According to Marguerite Duras

ข่าวบันเทิง Thursday July 9, 2015 13:54 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--9 ก.ค.--ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โรงมหรสพ ทองหล่อ According to Marguerite Duras การแสดงสื่อผสมเป็นโปรเจคที่เกิดขึ้นโดยได้รับแรงบันดาลใจจากงานเขียนและภาพยนตร์จากศิลปินหญิงชื่อดังของฝรั่งเศส 'มาเกอร์เร็ต ดูราส' ซึ่งเป็นศิลปินผู้มีชื่อเสียงระดับโลกในยุค 60s-90s ในโปรเจคนี้ทองหล่ออาร์ตสเปซ จะใช้เวลาทั้งเดือน กรกฎาคม เพื่อสร้างสรรค์และนำเสนอผลงานอันเกี่ยวเนื่องจากศิลปินหญิงท่านนี้ โดยจะแบ่งเป็นสองส่วนคือ การแสดง (performance) และภาพยนตร์ (film) สำหรับการแสดงนั้นนำเสนอ An Epilogue to The Malady of Death อันเป็นการนำเอางานเขียนกึ่งบทละครเรื่อง Malady of Death มาสร้างในมุมมองใหม่ โดยสองศิลปินนักวรรณคดี และอาจารย์สอนภาษาฝรั่งเศส 'บัณฑูร ราชมณี' และนักออกแบบการแสดง /นักแสดง 'วสุรัช อุณาพรหม' The Malady of Death หรือ La Maladie de la mort เป็นงานเขียนของ ดูราสในช่วงปี. 1982 อันว่าด้วยมุมมองเกี่ยวกับ Homosexuality เนื้อเรื่องว่าด้วยชายคนหนึ่งซึ่งว่าจ้างหญิงงามให้มาร่วมหลับนอนเพื่อแสวงหาความรักอันที่เขาไม่เคยพานพบ งานเขียนของดูราสชิ้นนี้ ถือเป็นงานที่วิพากษ์ชาวรักร่วมเพศโดยเฉพาะเพศชายว่าเป็นพวก ไร้รัก และร่วมหลับนอนกันโดยมีตัณหาและความกำหนัดเป็นตัวชักนำขาดความละมุนละไมในการร่วมรัก และเธอคิดว่านี่คืออาการป่วย และเธอเรียกโรคนั้นว่าโรคแห่งความตาย และเพศหญิงนี่ละที่จะเป็นคนช่วยเยียวยาให้คนเหล่านี้ หลุดพ้นจากอาการนี้ งานเขียนเรื่องสั้นกึ่งบทละครเรื่องนี้ได้ถูกนำมาแปลเป็นภาษาไทย และพิมพ์ออกจำหน่ายในชื่อ "โรคแห่งความตาย" (กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์อ่าน,2555) ซึ่งแปลโดย อ.บัณฑูร ราชมณี หนึ่งในนักแสดงของเรื่องนี้นั่นเอง นักแสดงทั้งสอง มีมุมมองในเชิง Homosexuality และโรคแห่งความตายแตกต่างจากดูราส งานชิ้นนี้นอกจากพวกเขาจะร่วมมือร่วมใจกันวิพากษ์และรื้อสร้างบทประพันธ์นี้สู่ละครเวทีแล้วพวกเขาทั้งสองยังวิพากษ์มุมมองของกันและกันในเรื่องของโรคไร้รักหนึ่งนักภาษาและวรรณคดี ผู้มีทฤษฎีรักแสนโรแมนติก "Red is the color of my passion." กับนักออกแบบการแสดง และ visual artist "But black is my color of love" งานแสดงชิ้นนี้จะถูกสร้างขึ้นในรูปแบบของ experimental performance โดยมีการนำสื่อผสมประกอบการแสดง เปิดการแสดง ทุกวัน : พฤหัสบดี – อาทิตย์ ระหว่างวันที่ 9 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2558 เวลา 19.30น. ในวันธรรมดา และ 15.00 น. ในวันเสาร์,อาทิตย์ บัตรราคา 500 บาท (จองบัตรล่วงหน้า 390 บาท) ในส่วนของการฉายภาพยนตร์นั้น จะมีการจัดฉายภาพยนตร์เข้าชมฟรี ทุกคืนวัน อังคารและวันพุธ เวลา 19.30 น. ดังนี้ วันที่ 14 - 15 ก.ค. India Song (1975) directed by Marguerite Duras - หนังที่เล่าเรื่องได้อย่างงดงามราวบทกวี ว่าด้วยภรรยาทูตฝรั่งเศสที่ต้องติfตามสามีไปอยู่ประเทศอินเดียช่วงทศวรรษ 1930s แต่ย้อนกลับไปเมื่อเธออายุ 18 ปีเธอได้แต่งงานและติดตามสามีผู้เป็นผู้ว่าการรัฐอาณานิคมฝรั่งเศสมาที่สะหวันนะเขตประเทศลาว ที่นั่นเธอได้พบรักใหม่และติดตามชายคนรักไปยังพื้นที่ต่างๆ ในเอเชีย...และที่กัลกัตตา เธอหลีกหนีความเบื่อหน่ายของชีวิตภรรยาทูตผ่านการคบหากับเหล่าชายชู้ หนังเรื่องนี้รับบทนำโดยนักแสดงหญิงมากฝีมือ Delphine Seyrig และยังได้รับรางวัล Césars Award สาขาดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ในปี 1976 อีกด้วย วันที่ 21 - 22 ก.ค. Détruire, dit-elle (1969) directed by Marguerite Duras สร้างจากนวนิยายของดูราสที่มีชือเดียวกันกับภาพยนตร์หนังที่สั่นคลอนคนดูเรื่องหนึ่งของดูราส ถ่ายทอดความไม่มั่นคงทางอารมณ์และสัมพันธภาพอันโหดร้ายระหว่างตัวละครในโลกแห่งความว่างเปล่า วันที่ 28 - 29 ก.ค. Hiroshima Mon Amour (1959) screenplay by Marguerite Duras ว่าด้วยเรื่องของนักแสดงสาวชาวฝรั่งเศสที่ต้องเดินทางไปถ่ายทำหนังที่เมืองฮิโรชิมาเธอพกพาบาดแผลและความทรงจำอันร้าวรานไปยังดินแดนที่บอบช้ำจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วยหนังเรื่องนี้กำกับกับโดยผู้กำกับชาวฝรั่งเศสผู้ยิ่งใหญ่ Alain Resnais สร้างสรรค์บทโดยมาร์เกอริต ดูราส ภาพยนตร์เรื่องนี้ถูกนำเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยมในปีนั้นด้วย ติดต่อจองบัตรล่วงหน้า : และข้อมูลละครเพิ่มเติมได้ที่ : Tel. 095-924-4555 https://www.facebook.comThonglorartspace/ อีเมล : thonglorartspacebkk@gmail.com Event Page สำหรับดูข้อมูล และจองบัตร https://www.facebook.com/ วิธีการเดินทางมายังโรงมหรสพ ทองหล่อ : https://www.youtube.com/watch?v=MO4PmDlaYjY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