กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
วันนี้ (๑๙ ก.ค. ๕๘) เวลา ๑๘.๓๐ น. พลตำรวจเอก อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานในพิธีเปิด "โครงการสู่มาตุภูมิ ครั้งที่ ๘" เพื่อให้เด็กที่เป็นบุตรบุญธรรมในต่างประเทศได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมบ้านเกิดและนำประสบการณ์ไปเผยแพร่ในประเทศที่ตนอาศัย ณ ห้องนภาลัย บอลลูม โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) โดยกรมกิจการเด็กและเยาวชน(ดย.) เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบงานด้านเด็กและเยาวชน โดยเฉพาะงานด้านการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่งได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๒ จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลากว่า ๓๖ ปี โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน ได้มีการติดตามผลการเลี้ยงดูเด็กไทย ที่ไปเป็นบุตรบุญธรรมในครอบครัวบุญธรรมชาวต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ การส่งบัตรอวยพรปีใหม่ การส่งแบบสอบถามความก้าวหน้าของบุตรบุญธรรมเมื่อเติบโตขึ้น ตลอดจนการจัดโครงการสู่มาตุภูมิขึ้นในประเทศไทยทั้งนี้ เพื่อให้บุตรบุญธรรมได้มีโอกาสกลับมาเยี่ยมเยียนบ้านเกิดของตน และได้เรียนรู้ เข้าใจถึงขนบธรรมเนียม ประเพณีและวัฒนธรรมของไทย จึงได้จัด"โครงการสู่มาตุภูมิ" หรือ Nativeland Visit Program ขึ้นมาโดยจัดโครงการดังกล่าวมาแล้ว ๗ ครั้ง และการจัดงานครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๘ ระหว่างวันที่ ๑๙ – ๒๖ กรกฎาคม ๒๕๕๘โดยจัดขึ้นเพื่อเป็นการร่วมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๖๐ พรรษา เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๘ และเพื่อให้บุตรบุญธรรมไทยในต่างประเทศทั่วโลก ได้มีโอกาสเดินทางกลับมาร่วมเฉลิมพระเกียรติ เป็นการปลูกฝังให้บุตรบุญธรรมเกิดความรัก ความภาคภูมิใจในชาติ ศาสนา และเกิดความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของประเทศไทย รวมทั้งได้รับความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทย รวมถึงสถานที่สำคัญๆ ในประเทศไทย
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า การจัดโครงการในครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมงานจากประเทศต่างๆ จำนวนทั้งสิ้น ๔๔๒ คน ประกอบด้วย ครอบครัวบุญธรรมจำนวน ๑๓๒ ครอบครัว จาก ๑๕ ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย เบลเยี่ยม แคนาดา เดนมาร์ก ฟินแลนด์ ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ไอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา โดยในจำนวนนี้เป็นเด็กไทยที่ไปเป็นบุตรบุญธรรมจำนวน ๑๗๖ คน และผู้แทนองค์การสวัสดิภาพเด็กที่ดำเนินงานด้านการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ ซึ่งมาจากประเทศ เบลเยี่ยม แคนาดา และสวีเดน จำนวน ๓ คน มีกิจกรรมทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑลและต่างจังหวัด ได้แก่ การเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อาทิ ทัศนศึกษาวัดพระศรีสรรเพชญ์ เจดีย์สามองค์ที่บรรจุพระอัฐิของพระบรมไตรโลกนาถ พระบรมราชาธิราชที่๓ และสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ และชมศูนย์ศิลปาชีพบางไทร รวมทั้งเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆทางวัฒนธรรม และเยี่ยมชมการแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมืองที่คุ้มขันโตก นมัสการพระธาตุดอยสุเทพ ร่วมการปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทัศนศึกษาวิถีวัฒนธรรมประเพณีชนเผ่าม้งที่จังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น
"ทั้งนี้ การจัดงานดังกล่าวเป็นการเปิดโอกาสให้เด็กไทยได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิดเมืองนอนของตนอีกครั้งซึ่งจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของประเทศไทยกับประเทศที่เด็กที่เป็นบุตรบุญธรรมให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น และขอให้นำความรู้และประสบการณ์เกี่ยวกับประเพณี ศิลปะ และวัฒนธรรมไทยไปเผยแพร่ในประเทศที่ตนอาศัยต่อไป"พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวท้าย