กรุงเทพ--21 พ.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
นายสิงห์ ตังทัตสวัสดิ์ กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ แถลงการ รายงานให้ที่ประชุมคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน 2539 รับทราบกรณีที่มีผู้ถือหุ้นของบริษัทสมประสงค์ แลนด์ จำกัด (มหาชน) (SOMPR) เข้าร้องทุกข์กล่าวโทษนายประสงค์ พานิชภักดี ประธานกรรม การและกรรมการผู้จัดการ ของ SOMPR ต่อกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ (สศก.) ฐานบันทึกบัญชีหรือยินยอมให้บันทึกบัญชีไม่ตรงต่อความเป็นจริง เข้าข่าย กระทำความผิดตามมาตรา 312 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535
เนื่องจากการร้องทุกข์กล่าวโทษดังกล่าวเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของ ผู้ลงทุนทั่วไป และกระทบต่อความเชื่อมั่นในระบบการบริหารงาน และต่อระบบการ เปิดเผยข้อมูลทางการเงินของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยรวม ดังนั้น เพื่อให้เกิดความกระจ่างในเรื่องดังกล่าวโดยเร็ว ตลาดหลักทรัพย์จึงแถลงให้ทราบ ถึงการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์เกี่ยวกับกรณีที่กล่าวดังนี้
1. ตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณางบการเงินของ SOMPR ประจำปีสิ้นสุด 31 ธันวาคม 2538 และไตรมาสที่ 1 ของปี 2539 และได้แจ้งข้อสังเกตของตลาด หลักทรัพย์ให้บริษัทพิจารณาทบทวนและปรับปรุงการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินให้มี ความชัดเจนยิ่งขึ้นในประเด็นดังต่อไปนี้
1.1 ตามที่ผู้สอบบัญชีได้แสดงความเห็นเพิ่มเติมไว้ในรายงานการ สอบบัญชีลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2539 เกี่ยวกับความไม่สมบูรณ์ของสรุปรายละเอียด โฉนดที่ดินที่เก็บไว้ที่สถาบันการเงินเพื่อค้ำประกันวงเงินสินเชื่อของบริษัท และความ ไม่สมบูรณ์ของรายละเอียดประกอบบัญชีเจ้าหนี้การค้า และเจ้าหนี้อื่น ตลาดหลักทรัพย์ จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 25 มิถุนายน 2539 แจ้งให้ SOMPR เร่งปรับปรุงระบบบัญชี และระบบการควบคุมภายใน เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอรายงานทางการเงินได้ ทันเวลา และเป็นที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทและผู้ลงทุนต่อไป
1.2 ตลาดหลักทรัพย์ได้พิจารณาการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบ การเงินของบริษัทและงบการเงินรวมประจำปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2538 แล้วมี ข้อสังเกตเกี่ยวกับการรับรู้รายได้จากการยึดเงินมัดจำตามสัญญาจะซื้อจะขายโครงการ จำนวน 122 ล้านบาท เป็นรายได้ในปี 2538 เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนในผล กำไรที่อาจเกิดขึ้นอันเนื่องมาจากมีเหตุการณ์ที่ผู้ซื้อได้ฟ้องคดีต่อศาล ซึ่งคดีกำลังอยู่ ระหว่างการพิจารณา ซึ่งตามมาตรฐานการบัญชีฉบับที่ 21 เรื่อง "เหตุการณ์ที่อาจ เกิดขึ้นในภายหน้า และเหตุการณ์ภายหลังวันที่ในงบการเงิน" เสนอแนะว่า "กิจการไม่ควรบันทึกบัญชีสำหรับกำไรที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้า แต่ถ้ามีความเป็นไป ได้ค่อนข้างแน่นอนว่าผลกำไรนั้น อาจจะเกิดขึ้นก็ให้เปิดเผยไว้ในหมายเหตุของงบ การเงิน"
ตลาดหลักทรัพย์จึงได้มีหนังสือลงวันที่ 8 สิงหาคม 2539 ให้บริษัท พิจารณาทบทวนและปรับปรุงการรับรู้รายได้ดังกล่าวตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 ของปี 2539 เป็นต้นไป รวมทั้งพิจารณาเปิดเผยข้อมูลให้เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีดังกล่าว ข้างต้น ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้งบการเงินของบริษัท
