจุด ลดความยุ่งยากในการต้องปรับแต่งภาพภายหลัง ลดภาระให้แก่ผู้ถ่ายภาพโดยฉพาะในสถานการณ์เร่งด่ว จัดวางองค์ประกอบภาพได้อย่างแม่นยำ รายละเอียดคมชัดอย่างเหนือชั้น ผู้ใช้สามารถจัดองค์ประกอบภาพและถ่ายภาพได้อย่างคมชัดด้วยระบบ VR ลดการสั่นไหวในตัว (Vibration Reduction - VR) ของNIKKOR ได้ตามต้องการ ที่มีให้เลือกทั้งโหมด 'NORMAL' และโหมด 'SPORT' ช่วยรองรับการใช้งานที่ต้องมีการปรับเปลี่ยนรวดเร็วได้อย่างทันใจ โดยในโหมด 'NORMAL' นั้น จะสามารลดการสั่นไหวได้มากเทียบเท่าความไวชัตเตอร์ 4.0 สต็อป*5 เพื่อให้ผู้ถ่ายภาพสามารถจัดวางองค์ประกอบของภาพได้อย่างมีชั้นเชิงและง่ายดายเหมาะสำหรับการถ่ายภาพทั่วๆ ไปที่มองภาพผ่านช่องมองภาพ ในขณะที่ โหมด 'SPORT' จะเหมาะสำหรับลดการสั่นไหวในการจับวัตถุที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในระยะไกล อาทิ การถ่ายภาพนักเล่นกระดานโต้คลื่นที่กำลังทรงตัวล้อคลื่นอย่างสนุกสนาน หรือภาพฝูงนกที่กำลังบินร่อนกันอย่างเบิกบาน ฉับไว ไม่คลาดสายตา เสริมความแม่นยำในการบันทึกภาพวัตถุเคลื่อนไหวเร็วในระยะไกลด้วยระบบติดตามออโต้โฟกัส (AF) ที่เหนือกว่า แม้ในยามถ่ายภาพต่อเนื่องแบบไฮสปีด ผู้ถ่ายภาพสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้อย่างมั่นใจแม้วัตถุที่ต้องการบันทึกภาพจะเคลื่อนไหวแบบไร้ทิศทาง อาทิ การวิ่งตื่นของฝูงสัตว์ป่า หรือรถแข่งที่พุ่งเข้ามาในเฟรมอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังเสริมการทำงานของระบบโฟกัสติดตามวัตถุที่ได้รับการพัฒนาให้สัมพันธ์เข้ากับกลไกการปรับขนาดรูรับแสงด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเพื่อการเปิดรับค่าแสงที่แม่นยำยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นกลไกควบคุมปรับรูรับแสงผ่านสัญญาณไฟฟ้าจากตัวกล้องจึงให้ความแม่นยำในการบันทึกภาพที่สูงขึ้นอีกขั้น เมื่อได้ตัวช่วยอย่างเลนส์นี้แล้ว แม้การถ่ายภาพมุมกว้างหรือภาพ time-lapse ต่างๆ ให้งดงามน่าทึ่งก็เป็นเรื่องที่แสนง่ายดาย ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยเลนส์ AF-S 500mm f/4E FL ED VR ตัวอย่างภาพถ่ายด้วยเลนส์ AF-S 600mm f/4E FL ED VR พร้อมรับทุกการผจญภัย การถ่ายภาพภาคสนามมักมาพร้อมเรื่องท้าทาย แต่แม้ว่าจะต้องเผชิญกับฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก ละอองน้ำ หรือความมัน เลนส์นี้ก็สามารถรับมือได้อย่างดีเยี่ยมเพราะมีการเคลือบผิวเลนส์ด้วยฟลูออรีนที่ด้านหน้าของเลนส์จึงช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่าย และยังเพิ่มความทนทานในส่วนคอลล่าร์ที่ยึดขาตั้งพร้อมตลับลูกปืนที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับการถ่ายภาพเป็นแนวตั้งและแนวนอนได้อย่างราบรื่น