กรุงเทพฯ--17 ก.ค.--
กอบกาญจน์" รมว.ท่องเที่ยว ชูโมเดลศูนย์ชลบุรี เป็นต้นแบบ "Sports Tourism" มุ่งพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางการกีฬาของอาเซียน (ASEAN Sports Hub) หวังเป็นเครื่องมือกระตุ้นศก. ย้ำไทยพร้อมรับมือปัญหาศก.จีน เน้นเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ อัดแคมเปญกระตุ้นการใช้จ่ายรายหัวเพิ่ม ทั้งจีน- เอเชีย-ยุโรป
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า นอกเหนือจากนโยบายหลักของภาครัฐบาลที่จะใช้กีฬาเป็นเครื่องมือในการพัฒนาคนในชาติให้เกิดความรักความสามัคคีแล้วกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของกีฬาที่สามารถใช้เป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้การสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬาทั้งในระดับชาติ และระดับนานาชาติ จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาชมและเชียร์กีฬา ได้มีโอกาสท่องเที่ยวในประเทศไทยได้มากขึ้น
โดยภารกิจเร่งด่วนที่จะเริ่มดำเนินตามแผนยุทธศาสตร์ในระยะสั้นนี้ คือ ยกระดับสนามกีฬาให้เป็น National Training Center เพื่อใช้เป็นสถานที่เก็บตัวฝึกซ้อม "ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา" และให้บริการแก่นักกีฬาและบุคลากรกีฬาอย่างครบวงจรเพื่อพัฒนาศักยภาพของนักกีฬาและส่งผลให้ประเทศไทยประสบความสำเร็จทางการกีฬาในระดับนานาชาติเป็นศูนย์กลางการกีฬาของอาเซียน (ASEAN Sports Hub) เศรษฐกิจอาเซียน (Asean Economics Community - AEC)
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่าปัจจุบัน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) มีศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติที่อยู่ในการดูแล กกท. ทั้งสิ้น 4 ศูนย์ ได้แก่ สระบุรี, นครราชสีมา, สงขลา และ เชียงใหม่ ยังคงขาดศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติในภาคตะวันออกของประเทศไทย จึงได้เตรียมการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาแห่งชาติภาคตะวันออก ณ อ.บางละมุง จังหวัดชลบุรี โดยในเฟสแรกจะเป็นสนามแข่งขันจักรยาน BMX ซึ่งจะแล้วเสร็จในเดือนกันยายน 2559ชลบุรีเป็นจังหวัดที่มีชื่อเสียงในเรื่องการเป็นเมืองกีฬา (Sport Destination )ของภาคตะวันออก มีการจัดกีฬาในระดับชาติและนานาชาติอยู่เสมอ เช่น การแข่งขันเรือใบนานาชาติ การแข่งขันฟุตบอลชายหาดนานาชาติพัทยาคัพ (PattayaBeachFootball Cup) และงานบางแสนไทยแลนด์ สปีดเฟสติวัล (Bangsaen Thailand Speed Festival)
"ชลบุรียังมีความเป็น Sports Hubคือมีสิ่งอำนวยความสะดวก และสนามกีฬาทั้งของภาครัฐ สถานศึกษา และภาคเอกชน ที่มีความทันสมัยเหมาะสำหรับรองรับนักกีฬาและนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาใช้สำหรับฝึกซ้อม และเล่นกีฬาเพื่อเป็นกิจกรรมผ่อนคลาย และสิ่งที่สำคัญประชาชนของจังหวัดชลบุรีมีความตื่นตัวและให้การสนับสนุนในด้านกีฬา จะเห็นได้จากการมีส่วนร่วมของประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ ที่เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมกีฬาต่างๆ" นางกอบกาญจน์ กล่าว
แนวทางสานฝันสู่โอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31
รมว. กอบกาญจน์ กล่าวว่าสำหรับแนวทางและการสนับสนุนการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 จะใช้วิธีการวิเคราะห์ผลสำเร็จจากการแข่งขัน เพื่อเป็นแนวทางและการสนับสนุนการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยกำหนดตามกลุ่มสมาคมกีฬา ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
