กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--hukder company
ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ฯ ต่อ ก.ล.ต. แล้ว เพื่อระดมทุนเสริมศักยภาพการแข่งขันธุรกิจการขนส่งทางเรือสู่สากล เชื่อมั่นธุรกิจที่เติบโตมากว่า 30 ปีจะได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างแน่นนอน
นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจบริการขนส่งทางเรือครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ยื่นแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชน กับ ก.ล.ต. เป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์MAI โดยเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 38 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้(พาร์)หุ้นละ 1บาท
บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียน 170 ล้านบาทมีทุนชำระแล้ว 132 ล้านบาท ส่วนการกำหนดราคาเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนบริษัทจะดำเนินการเมื่อ ก.ล.ต.อนุมัติแล้ว
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนงานที่ชัดเจนโดยตั้งเป้าจะเป็นศูนย์กลางให้บริการเดินเรือเฟอร์รี่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญในภูมิภาคอาเซียน สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน บริษัทฯ มีแผนที่จะนำไปขยายธุรกิจเพื่อรองรับการขยายกิจการ อาทิ ซื้อเรือเฟอร์รี่ลำใหม่ เพื่อให้บริการผู้โดยสารเดินทางได้สะดวก สบาย รวดเร็วและปลอดภัย อีกส่วนหนึ่งใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจรวมทั้งการเข้าร่วมประชาคมอาเซียนในปลายปี2558
“เมื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI จะยิ่งทำให้บริษัทฯ มีความแข็งแกร่งเพิ่มขึ้น รวมไปถึงความน่าเชื่อถือและภาพลักษณ์ที่ดี มั่นใจหุ้นจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนในประเทศอย่างแน่นอนเนื่องจากธุรกิจมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอดกว่า 30 ปี” นายอภิชาติกล่าว
นางสาวปิ่นมณี เมฆมัณฑนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทริปเปิ้ล เอ พลัส แอดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้การท่องเที่ยวในประเทศไทยมีอนาคตสดใสมากยิ่งขึ้น ภายหลังจากปัญหาทางการเมืองได้สิ้นสุดไปแล้วในปี 2557 จำนวนนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเข้ามาในประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะเกาะสมุยและเกาะพะงัน ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียงระดับโลก ทำให้ธุรกิจในเกาะทั้งสองแห่ง
คึกคักตลอดทั้งปี ดังนั้นการคมนาคมที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและตรงเวลา จึงเป็นสิ่งจำเป็นในการขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวไปยังเกาะสมุยและเกาะพะงัน ส่งผลให้ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ต้องเตรียมขยายธุรกิจการเดินเรือเฟอร์รี่ให้มากขึ้น เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่นี้ต่อไปในอนาคต อีกทั้งบริษัทยังเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจจากการท่องเที่ยวของประเทศให้ก้าวต่อไปได้ด้วย
สำหรับผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทมีรายได้จากการขายและให้บริการ 665 ล้านบาท กำไรจากการดำเนินงาน 85 ล้านบาท และในช่วงมาสแรกของปี 2558 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 156 ล้านบาท คิดเป็นกำไรจากการดำเนินงาน 29 ล้านบาท