ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กร และจัดอันดับหุ้นกู้มีประกัน “RATCHGEN” ที่ “AA/Stable”

ข่าวทั่วไป Friday July 1, 2005 10:24 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 ก.ค.--ทริสเรทติ้ง
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ยืนยันอันดับเครดิตองค์กรของ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรี จำกัด (RATCHGEN) ที่ระดับ “AA” เท่าเดิม พร้อมกับจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้มีประกัน 2 ชุดมูลค่า 7,000 ล้านบาท และ 3,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ “AA” พร้อมแนวโน้ม “Stable” หรือ “คงที่” โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แน่นอนจากโรงไฟฟ้าราชบุรีซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ตลอดจนประสบการณ์ที่ยาวนานของผู้ปฏิบัติการโรงไฟฟ้า และความสำเร็จในการบริหารโรงไฟฟ้า
ในขณะเดียวกัน อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงความเสี่ยงในการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าและความไม่แน่นอนของการแปรรูปกิจการไฟฟ้าในอนาคตด้วย
ในขณะที่แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” สะท้อนความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงได้รับกระแสเงินสดที่สม่ำเสมอจากรายได้ค่าไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าราชบุรี และคาดว่าโรงไฟฟ้าดังกล่าวจะดำรงความสามารถในการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าต่อไปได้ ถึงแม้ว่าเงื่อนไขของวงเงินกู้ใหม่และหุ้นกู้จะเพิ่มความคล่องตัวในการจัดการทรัพย์สิน ผู้บริหารของบริษัทได้ยืนยันกับทริสเรทติ้งว่า RATCHGEN จะไม่ก่อหนี้เพิ่ม โดยการลงทุนใหม่จะผ่านทางบริษัทแม่คือ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (RATCH) และบริษัทจะมีกระบวนการภายในเพื่อจัดสรรเงินไว้ในบัญชีสำรองการชำระหนี้อย่างเพียงพอ
ทริสเรทติ้งรายงานว่า RATCHGEN เป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้น 99.99% โดย RATCH ซึ่งถือหุ้น 45% โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) RATCHGEN เป็นบริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 3,645 เมกะวัตต์ หรือเท่ากับ 14% ของกำลังการผลิตติดตั้งรวมของประเทศ บริษัทมีสัญญาขายไฟฟ้า (Power Purchase Agreement -- PPA) ระยะเวลา 25 ปีกับ กฟผ. และมีสัญญาซื้อก๊าซธรรมชาติ (Gas Sales Agreement -- GSA) ระยะเวลา 25 ปีกับ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) RATCHGEN มีผลประกอบการในปี 2547 อยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยบริษัทสามารถดำรงค่าความพร้อมจ่ายเฉลี่ยของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนให้อยู่ที่ระดับ 96% และดำรงค่าความพร้อมจ่ายของโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมให้อยู่ที่ระดับ 92% รายได้จากการขายไฟฟ้าของบริษัทเพิ่มขึ้น 11.8% จาก 35,528 ล้านบาทในปี 2546 เป็น 39,714 ล้านบาทในปี 2547 และมีอัตราส่วนความสามารถในการชำระหนี้ซึ่งไม่รวมบัญชีเงินสำรองเพื่อการชำระหนี้แต่หักส่วนเปลี่ยนแปลงสุทธิของเงินทุนหมุนเวียนอยู่ที่ระดับ 1.7 เท่า ณ สิ้นปี 2547
ทริสเรทติ้งกล่าวว่า การออกหุ้นกู้มีประกันของบริษัทในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการจัดหาเงินกู้ทดแทนเงินกู้เดิม โดยเงินกู้เดิมยอดรวม 34,262 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2548 จะทดแทนโดยวงเงินกู้ใหม่ 24,262 ล้านบาทและหุ้นกู้ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ เจ้าหนี้เงินกู้และผู้ถือหุ้นกู้จะมีสิทธิเท่าเทียมกันในหลักประกันที่ประกอบไปด้วย ที่ดิน อาคาร เครื่องจักร และสิทธิในการโอนกรมธรรม์ประกันภัยภายใต้สัญญาหลักประกันร่วม--จบ--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