1.กลุ่มเป้าหมายเหรียญรางวัล จำนวน 4 ชนิดกีฬา ได้แก่ มวยสากลสมัครเล่น เทควันโด ยกน้ำหนัก และ แบดมินตัน
2.กลุ่มศักยภาพ จำนวน 3 ชนิดกีฬา ได้แก่ ยิงเป้าบิน ยิงปืน และ จักรยาน (บีเอ็มเอ็กซ์)
3.กลุ่มทั่วไป จำนวน 14 ชนิดกีฬา ได้แก่ เทนนิส กรีฑา มวยปล้ำ วินด์เซิร์ฟเรือใบ เทเบิลเทนนิส กอล์ฟ ยูโด ว่ายน้ำ ฟันดาบ ขี่ม้า จักรยาน เรือพาย และยิงธนู
4.กลุ่มกีฬาทีมจำนวน 2 ชนิดกีฬา ได้แก่วอลเลย์บอล และ ฟุตบอล
ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการจัดทำแผนงานและงบประมาณสนับสนุน และขณะนี้มีสมาคมกีฬา จำนวน 9 สมาคม เสนอคำขอรับการสนับสนุนงบประมาณ รวมเป็นเงิน 152 ล้านบาทเศษ ในการสนับสนุนแบ่งเป็น 3 ระยะคือ1.)การเตรียมตัวเพื่อการ Qualify 2.)การส่งแข่งขันคัดเลือกเพื่อให้ได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 3.)การเตรียมนักกีฬาเมื่อได้สิทธิ์แล้ว เก็บตัวฝึกซ้อมตั้งแต่ระยะเวลา 8 เดือนถึง 1 ปี โดยในเดือนสิงหาคม 2558 นี้ จะเริ่มเก็บตัวนักกีฬากลุ่มเป้าหมายเหรียญรางวัล และสนับสนุนการส่งเข้าแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 31 ระหว่างวันที่ 5-21 สิงหาคม 2559
มหกรรมประกวดศิลปะมวยไทยชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 18
อีกกิจกรรมหนึ่งของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นการอนุรักษ์มรดกด้านศิลปะการต่อสู้อันน่าภาคภูมิใจของชาติไทย โดยเย็นวันนี้ (15 ก.ค. 58) กรมพลศึกษาจะจัดให้มีพิธีเปิดมหกรรมการประกวดศิลปะมวยไทย ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 18 ในปีนี้จะเป็นการยกระดับมาตรฐานการประกวดและพัฒนารูปแบบการจัดงานให้มีความทันสมัยและยิ่งใหญ่มากยิ่งขึ้น แต่ยังคงเอกลักษณ์ความเป็นมวยไทยไว้ โดยการประกวดแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ 1) ประเภทไหว้ครู-ทักษะมวยไทย 2) ประเภทคีตะมวยไทย และ 3) ประเภทนาฏพาหุยุทธ์ มีจำนวนทีมส่งเข้าร่วมประกวดรวมทั้งสิ้น 85 ทีม
ในครั้งนี้กรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้สนับสนุนเงินรางวัลสำหรับนักกีฬาผู้เข้าร่วมการประกวด รวมเป็นเงินกว่า 1,700,000 บาท (หนึ่งล้านเจ็ดแสนบาท) เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจสำหรับนักกีฬาทุกทีมในการพัฒนายกระดับมาตรฐานด้านกีฬาศิลปะมวยไทย ซึ่งก็ขอประชาสัมพันธ์ศิลปะการต่อสู้อันน่าภาคภูมิใจนี้ไปยังนักท่องเที่ยวและประชาชนผู้สนใจร่วมชมได้ตั้งแต่วันที่ 15 – 19 กรกฎาคม 2558 โดยขอย้ำอีกครั้งสำหรับพิธีเปิดซึ่งจะมีขึ้นในเย็นวันนี้เวลา 18.00 น. ณ บริเวณลานอเนกประสงค์ ด้านหน้าอาคารกีฬานิมิบุตร ภายในสนามกีฬาแห่งชาติ ปทุมวัน
โครงการ "หล่อสวยด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา"
นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูร รมว.กก. กล่าวว่าปัจจุบันนี้วิทยาศาสตร์การกีฬาได้รับการยอมรับว่าเข้ามามีบทบาทในการสร้างเสริมสมรรถภาพให้นักกีฬาประสบความสำเร็จอย่างมากมาย หรือแม้จะไม่ใช่นักกีฬาที่ต้องฝึกปรือเพื่อการแข่งขัน "วิทยาศาสตร์การกีฬา"ก็มีบทบาทต่อการพัฒนาทางด้านสุขภาพร่างกาย และบุคลิกภาพ กรมพลศึกษาจึงได้จัดโครงการ "หล่อสวยด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา"ขึ้นในลักษณะการประกวดลดน้ำหนักโดยใช้หลักวิชาการและเครื่องมือด้านวิทยาศาสตร์การกีฬามาให้คะแนนและตัดสินเพื่อหาผู้ชนะ
กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้และทักษะที่ถูกต้องในการควบคุมน้ำหนักแก่ผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกินหรืออ้วน โดยได้ประกาศเชิญชวนและรับสมัครผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย (Body mass index) ตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด จำนวน 150 คน มาเข้าร่วมกิจกรรมตามโปรแกรมการควบคุมน้ำหนักด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา จำนวน 10 สัปดาห์ โดยในระยะเวลาดังกล่าวผู้เข้าร่วมโครงการจะได้รับความรู้เกี่ยวกับการออกกำลังกายสำหรับคนอ้วน การเพิ่มการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน อาหารสำหรับควบคุมน้ำหนัก เมนูเพื่อสุขภาพ การพัฒนาบุคลิกภาพ และยังได้ฝึกปฏิบัติการออกกำลังกายแบบแอโรบิกด๊านซ์ แบบแอโรบิกมวยไทย แบบฟิตบอล การออกกำลังกายแบบวงรอบ (Circuit Training) และการเสริมสร้างกล้ามเนื้อแต่ละส่วน
และภายหลังจากผ่านระยะเวลาการฝึกทั้ง 10 สัปดาห์ ก็จะเข้าสู่กระบวนการวัดผลเพื่อสังเกตเปลี่ยนแปลงต่างๆ โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลจากกรมพลศึกษา กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อเดินทางไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สิงคโปร์ หรือในประเทศไทย เช่น จังหวัดกระบี่ และจังหวัดตราด ทั้งนี้ จะมีการประกาศผลผู้ชนะเลิศ ในวันศุกร์ที่ 17 กรกฏาคม 2558 เวลา 18.00 – 20.00 น. ณ บริเวณลานด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ โซน B
ศรีสะเกษพร้อมแล้วสำหรับ "นครลำดวนเกมส์"
นางกอบกาญจน์วัฒนวรางกูร รมว.กก. กล่าวว่าสถาบันการพลศึกษาเตรียมพร้อมสำหรับการจัดแข่งขันกีฬาโรงเรียนกีฬาแห่งประเทศไทย "นครลำดวนเกมส์" ครั้งที่ 18 ระหว่างวันที่ 30 กรกฎาคม ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2558 ณ จังหวัดศรีสะเกษ โดยครั้งนี้เป็นการชิงชัย 21 ชนิดกีฬา มีโรงเรียนกีฬาสังกัดสถาบันการพลศึกษา สังกัด กทม. และโรงเรียนในสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมถึง สังกัด อบจ. และเทศบาล เข้าร่วมกว่า 30 โรงเรียน นอกจากนี้ยังมีโรงเรียนกีฬาจากต่างประเทศ เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไนส์ และ อินโดนีเซีย เข้าร่วมแข่งขันอีก 9 โรงเรียน
การแข่งขันกีฬาโรงเรียนกีฬา ถือเป็นการสนองนโยบายของรัฐบาล ในการผลิตนักกีฬาระดับเยาวชนเป็นตัวแทนทีมชาติไทยเพื่อเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันในระดับนานาชาติต่อไป อีกทั้งเป็นการส่งเสริมความร่วมมือและความสามัคคีมีน้ำใจนักกีฬาระหว่างนักเรียน บุคลากรที่เกี่ยวข้อง พิธีเปิดการแข่งขันจะมีขึ้นในวันที่ 30 กรกฎาคม 2558 เวลา 15.00 น. ณ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตศรีสะเกษ
สถานการณ์การท่องเที่ยว (กรกฎาคม 2558)
1)จำนวนนักท่องเที่ยววันที่ 1-12 กรกฎาคม 2558 มีจำนวน 953,150 คน ขยายตัวร้อยละ 43.81 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยว 2 อันดับแรก คือ จีนและมาเลเซีย
2)รายได้จากการท่องเที่ยว นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2557 จนถึงปัจจุบัน (12 ก.ค. 58) มีรายได้จากการท่องเที่ยวแล้ว 1.10 ล้านล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 22.52 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
3)จากจำนวนนักท่องเที่ยวในท่าอากาศยานหลัก 4 แห่ง ในวันที่ 1-12 กรกฎาคม มีการขยายตัวโดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมืองที่ขยายตัวถึงร้อยละ 82.4 รองลงมาได้แก่ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ สุวรรณภูมิ และภูเก็ต ที่ขยายตัวร้อยละ 76.9 ร้อยละ 50.0 และร้อยละ 23.3 ตามลำดับ
