กรุงเทพ--30 ธ.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการป้องกันและควบคุมโรคเอดส์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2540 มีประเด็นที่สำคัญได้แก่ การบริหารงบประมาณในภาวะวิกฤติทางด้านเศรษฐกิจแผนปฎิบัติการพัฒนาวัคซีนโรคเอดส์แห่งชาติและการจัดทำโครงการปกป้องเด็กไทยจากภัยเอดส์เฉลิมพระเกียรติ
วันนี้ เมื่อเวลา 14.00 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายชวน หลีกภัย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมและป้องกันโรคเอดส์แห่งชาติ ครั้งที่ 2/2540 มีผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 40 คน โดยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวง ปลัดกระทรวงและผู้บริหารระดับสูงจากกระทรวงสาธารณสุข สำนักนายกรัฐมนตรี กลาโหม เกษตรและสหกรณ์ มหาดไทย ศึกษาธิการ อุตสาหกรรม แรงงานและสวัสดิการสังคม ทบวงมหาวิทยาลัย สภาพัฒน์ฯ สำนักงบประมาณ ปปส. สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย องค์กรเอกชน และตัวแทนผู้ติดเชื้อเอดส์สำหรับประเด็นสำคัญที่มีการพิจารณาในวันนี้ คือ แผนปฎิบัติการพัฒนาวัคซีนโรคเอดส์แห่งชาติ โครงการปกป้องเด็กไทยจากภัยเอดส์เฉลิมพระเกียรติ การก่อตั้งมูลนิธิเอดส์แห่งชาติ และแผนปฎิบัติการงบประมาณการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์แห่งชาติ พ.ศ. 2541-2544
การแพร่ระบาดของโรคเอดส์ในประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วและรุนแรง ก่อให้เกิดปัญหาตามมาคือ การติดเชื้อเอดส์ในหญิงวัยเจริญพันธุ์ หญิงตั้งครรภ์และเด็กจำนวนหนึ่ง นอกจากนั้นยังมีเด็กอีกเป็นจำนวนมากที่จะได้รับผลกระทบจากปัญหาเอดส์ โดยอาจจะมีผู้ปกครองติดเชื้อเอดส์และไม่สามารถหาเลี้ยงชีพและครอบครัวได้ตามปกติหรืออาจจะเสียชีวิตก่อนวัยอันควร ทิ้งเด็กกำพร้าไว้เบื้องหลัง
จากผลการสำรวจ อัตราการติดเชื้อเอดส์ในหญิงตั้งครรภ์เมื่อกลางปี 2540 โดยกองระบาดวิทยา กระทรวงสาธารณสุข พบว่ามีหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอดส์ในปี 2540 ถึง 17,400 คน โดย 10 จังหวัด ที่มีจำนวนหญิงตั้งครรภ์ติดเชื้อเอดส์สูงสุดเรียงตามลำดับคือ กรุงเทพ เชียงใหม่ เชียงราย ชลบุรี สงขลา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครศรีธรรมราช ขอนแก่น และระยอง ทุกจังหวัดมีการติดเชื้อเอดส์ในหญิงตั้งครรภ์ทั้งสิ้น ถ้าไม่ดำเนินการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีเด็กทารกแรกคลอดติดเชื้อเอดส์ไม่ต่ำกว่า 4,350 คน ในปี 2540 ปัญหาที่ตามมาได้แก่ปัญหาบุตรผู้ป่วยเอดส์ที่ไม่ติดเชื้อ ซึ่งอาจจะคลอดก่อนที่แม่จะติดเชื้อหรือคลอดจากแม่ที่ติดเชื้อ ต้องประสบปัญหาทางสังคมเศรษฐกิจต่อไปเพราะพ่อแม่เจ็บป่วยขาดรายได้หรือเสียชีวิตจนกลายเป็นเด็กกำพร้า ซึ่งประมาณว่าจะมีจำนวนมากถึง 86,000 คนขึ้นไปใน พ.ศ. 2543 (ค.ศ.2000)
ที่ประชุมได้มีมติให้ดำเนินโครงการที่รองรับกับการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมีมาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันการติดเชื้อเอดส์รายใหม่ โดยอนุมัติแผนแม่บทในการพัฒนาวัคซีนโรคเอดส์แห่งชาติ และมาตรการเชิงรับในการสงเคราะห์ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการติดเชื้อเอดส์ โดยมีมติให้ดำเนินการก่อตั้งมูลนิธิเอดส์แห่งชาติและจัดทำโครงการปกป้องเด็กไทยจากภัยเอดส์เฉลิมพระเกียรติ ทั้งนี้โดยเร่งระดมความร่วมมือจากทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรสาธารณกุศล เช่น มูลนิธิราชประชาสมาสัย สภากาชาดไทย ให้ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและสามารถแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ--จบ--