ช่วยให้การจัดเฟรมและวางองค์ประกอบภาพทำได้อย่างสะดวกง่ายดายพร้อมรับมือในทุกสถานการณ์ เลนส์ AF-S NIKKOR 500mm f/4E FL ED VR และ AF-S NIKKOR 600mm f/4E FL ED VR เป็นเลนส์ใหม่ล่าสุดในกลุ่มเลนส์ฟอร์แมต FX อันเลื่องชื่อและเป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายของ NIKKOR เพื่อช่างภาพที่ต้องการแปลงวิสัยทัศน์ของตนให้เป็นผลงานภาพชิ้นเลิศ เลนส์อื่นๆ ที่ช่างภาพชั้นนำควรมีไว้ในครอบครอง ได้แก่ เลนส์ AF-S NIKKOR 80-400mm f/4.5-5.6G ED VR เหมาะสำหรับการถ่ายภาพวัตถุระยะไกลและภาพแลนด์สเคป มาพร้อมความสามารถในการปรับระยะซูมเทเลโฟโต้ได้ถึงห้าเท่าเพื่อภาพโคลสอัพที่ดูดีที่สุด เลนส์ AF-S NIKKOR 70-200mm f/2.8G ED VR II เป็นเลนส์ซูมเทเลโฟโต้อเนกประสงค์กับประสิทธิภาพที่เหนือกว่า เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในชุดกล้องของช่างภาพทุกระดับ เลนส์ AF-S NIKKOR 300mm f/4E PF ED VR ด้วยการใช้เทคโนโลยีเลนส์ PF (Phase Fresnel) ลิขสิทธิ์เฉพาะของนิคอน เลนส์นี้จึงมีน้ำหนักเบาอย่างเหลือเชื่อพร้อมประสิทธิภาพอันเป็นเลิศในการลดความพร่าสีหรือสีเพี้ยน จึงเป็นเลนส์ที่เหมาะกับการถ่ายภาพวัตถุหรือฉากที่หลากหลายอย่างแท้จริง และ เลนส์ AF-S NIKKOR 400mm f/2.8E FL ED VR เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ประสิทธิภาพสูงที่มีการเคลือบสารฟลูออรีนเพื่อความสะดวกในการพกพาสำหรับการถ่ายภาพภาคสนาม พร้อมระบบปรับขนาดรูรับแสงด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ช่วยควบคุมการรับแสงให้มีความสม่ำเสมอ ไม่คลาดเคลื่อน 1 ในกลุ่มเลนส์ออโต้โฟกัสความยาวโฟกัสคงที่ (prime) ขนาด 500 มม. และมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 รองรับกล้องDSLR ที่มีเซ็นเซอร์ภาพขนาด "full-size" ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยศูนย์วิจัยนิคอน 2 ในกลุ่มเลนส์ออโต้โฟกัสความยาวโฟกัสคงที่ (prime) ขนาด 600 มม. และมีขนาดรูรับแสงกว้างสุดที่ f/4 รองรับกล้องDSLR ที่มีเซ็นเซอร์ภาพขนาด "full-size" ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 โดยศูนย์วิจัยนิคอน 3 เมื่อติดเข้ากับกล้อง DSLR ฟอร์แมต DX จะมีมุมมองเทียบเท่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 750 มม. ของกล้องฟอร์แมต FX/35มม. 4 เมื่อติดเข้ากับกล้อง DSLR ฟอร์แมต DX จะมีมุมมองเทียบเท่าเลนส์ที่มีทางยาวโฟกัส 900 มม. ของกล้องฟอร์แมต FX/35มม. 5 วัดตามมาตรฐาน CIPA โดยใช้กล้อง DSLR ฟอร์แมต FX ในโหมด NORMAL VR มาตรฐาน 6 ตามแนวทางที่กำหนดโดย CIPA
แท็ก เลนส์   โฟกัส  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