กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--นานมี
กลุ่มบริษัท นานมี ได้ร่วมกับ บ้านลานคูน แหล่งเรียนรู้ด้านศิลปะของเยาวชนจากจังหวัดมหาสารคามและจังหวัดใกล้เคียงในภาคอีสานของไทยมากว่า 10 ปี ภายใต้การนำโดย อาจารย์ธีระวัฒน์ คะนะมะ ศิลปินผู้เคยถวายผลงานเขียนภาพประกอบบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนก จัดแสดงนิทรรศการผลงานศิลปะในชื่อชุด "ศิลปะลานคูน...ศิลปะรอบตัว" ซึ่งได้คัดสรรผลงานกว่า 150 ชิ้น ถ่ายทอดเรื่องราววิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นมุมมองของเด็กๆแสดงออกอย่างสดใสและสร้างสรรค์ขึ้นตามจินตนาการอย่างอิสระ โดยมี พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ และ พันเอกหญิง ท่านผู้หญิง จิตรวดี จุลานนท์ เป็นประธานเปิดนิทรรศการที่นานมี อาร์ต แกลเลอรีเมื่อเร็วๆนี้ ซึ่งองคมนตรีได้กล่าวอย่างชื่นชมว่า เด็กๆในจังหวัดทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือแม้ว่าจะอยู่ห่างไกลแต่มีโอกาสเข้าถึงงานศิลป์ผ่านบ้านศิลปะลานคูน น่าดีใจที่ประเทศไทยมีกลุ่มคนที่ทำงานศิลปะซึ่งมีความตั้งใจ ช่วยสร้างสรรค์และเพาะบ่มเยาวชนไทย ให้ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และส่งเสริมศักยภาพให้เยาวชนไทยได้ก้าวสู่การศิลปินคุณภาพ และเป็นที่ยอมรับในอนาคต
อาจารย์ธีระวัฒน์ คะนะมะ ผู้ก่อตั้ง ศิลปะบ้านลานคูนเล่าถึงที่มาบ้านลานคูนว่า เกิดจากที่อาจารย์มีบุตรชาย 2 คน และมีที่โล่งทำเป็นลานกว้างไว้ใช้ทำงาน ด้านข้างมีต้นคูนใหญ่ ลูกๆสองคนเห็นพ่อทำงานศิลปะเกิดความชอบ จึงมาขลุกขลีเรียนรู้งานศิลป์ด้วยกัน ก่อนจะขยายวงไปสู่กลุ่มเพื่อนลูก เพื่อนร่วมโรงเรียน และกระจายไปสู่คนรักศิลปะในแถบจังหวัดมหาสารคามและภาคอีสาน จนปัจจุบันบ้านลานคูนมีสมาชิกกว่าร้อยคนแล้ว โดยนอกจากกลุ่มสมาชิกมาทำงานศิลปะด้วยกันแล้ว ยังได้ร่วมทำกิจกรรมสร้างสรรค์เพื่อสังคมในรูปแบบต่างๆ เช่นการจัดค่ายศิลปะสำหรับนักเรียนและโรงเรียนในท้องที่ห่างไกล การส่งเสริมอบรมครูศิลปะในแถบภาคอีสาน เป็นต้น เพื่อมุ่งเน้นในการใช้ศิลปะจรรโลงใจและเชื่อมหัวใจคนในชุมชนช่วยสร้างสังคมไทยเป็นสุข
ขณะที่ อาจารย์ปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) กล่าวถึง ผลงานของศิลปินตัวน้อยของบ้านลานคูนว่า น่าทึ่งมากที่เด็กไทยสมัยนี้เก่งขึ้น สามารถถ่ายทอดมุมมองที่อยู่รอบๆตัวออกมาได้อย่างเป็นตัวของตัวเองและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่น นำเสนอเรื่องราวใกล้ตัวทั้งธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมทั้งประเพณีชีวิตความเป็นอยู่ของคนอีสานสื่อสารออกมาได้ดี ทั้งด้านองค์ประกอบภาพและการใช้สี มีความกล้าที่จะใช้สีมากขึ้น อย่างบางคนรู้จักการใช้สีอะคริลิคซึ่งเป็นสีที่แห้งเร็ว และส่วนใหญ่คนจะมองว่าเป็นสีสำหรับผู้ใหญ่ แต่จริงๆแล้วใครๆก็ใช้ได้ ไม่มีข้อจำกัดในการทำงานศิลปะ หรือบางคนมีการนำสีทองเข้ามาสอดแรกในผลงาน ทำให้ดูแปลกตาและน่าสนใจ ผลงานในครั้งนี้จึงน่าชื่นใจมาก ทำให้เห็นได้ว่านอกจากจะสามารถแข่งขันบนเวทีการประกวดศิลปะแล้ว สิ่งสำคัญคือเด็กๆรู้จักแข่งขันกับตัวเองได้ด้วย
ด.ญ.ธรรมาสิริ มูลธนสาร หรือน้องอะตอม อายุ 5 ขวบ ชั้นอนุบาล3 ร.ร.ราชินีบน บอกว่า "หนูอยู่กรุงเทพฯแต่ตอนปิดเทอมหนูไปเที่ยวที่บ้านญาติที่จ.มหาสารคาม เมื่อก่อนเคยเรียนศิลปะในห้องบางครั้งก็อึดอัด แต่ไปเรียนวาดรูปที่บ้านลานคูน เป็นที่กว้างๆวิ่งเล่นก่อนเรียนก็ได้ มองไปรอบๆก็จะมีต้นไม้เยอะๆ มีเสียงนกด้วยนะคะ สนุกมากค่ะ หนูเลือกวาดรูปไหว้พระ ในช่วงปิดเทอมได้ไปวัดกับญาติที่นั่น รู้สึกอบอุ่นใจได้เจอคนมากมายมาทำบุญร่วมกัน ทุกคนรักสามัคคีกันเลยประทับใจค่ะ อยากกลับไปอีกค่ะ"