กรุงเทพฯ--20 ก.ค.--กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์
"กลุ่มบิวท์ ทู บิวด์" ชี้ตลาดรับสร้างบ้านครึ่งหลังปี 58 ยังทรงตัว มีลุ้นปรับตัวดีขึ้นดีขึ้นช่วงไตรมาส 4 เชื่อกำลังซื้อยังมีอยู่ เดินหน้างัดกลยุทธ์ผลงานคุณภาพเรียกความมั่นใจจากลูกค้า พร้อมทำตลาดเชิงรุกโหมอีเวนท์ ออกบูธ จัดกิจกรรม Site Seeing ชิงส่วนแบ่งตลาด มั่นใจสามารถพิชิตยอดขายทั้งปีได้ตามเป้า
นายสุธี เกตุศิริ กรรมการผู้จัดการ กลุ่ม บิวท์ ทู บิวด์ บริษัทรับสร้างบ้านคุณภาพ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านครึ่งปีแรก 2558 จะเห็นได้ชัดเจนว่าตลาดค่อนข้างเงียบและซบเซา ซึ่งเป็นผลจากสถาณการณ์เศรษฐกิจของไทยที่ชะลอตัวมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อการตัดสินใจและกำลังซื้อของผู้บริโภคที่ปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งคาดว่าจะต่อเนื่องมาจนในช่วงของไตรมาส 3 แต่อย่างไรก็ตามประเมินว่าสถานการณ์ภาพรวมในช่วงครึ่งปีหลังนี้น่าจะยังทรงตัว และจะมีอัตราการเติบโตที่ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรกโดยเฉพาะในช่วง ไตรมาส 4
อาจกล่าวได้ว่าการดำเนินธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2558 ให้ได้ตามเป้าหมายในภาวะเศรษฐกิจซบเซานั้น ผู้ประกอบการจะเน้นเพียงเฉพาะในเรื่องของการอัดโปรโมชั่นหรือการแข่งขันทางด้านราคาเพียงอย่างเดียวไม่ได้ เพราะว่าไม่ใช่ปัจจัยสำคัญที่จะกระตุ้นกลุ่มลูกค้าให้หันมาสร้างบ้านได้ เพราะเชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอยู่พอสมควร แต่สิ่งที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญคือในเรื่องของคุณภาพในการก่อสร้าง เพื่อให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นที่จะสร้างบ้านท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจ เนื่องจากการสร้างแบรนด์ที่มั่นคงและครองใจลูกค้าได้ยาวนานกว่า ซึ่งในช่วงระหว่างนี้อาจกล่าวได้ว่ากลุ่มผู้ประกอบการรายใหญ่จะค่อนข้างได้เปรียบกว่าผู้ประกอบการรายย่อยในด้านของความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งของแบรนด์
โดยในส่วนของภาพรวมกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้ปรับแผนโดยการขยายเช็กเมนต์กลุ่มสินค้าให้ครอบคลุมความต้องการของลูกค้ามากขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยที่ช่วยเพิ่มทางเลือกและกระตุ้นลูกค้าในการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น โดยได้กำหนดให้แบรนด์ "บิวท์ ทู บิวด์" เป็นบ้านระดับราคา 8-30 ล้านบาทขึ้นไป แบรนด์ "บางกอกเฮ้าส์บิวเดอร์" เป็นบ้านระดับราคา 3-7 ล้านบาท และ แบรนด์ "สมอลล์เฮ้าส์บิวเดอร์" 1-3 ล้านบาท ซึ่งนับว่าในขณะนี้ตลาดบ้านที่มีการเติบโตมากสุดจะเป็นระดับราคา 2-5 ล้านบาท เนื่องจากเป็นกลุ่มผู้ซื้อที่มีความตั้งใจจริงและมีการวางแผนเป็นอย่างดีก่อนการตัดสินใจแต่ในอีกทางหนึ่งยังคงมองว่าระดับราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไปนั้น เป็นเซ็กเมนต์ที่ยังทรงตัวและยังขยับได้อีก เนื่องจากมองว่าลูกค้ากลุ่มนี้มีศักยภาพ และมีความพร้อมค่อนข้างสูง โดยไม่อิงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจเป็นตัวชี้วัดในการตัดสินใจมากนัก
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯในปี 2558 จะยังคงดันยอดขายตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ทั้งปี 900 ล้านบาท หรือโตขึ้นประมาณ 10% จากปีที่ผ่านมา เพราะส่วนหนึ่งเชื่อว่าความต้องการในการสร้างบ้านของลูกค้ายังคงมีอยู่ ประกอบกับบริษัทฯ ยังมีลูกค้าที่ติดต่อและสนใจจะปลูกบ้านกับบริษัทฯมากพอสมควร โดยในช่วงครึ่งหลังปีนี้บริษัทฯยังคงเน้นใช้แผนการทำตลาดในเชิงรุก ซึ่งแบ่งเป็นแผนงานด้านการพัฒนาคุณภาพงานก่อสร้าง นวัตกรรมระบบโครงสร้างชิ้นส่วนสำเร็จรูป ตลอดจนการพัฒนาและออกแบบบ้านใหม่หลากหลายสไตล์ ให้ครอบคลุมในทุกระดับราคาตามความต้องการของลูกค้า ควบคู่ไปกับกลยุทธ์ทางด้านการตลาดในการจัดกิจกรรม แคมเปญ การมอบโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษ และการร่วมออกบูธอย่างต่อเนื่อง เพราะเชื่อว่ากำลังซื้อยังมีอยู่มากในตลาดแต่เพียงแค่ยังชะลอการใช้จ่ายตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่นิ่ง
ซึ่งในส่วนของกิจกรรมส่งเสริมการตลาดนั้น ในช่วงครึ่งปีหลังมีหลายอีเวนท์ที่เป็นกลยุทธ์ที่สำคัญ อาทิ กิจกรรม Site Seeing ซึ่งเป็นกิจกรรมหลักของบริษัทที่จัดขึ้นเป็นประจำ เพื่อมุ่งหวังในการสร้างการรับรู้ในเรื่องความน่าเชื่อถือในการสร้างบ้านคุณภาพกับกลุ่มบิวท์ ทู บิวด์ ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความสำเร็จและการตอบรับของลูกค้ามาโดยตลอด รวมทั้งการออกบูธงานใหญ่ๆ อย่างงาน Home Builder Expo 2015 ในช่วงเดือนสิงหาคม และเร็วๆนี้ ในช่วงวันที่ 22-26 กรกฎาคม 2558 บริษัทฯจะร่วมออกบูธในงานบ้านและสวนแฟร์ 2015 ณ ไบเทค บางนา ซึ่งได้เตรียมนำแบบบ้านหลากหลายดีไซน์ไปจัดแสดงในการออกบูธดังกล่าว พร้อมด้วยโปรโมชั่นและข้อเสนอพิเศษมากมายเพื่อเป็นการกระตุ้นยอดขาย และการสร้างการรับรู้ในการตอกย้ำแบรนด์มากยิ่งขึ้น