2. เกี่ยวกับการร้องทุกข์กล่าวโทษผู้บริหารของ SOMPR ดังกล่าว ตลาด หลักทรัพย์ได้สั่งห้ามการซื้อหรือขายหลักทรัพย์ของ SOMPR ในวันที่ 29 ตุลาคม 2539 เป็นต้นมา และได้มีหนังสือให้บริษัทชี้แจงข้อเท็จจริงและรายละเอียดข้อกล่าวหาของ สศก. มายังตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งบริษัทได้ชี้แจงว่าเรื่องดังกล่าวเป็นความขัดแย้งภาย ในบริษัทและคดียังอยู่ในขั้นตอนการสอบสวน และรวบรวมพยานหลักฐานของ สศก. รายละเอียดปรากฏตามสรุปข่าวธุรกิจหลักทรัพย ประจำวันที่ 14 พฤศจิกายน 2539
3. เพื่อให้เกิดความกระจ่างโดยเร็วในเรื่องการบันทึกบัญชีในงบการ เงินของบริษัท เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2539 ตลาดหลักทรัพย์ได้สั่งการให้ SOMPR ดำเนินการดังนี้
3.1 แต่งตั้งนายรุทร เชาวนะกวี แห่งสำนักงานเอินส์ แอนด์ ยัง ผู้สอบบัญชีปัจจุบันของบริษัทเข้าตรวจสอบบัญชีของบริษัทเป็นกรณีพิเศษ
3.2 ให้บริษัทอำนวยความสะดวกแก่ผู้สอบบัญชีในการปฏิงานตรวจ สอบพิเศษดังกล่าว พร้อมทั้งมีหนังสือแจ้งผู้สอบบัญชีรายเดิม คือ นายสุพจน์ สิงห์เสน่ห์ แห่งสำนักงานเคพีเอ็มจี พิท มาร์วิค สุธี เพื่อให้ความร่วมมือหรือนำส่งสำเนาเอกสาร ที่เกี่ยวข้องและจำเป็นกับการตรวจสอบบัญชีตามที่ผู้สอบบัญชีปัจจุบันร้องขอ
3.3 ให้ผู้สอบบัญชีนำส่งรายงานการตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษต่อ ตลาดหลักทรัพย์โดยตรง โดยบริษัทเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการตรวจสอบ
โดยบริษัทแจ้งว่าจะนำส่งรายงานการตรวจสอบดังกล่าวให้ตลาดหลักทรัพย์ ได้ภายในวันที่ 15 มกราคม 2540
ตลาดหลักทรัพย์ขอเรียนว่าการดำเนินการของตลาดหลักทรัพย์ที่กล่าวข้างต้น เป็นขั้นตอนดำเนินการที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับบริษัทจดทะเบียนโดย ทั่วไป ซึ่งมีรายละเอียดสรุปได้ดังนี้
1. เมื่อบริษัทจดทะเบียนได้นำส่งงบการเงินมายังตลาดหลักทรัพย์ ตลาด หลักทรัพย์จะพิจารณาเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินดังกล่าวในเบื้องต้น และเปิดเผยข้อมูล ดังกล่าวต่อผู้ลงทุนทั่วไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการตลาดหลักทรัพย์กำหนด
2. หากตลาดหลักทรัพย์พิจารณาแล้วเห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน ดังกล่าวยังไม่ชัดเจนเพียงพอ หรือมีการเปิดเผยที่อาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีที่ รับรองโดยทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์จะดำเนินการดังนี้
2.1 สอบถามไปยังบริษัทจดทะเบียนให้ชี้แจงเพิ่มเติมมายังตลาด หลักทรัพย์ เพื่อพิจารณาเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้ทราบ
2.2 หากความไม่ชัดเจนของงบการเงินมีสาเหตุมาจากระบบการ ควบคุมภายในของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์จะแจ้งให้บริษัทปรับปรุงระบบการควบคุมภาย ใน เพื่อให้บริษัทสามารถนำเสนอรายงานทางการเงินต่อตลาดหลักทรัพย์ และผู้ลงทุน ได้ทันเวลาและเป็นที่น่าเชื่อถือได้
2.3 หากการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบการเงิน มีข้อสังเกตที่ สำคัญและอาจไม่เป็นไปตามมาตรฐานการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป ตลาดหลักทรัพย์จะ นำเรื่องเสนอต่อคณะอนุกรรมการที่ตลาดหลักทรัพย์แต่งตั้งขึ้นเพื่อพิจารณาและหาข้อ สรุป ก่อนที่จะแจ้งต่อบริษัทให้พิจารณาทบทวน และปรับปรุงให้เป็นไปตามข้อสรุปที่คณะ อนุกรรมการได้มีมติไว้ต่อไป
2.4 หากมีผู้ร้องเรียนและมีสาเหตุที่ทำให้สงสัยได้ว่าบริษัทจด ทะเบียนอาจมีการจัดทำและเปิดเผยข้อมูลในงบการเงินไม่ตรงต่อความเป็นจริง ตลาดหลักทรัพย์จะแจ้งให้บริษัทแต่งตั้งผู้สอบบัญชี เพื่อเข้าตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษ และให้ผู้สอบบัญชีดังกล่าวนำส่งรายงานการตรวจสอบบัญชีเป็นกรณีพิเศษดังกล่าวต่อ ตลาดหลักทรัพย์โดยตรง เพื่อพิจารณาเผยแพร่ให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้ทราบต่อไป--จบ--