4) สถานการณ์ท่องเที่ยวใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด มีอัตราการเข้าพักเติบโตในทุกพื้นที่ โดยมีอัตราการเข้าพักสูงสุด 3 ลำดับแรกคือ จันทบุรี (74.43%), ตราด (67.01%), และตรัง (66.13%)และก่อให้เกิดรายได้ด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ดังกล่าวคือ จันทบุรี 3,110.70 ล้านบาท, ตราด 1,368.64 ล้านบาท, และ ตรัง 831.47 ล้านบาท
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ในด้านการรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจจีนนั้น ยังเชื่อว่าประเทศไทยจะไม่ได้รับผลกระทบในเรื่องการท่องเที่ยวโดยตรงเพราะ จีนเป็นประเทศใหญ่ มีคนที่ยังเดินทางท่องเที่ยวอีกจำนวนมาก และในจำนวนนี้ จะมีบางกลุ่มที่เป็นนักท่องเที่ยวระดับ Mid to High ที่อาจจะเคยไปท่องเที่ยวยังแหล่งที่มีค่าใช้จ่ายสูง เมื่อประสบกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจก็อาจจะเลือกแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวได้มากกว่า เช่น ประเทศไทย เพราะเราจัดเป็น Luxury Affordable Destination เรามีสถานที่อันสวยงามตามธรรมชาติและวิถีไทย เรายังมีความพร้อมเรื่องการจัดประชุม การรักษาพยาบาล ความพร้อมด้านการกีฬา และสามารถเชื่อมโยงกับการทำธุรกิจบริการอื่นๆ อีกมากมาย
การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism)
เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้มีการหารือระดับนโยบายระหว่าง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข . และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อร่วมกันจัดทำยุทธศาสตร์การส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้าน Medical and Wellness Tourism รวมทั้งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) เช่น พัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางการรักษาพยาบาล มีหลักประกันให้นักท่องเที่ยว มีมาตรการเพื่อให้ชาวต่างชาติทุกรายที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรมีหลักประกันสุขภาพ มีระบบเฝ้าระวังโรคติดต่อที่ดี ซึ่งจะก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อการท่องเที่ยว พัฒนามาตรฐานให้เป็นสปาวิถีไทย เช่น สปาล้านนา สปาวิถีใต้ เป็นต้น และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการหรือคณะทำงานร่วมกันร่วมกันผลักดันการแก้ไขกฎหมายทีเกี่ยวข้องเพื่อก่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ปัจจุบันค่าใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวตลาดสำคัญจากข้อมูลกรมการท่องเที่ยวเมื่อม.ค.-มี.ค.2558 พบว่าอันดับ 1-5 ได้แก่อันดับ 1 สิงคโปร์ 5,595 บาท/ อันดับ 2 จีน 5,298 บาท/ อันดับ 3 เกาหลี 5,187 บาท/อันดับ 4 มาเลเซีย 5,152 บาท และอันดับ 5 สหรัฐอเมริกา 4,884 บาท ส่วนวันพักเฉลี่ย อันดับ 1 คือเยอรมัน 17.69 วัน/อันดับ 2 คืออังกฤษ 17.61 วัน/ อันดับ 3 คือ ฝรั่งเศส 16.70 วัน/ อันดับ 4 คือรัสเซีย 14.92 วัน/อันดับ 5 คือ สหรัฐอเมริกา 13.57 วัน
"เนื่องจากทิศทางการท่องเที่ยวขณะนี้ไทยเน้นแนวนโยบายกระตุ้นการใช้จ่ายในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นกลุ่มท่องเที่ยวเชิง 5 คลัสเตอร์ เน้นการส่งต่อบอกเล่าเรื่องความประทับใจ ถ่ายทอดเสน่ห์แห่งการพักผ่อนแบบอยู่ยาวโดยไม่เน้นจำนวนนักท่องเที่ยวแต่เน้นการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพเป็นเป้าหมาย และยังคงเดินหน้าแก้ไขปัญหากลุ่มท่องเที่ยวนอมีนีอย่างเข้มงวดต่อเนื่อง" นางกอบกาญจน์ กล่าว