ASEFA ควงแขนฟินันเซีย ไซรัส โรดโชว์ 4 จังหวัดใหญ่ ดีเดย์หาดใหญ่ 17 ก.ค.นี้ หลังก.ล.ต.อนุมัติไฟลิ่ง

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday July 14, 2015 15:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 ก.ค.--IR PLUS ASEFA พร้อมเดินสายโรดโชว์เพื่อให้ข้อมูลบริษัทฯ แก่นักลงทุนใน 4 จังหวัดใหญ่ สงขลา เชียงใหม่ ขอนแก่น กรุงเทพฯ ดีเดย์เริ่มต้นที่หาดใหญ่ 17 ก.ค.นี้ เตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ 150 ล้านหุ้น หรือ 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมด "ไพบูลย์ อังคณากรกุล" เอ็มดี ASEFA มั่นใจพื้นฐานบริษัทฯ เป็นหุ้น Growth Stock วางเป้าหมายรายได้ทั้งปี 58 โตไม่ต่ำกว่า 20-25% ด้าน "สมภพ กีระสุนทรพงษ์" กรรมการผู้อำนวยการ บล. ฟินันเซีย ไซรัส ที่ปรึกษาทางการเงินและ Lead Underwrite คาดนักลงทุน ทั้ง 4 จังหวัดให้ความสนใจฟังข้อมูลอย่างล้นหลาม เป็นโอกาสแนะนำธุรกิจ และจุดเด่น ASEFA นายไพบูลย์ อังคณากรกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ ต่อนักลงทุนทั่วไป (โรดโชว์) ในพื้นที่ 4 จังหวัด ที่มีฐานนักลงทุนจำนวนมาก ประกอบด้วย อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดกรุงเทพฯ โดยเริ่มต้นในวันศุกร์ที่ 17 กรกฎาคม 2558 ที่หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอ จำนวน 150 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 27.27% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย และคาดว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศ ไทย (SET) หมวดวัสดุอุตสาหกรรมและเครื่องจักร ภายในเดือนสิงหาคมนี้ ทั้งนี้ภายหลังการให้ข้อมูลบริษัทฯ ที่จังหวัดสงขลา 17 กรกฎาคม นี้มีแผนการไปโรดโชว์ใน จ.เชียงใหม่ วันที่ 20 ก.ค. , จ.ขอนแก่น วันที่ 22 ก.ค. และสุดท้ายที่กรุงเทพฯ วันที่ 24 ก.ค. 2558 นี้ ทั้งนี้ ASEFA เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสวิตซ์บอร์ดไฟฟ้าที่ผลิตตามมาตรฐานสากลภายใต้แบรนด์ Asefa และได้รับลิขสิทธิ์จากแบรนด์ชั้นนำระดับโลก จาก Schneider Electric Industries และSocomec นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ระบบกระจายและส่งจ่ายไฟฟ้า อาทิ รางและบันไดพาดสายไฟฟ้า และโคมไฟส่องสว่างภายใต้เครื่องหมายการค้า อลูม่าร์ ซึ่ง ASEFA มุ่งมั่นพัฒนาอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างครบวงจร เพื่อรองรับการเติบโตทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทฯ มีแผนขยายกำลังการผลิตชิ้นส่วนโลหะเพิ่มเป็น 8,400 ตันต่อปี จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิต 4,800 ตันต่อปี คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2559 เพื่อรองรับการขยายตัวของตลาดในอนาคต รวมทั้งมีแผนจัดตั้งสาขาจำนวน 10 สาขา ในหัวเมืองต่างจังหวัด เพื่อรองรับโอกาสการเติบโตในแต่ละภูมิภาค รวมทั้งการเปิด AEC ซึ่งการขยายสาขาไปยังภูมิภาคจะช่วยเพิ่มช่องทางในการขายและโอกาสทางธุรกิจ ให้ครอบคลุมไปทุกภูมิภาคของประเทศ โดยจะเริ่มตั้งสำนักงานสาขาตั้งแต่กลางปี 2558 และครอบคลุมทุกภาคในปี 2559 สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ และบริษัทย่อยงวดไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีรายได้รวมจำนวน 520.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีจำนวน 441.92 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 17.88 โดยมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายจำนวน 309.42 ล้านบาท รายได้จากผลิตภัณฑ์ที่บริษัทฯซื้อมาเพื่อจำหน่ายต่อจำนวน 88.47 ล้านบาท รายได้จากการบริการจำนวน 74.22 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 23.99 ล้านบาทในงวดเดียวกันของปีก่อน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโตร้อยละ 209.38 นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้จากการรื้อถอนโครงการไฟฟ้าบางปะกง จำนวน 42.34 ล้านบาท ด้านกำไรสุทธิของบริษัทฯและบริษัทย่อย งวดไตรมาส 1/2558 อยู่ที่ 32.50 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 6.24% นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20-25% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,704.19 ล้านบาท ซึ่งในปีก่อนบริษัทฯได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทางการเมืองและบริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างภายในด้วยการลดสินค้าที่มีอัตรากำไรต่ำ ประกอบกับปีนี้บริษัทฯ จะได้ประโยชน์จากการลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐฯ อาทิ โครงการรถไฟฟ้า ขณะเดียวกันภาคเอกชนก็ได้มีการขยายการลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้า รวมถึงภาคอสังหาริมทรัพย์ ส่งผลให้ความต้องการผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ เพิ่มขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2558 บริษัทฯ มีมูลค่างานคงค้างในมือ 550 ล้านบาท โดยจะรับรู้รายได้ในปีนี้ประมาณ 500 ล้านบาท นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย หุ้นสามัญเพิ่มทุนบริษัท อาซีฟา จำกัด (มหาชน) หรือ ASEFA กล่าวว่าการนำเสนอข้อมูล (โรดโชว์) ต่อนักลงทุนในครั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทฯ มากยิ่งขึ้น ด้วยศักยภาพทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง จึงเชื่อว่าการเข้ามาระดมทุนในตลาดSET ครั้งนี้จะยิ่งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ ASEFA "ASEFA เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจสำหรับนักลงทุน เนื่องจาก ASEFA ถือเป็นผู้นำในธุรกิจผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าในประเทศไทย ยังได้สิทธิในการผลิตและจำหน่ายสวิตช์บอร์ดไฟฟ้าจาก Schneider มากที่สุดในอาเซียน รวมทั้งยังสามารถผลิตและจัดหาอุปกรณ์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า ถือเป็น One Stop Service สำหรับลูกค้า นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมากในอนาคต จากการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคม ธุรกิจพลังงานและศูนย์จัดเก็บข้อมูล ซึ่งต้องใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าจำนวนมาก โดยสำนักงานก.ล.ต.ได้อนุมัติไฟลิ่งของบริษัทฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2558 คาดว่าจะสามารถเสนอขายหุ้นและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ประมาณต้นเดือนสิงหาคม" นายสมภพกล่าว ปัจจุบันบริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนจำนวน 550 ล้านบาท และมีทุนจดทะเบียนที่ออกและเรียกชำระแล้วจำนวน 400 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะมีทุนจดทะเบียนชำระแล้วเป็น 550 ล้านบาท โดยมีกลุ่มอังคณากรกุล เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วนรวมทั้งสิ้นร้อยละ 55.54 ของทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว และลดลงเป็นร้อยละ 40.39 ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