กรุงเทพฯ--22 ก.ค.--กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์
ตลาดดรักสโตร์โตกระฉูด "สหพัฒน์" เร่งดัน "ซูรูฮะ" ยึดตลาดไทยเต็มสูบ ขานรับนโยบายเชิงรุก "ซูรูฮะญี่ปุ่น" ประกาศชัยผงาดขึ้นแท่นเบอร์ 1 ผู้นำดรักสโตร์ในประเทศญี่ปุ่น หลังควบรวมกิจการเชนดรักสโตร์ชื่อดัง เลดี้ดรักสโตร์ ในพื้นที่เกาะชิโคคุ ประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จ ทำให้จำนวนสาขาในเครือซูรูฮะเพิ่มเป็น 1,603 สาขา และมียอดรายได้รวมต่อปีอยู่ที่ 494,900 ล้านเยน หรือประมาณ 137,200 ล้านบาท ทุ่มงบเร่งแผน สปีดเพิ่มสาขาในไทยคู่กับการเพิ่มแผนการตลาดเชื่อมกับธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น
เมื่อเร็วๆ นี้ นาย มาซาชิ โฮริคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูรูฮะ โฮลดิ้งส์ อิงค์ ผู้ประกอบธุรกิจ ซูรูฮะ (TSURUHA) เชนดรักสโตร์รายใหญ่ในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ควบรวมกิจการเชนดรักสโตร์ชื่อดัง เลดี้ดรักสโตร์ ในพื้นที่เกาะชิโคคุ ประเทศญี่ปุ่นได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย ทำให้จำนวนสาขาในเครือซูรูฮะเพิ่มเป็น 1,603 สาขา และมียอดรายได้รวมต่อปีอยู่ที่ 494,900 ล้านเยน หรือประมาณ 137,200 ล้านบาท นับเป็นเป็นเชนดรักสโตร์ที่มีจำนวนสาขาและยอดขายสูงเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ แซงหน้าร้านมัตสึโมโตะ คิโยชิ (Matsumoto Kiyoshi) ที่มีสาขาในญี่ปุ่น 1,528 สาขา
จากที่ “ซูรูฮะ" เชนดรักสโตร์ร้านค้าปลีกเพื่อสุขภาพและความงามชั้นนำจากญี่ปุ่น ได้ขยายธุรกิจมาในประเทศไทยโดยร่วมทุนกับเครือสหพัฒน์ ด้วยทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท และเปิดดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาเป็นปีที่ 3 ปัจจุบันมีจำนวนสาขาในประเทศไทยทั้งสิ้น 24 สาขา และมีแผนที่จะขยายสาขาคู่กับการเพิ่มแผนการตลาดเชื่อมกับธุรกิจที่ประเทศญี่ปุ่น พร้อมวางแนวทางผลักดันให้ในประเทศไทยก้าวสู่ฮับอาเซียน หลังเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซี เพราะเป็นตลาดที่ใหญ่และมีแนวโน้มการเติบโต ถือเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าไปขยายธุรกิจในระดับภูมิภาคอาเซียน ซึ่งเป็นนโยบายของบริษัทแม่ซูรูฮะที่ญี่ปุ่นที่ตั้งไว้ตั้งแต่แรก โดยวางเป้าหมายจะมีสาขาร้านซูรูฮะทั่วโลกที่ประมาณ 20,000 สาขา นายมิตซูโนบุ อาเบะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวทิ้งท้าย
น.ส.เบญจมาศ ต้องประสิทธิ์ กรรมการบริหาร บริษัท ซูรูฮะ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ซูรูฮะ เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกรูปแบบใหม่ที่มีความแตกต่างชัดเจน ภายใต้ชื่อ "ซูรูฮะ ซูเปอร์ ดรักสโตร์" ด้วยคอนเซ็ปต์ “One Stop Shopping” ซึ่งแน่นอนว่าเซนดรักสโตร์ในไทยก็ได้ขานรับการดำเนินธุรกิจในเชิงรุก เดินหน้าตามนโยบายหลักที่จะขยายสาขาให้มากที่สุดรองรับดีมานด์ผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ร้านซูรูฮะในประเทศไทย ตั้งเป้าจำนวนสาขาเปิดให้บริการอยู่ที่ประมาณ 100 สาขาภายใน 5 ปี เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับซูรูฮะในประเทศไทยก่อนที่จะก้าวไปสู่ตลาดระดับอาเซียน
แม้ปีนี้ ยังไม่บุกตลาดอาเซียนอย่างเต็มรูปแบบ แต่จะเป็นการเตรียมความพร้อมและศึกษาเทรนด์ตลาดและการเติบโต เพื่อปูทางสู่การขยายธุรกิจต่อไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจ พร้อมยังเน้นจุดเด่นในเรื่องบริการที่โดดเด่นตามแบบฉบับญี่ปุ่น และชูจุดเด่นในการเป็นศูนย์รวมสินค้าที่มีความหลากหลายที่เป็นมากกว่าร้านขายยา เรียกว่าครบครันทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค และเครื่องสำอาง มีสินค้ามากกว่า 10,000 รายการให้เลือกจบครบในที่เดียว ซึ่งการลงทุนแต่ละสาขาจะใช้งบประมาณไม่เท่ากัน มูลค่าเฉลี่ยตั้งแต่ 5-20 ล้านบาท ตามขนาดพื้นที่ เพื่อสร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง
ปัจจุบันสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้ 3% จากปีแรกเริ่มธุรกิจประมาณ 2% ซึ่งมีมูลค่าตลาดรวมธุรกิจค้าปลีกเพื่อสุขภาพและความงามมากกว่า 20,000 ล้านบาท ภายใต้การแข่งขันในตลาดที่ยังคงรุนแรง แม้จะมีผู้ประกอบการในตลาดมากขึ้น อาทิ วัตสัน, บู๊ทส์, เพรียว บิ๊กซี, ซีพี เอ็กซ์ตร้า, โอเกนกิ รวมถึงแบรนด์ใหม่ในไทย เช่น มัตสึโมโตะ คิโยชิ เป็นต้น อย่างไรก็ตามการดำเนินธุรกิจก็ต้องรัดกุมที่สุด เพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
บริษัท กนกรัตน์ แอนด์ เฟรนด์ จำกัด (ที่ปรึกษาด้านงานประชาสัมพันธ์)
โทร.02-284-2662 แฟกซ์. 02-284-2287,2291 www.kanokratpr.com
คุณกนกรัตน์ วีรานุวัตติ์ E-mail: Kanokrat@kanokratpr.com