กรุงเทพฯ--23 ก.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสกรณ์
กระทรวงเกษตรฯ จัดงาน “ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” ชูแนวคิด คุณค่าแห่งสายน้ำ สร้างสวนยางเศรษฐกิจพอเพียง เปลี่ยนน้ำเสียเป็นพลังงาน เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสร้างความตระหนักให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายอำนวย ปะติเส รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีเปิดงานโครงการ เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ “ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” ชูแนวคิด คุณค่าแห่งสายน้ำ สร้างสวนยางเศรษฐกิจพอเพียง เปลี่ยนน้ำเสียเป็นพลังงาน ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดย การยางแห่งประเทศไทย (สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง และ องค์การสวนยาง) และหน่วยงานในสังกัดหน่วยงานในสังกัด ร่วมจัดขึ้นในวันที่ 22 - 24 กรกฎาคม 2558 ณ ศูนย์เรียนรู้ยางพาราจังหวัดขอนแก่น อ.เขาสวนกวาง จ.ขอนแก่น ว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาขยายผลเป็นรูปธรรมกระจายอยู่ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ แนวพระราชดำริประการหนึ่งที่สำคัญยิ่ง คือ เรื่องน้ำ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานแนวทางการจัดหาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรแก่ราษฎรในท้องถิ่นที่ขาดแคลนน้ำในการประกอบอาชีพ ตลอดจนน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคอย่างเพียงพอ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนและเพิ่มคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชนทั่วทั้งประเทศทั้งนี้ เพื่อเป็นการน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณยิ่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้น้อมนำพระราชกรณียกิจของพระองค์ท่านมาร้อยเรียงเพื่อเทิดพระเกียรติและเผยแพร่พระเกียรติคุณในโครงการ "ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ปวงประชาถวายพ่อของแผ่นดิน” ซึ่งทุกหน่วยงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดกิจกรรมเผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ในทุกๆ มิติ และนำเสนอให้ประชาชนเห็นเป็นรูปธรรมตลอดทั้งปี 2558 เพื่อกระตุ้นเตือนให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญต่อสถานการณ์ความเสี่ยงการขาดแคลนน้ำและภาวะภัยแล้งในปัจจุบัน รวมทั้งเกิดการสร้างความตระหนักของคนในชาติให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ ทุกหยดที่มีค่าและหามาด้วยความยากลำบาก ทุกภาคส่วนจึงต้องร่วมกันใช้ประโยชน์จากน้ำอย่างรู้คุณค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด และ กยท. ในฐานะหน่วยงานเจ้าภาพหลักที่มีความสำคัญในการดูแลและพัฒนาด้านยางพาราอย่างครบวงจร มีการใช้ประโยชน์จากน้ำในการปลูกสร้างสวนยางพารา จนกระทั่งได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ สามารถนำไปแปรรูปเพิ่มมูลค่าหรือประกอบธุรกิจได้อย่างมากมาย รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพสำหรับภาคครัวเรือน ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรมยางพารา เป็นสิ่งสมควรขยายผลต่อไปอย่างยิ่ง ซึ่งกิจกรรมในงานต่างๆ สามารถนำไปเป็นแนวคิดต่อยอดพัฒนา หรือประยุกต์ให้สามารถนำไปใช้ได้อย่างแท้จริงในชีวิตประจำวัน
ด้าน นายประสิทธิ์ หมีดเส็น รองผู้อำนวยการสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง ปฏิบัติงานในกิจการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้วัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่พระเกียรติคุณและแสดงถึงพระอัจฉริยภาพของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในด้านการแสวงหาแหล่งน้ำ และการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ รวมถึงสร้างความตระหนักให้ทุกภาคส่วนเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรน้ำ และใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ผ่านการรับรู้ข้อมูลและการถ่ายทอดเทคโนโลยีทางการเกษตร โดยภายในงาน จะมีกิจกรรมที่น่าสนใจต่างๆ มากมาย ได้แก่ การจัดนิทรรศการเทิดพระเกียรติ นิทรรศการการทำสวนยางแบบเกษตรผสมผสาน ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง โดยแสดงระบบการใช้น้ำ การสูบน้ำบาดาลด้วยเครื่องปั๊มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเหมาะสำหรับพื้นที่ภาคอีสานที่ขาดแคลนแหล่งน้ำบนดิน การใช้วัสดุปูพื้นบ่อน้ำด้วยยางพาราป้องกันการรั่วซึมของน้ำ การเปลี่ยนน้ำเสียในอุตสาหกรรมยางพาราเป็นพลังงานก๊าซชีวภาพสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการรมยางร่วมกับการใช้ไม้ฟืนและใช้หุงต้มอาหาร ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายแก่เกษตรกรและสถาบันเกษตรกร รวมถึงเป็นการดำรงชีพอย่างพอเพียง
ภายในงาน ประกอบด้วย กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ด้านยางพาราผ่าน 8 ฐานเรียนรู้ ได้แก่ ฐานเรียนรู้การผลิตพันธุ์ยาง ฐานเรียนรู้การปลูกยาง การดูแลรักษา พืชแซม พืชคลุมดิน ฐานเรียนรู้การบำรุงรักษา การเก็บเกี่ยวผลผลิต ฐานเรียนรู้การแปรรูปผลผลิตยางขั้นต้นฐานเรียนรู้การแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางเพื่อเพิ่มมูลค่าฐานเรียนรู้หลุม ฐานเรียนรู้บ้านวิถีบ้านวิถีชีวิตชาวสวนยาง ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และฐานเรียนรู้การปลูกยางแบบผสมผสาน