กรุงเทพฯ--21 ก.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด นำโดย นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลและอาหาร เปิดตัวแคมเปญ "อาหารคือหลักฐานของความรัก" เดินหน้าจุดประกายให้คนไทยเล็งเห็นถึงคุณค่าความสำคัญของการปรุงอาหารทานเองที่บ้าน โดยส่งวิดีโอที่มีชื่อว่า "เมื่อปิ่นโตออกเดินทาง"ที่ตอนนี้กำลังกินใจคนทั้งประเทศด้วยยอดชมกว่า 2 ล้านวิวภายในเวลา 1 สัปดาห์ ซึ่งวิดีโอตัวนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากแม่ลูก 3 คู่ ที่แม้คุณแม่และลูกจะต้องอยู่ไกลกัน แต่ความห่างไกลก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการแสดงออกความรักผ่านอาหารฝีมือแม่ โดยมีปิ่นโตเป็นสื่อกลางในการนำพาอาหารอร่อยและความรักของคุณแม่ไปสู่ลูก ๆ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมทางการตลาดอื่น ๆ ตามมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี
นางวรรณิภา ภักดีบุตร รองประธานกรรมการบริหารกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ส่วนบุคคลและอาหาร บริษัท ยูนิลีเวอร์ ไทย เทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า "อาหารที่อร่อยที่สุด คืออาหารที่บ้าน โดยเฉพาะอาหารฝีมือคุณแม่ ซึ่งลูก ๆ ผูกพันมาตั้งแต่เล็กจนโต และแม่ก็ใช้อาหารของแม่ในการดูแลและแสดงออกถึงความรักที่มีต่อลูก แต่ด้วยวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป คนยุคใหม่ต่างกินข้าวที่บ้านกันน้อยลง และแม่นั้นก็ไม่สามารถอยู่ทำอาหารให้เราไปได้ตลอด เพื่อไม่ให้สิ่งสวยงามเหล่านี้ค่อย ๆ เลือนหายไป คนอร์ ในฐานะแบรนด์ผลิตภัณฑ์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านอาหารที่อยู่คู่ครัวไทยมานานเกือบ 4 ทศวรรษ ยึดมั่นพันธกิจในการเติมเต็มความสุขให้กับทุกมื้ออาหารของผู้บริโภค จึงได้ริเริ่มแคมเปญ "อาหารคือหลักฐานของความรัก" เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมาให้ความสำคัญ และใส่ใจกับการรับประทานอาหารที่บ้านมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของคนอร์ทั่วโลก ที่กำลังส่งเสริมเรื่องการปรุงอาหารที่บ้าน และให้ทุกคนหันมาแสดงความรักความผูกพันผ่านอาหาร"
นางวรรณิภา กล่าวเสริมว่า "จากการวิจัยของ ด็อกเตอร์สจ๊วต ไฟร์สไตล์ อดีตประธานภาควิชาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย นิวยอร์ก ได้ทำการวิจัยกับคนวัยทำงานที่ต้องห่างบ้านไปทำงานในประเทศต่าง ๆ เมื่อได้รับประทานอาหารที่เหมือนเมนูของแม่ ก็สามารถเชื่อมโยงประสาทสัมผัสระหว่างรสชาติ กลิ่น และความทรงจำ ทำให้นึกถึงช่วงเวลาในอดีตและรสชาติอาหารของแม่ที่เคยกินมาตั้งแต่สมัยยังเป็นเด็กได้ทันที ซึ่งมีผลการวิจัยที่พิสูจน์ได้ว่า อาหารของแม่ มีพลังในการสร้างสายสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นและยาวนานยิ่งขึ้น"
คนอร์ จึงนำเสนอวิดีโอที่มีชื่อว่า "เมื่อปิ่นโตออกเดินทาง" เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของ 3 คู่แม่ลูกที่ต้องอยู่ไกลกันด้วยหลากหลายเหตุผล ไม่ว่าจะเป็นการออกไปทำงานที่จังหวัดไกลบ้าน หรือแต่งงานออกไปมีครอบครัว คนอร์ขอเป็นสะพานเชื่อมความรักความสัมพันธ์นี้ ผ่านปิ่นโตธรรมดา ๆ ที่เติมเต็มด้วยความรักและห่วงใยจากแม่ และนำส่งถึงมือลูกอย่างคาดไม่ถึง ทำให้ความซึ้งและความเซอร์ไพรส์ได้รับถ่ายทอดผ่านวิดีโอออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ และสิ่งที่น่าสนใจของวิดีโอนี้คือ การที่สามารถทำให้คนดูนึกถึงเรื่องราวของแม่และครอบครัวตนเองไปกับวิดีโอเรื่องนี้ได้ เราขอเชิญทุกท่านไปรับชมกันได้ที่ youtube.com/Knorrthailand
"เราหวังว่าแคมเปญนี้จะจุดประกายให้ทั้งคนที่เป็นลูกที่ไม่ได้มีโอกาสอยู่บ้านกินข้าวกับแม่ และลูกที่มีโอกาสอยู่กับแม่ แต่ละเลยไม่เห็นความสำคัญของอาหารที่แม่ทำ ได้มองเห็นถึงความรักความใส่ใจที่แม่ใส่ลงไปในอาหาร กลับมากินข้าวที่บ้าน และลุกขึ้นมาทำอาหารกันมากขึ้น รวมถึงสนับสนุนให้คุณแม่ส่งต่อสูตรอาหารอร่อยๆ ที่มีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของแม่ให้กับลูก เพื่อให้ลูกได้ใช้ทักษะนี้ดูแลตัวเองและดูแลคนที่รักต่อไปได้ เพราะคนอร์เชื่อว่า #อาหารคือหลักฐานของความรัก" นางวรรณิภา กล่าวทิ้งท้าย